ถาม : ตัดใจอย่างไรให้ขาดจากคนรักเก่า
แม้ตัวเราจะรอคอยเขาอยู่ตลอด ต้องทำอย่างไรดีคะ?
รับฟังทางยูทูป http://youtu.be/-rnw-GUzPVo[ ดังตฤณตอบ ]
เรารอคอยเขาอยู่ตลอดหรือครับ ไอ้อาการรอคอยนั้นนะ
ลองดูก็แล้วกัน วิธีหรือเทคนิคที่จะตัดใจจากคนรัก มีหลายวิธี
แต่ว่าถ้าจะเอาตรงประเด็นสำหรับแต่ละคนนะ ก็ต้องดูว่าอาการทางใจของเรา
ผูกอยู่กับเขาด้วยอาการอย่างไรโดยมาก
อย่างกรณีนี้ บอกว่าตัวเรารอคอยเขาอยู่ตลอดเวลา
อาการรอคอยเนี่ยสังเกตมั้ย ว่ามันมีหน้าตาเป็นยังไง มันมีอาการยืดเยื้อ
มันมีอาการยืดยาด มันมีอาการที่อ้อยอิ่ง
มันมีอาการที่เหมือนใจลอยไปอยู่ข้างนอกตลอดเวลา ยืดออกไปนอกตัวตลอดเวลา
ไม่สามารถเอากลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวได้
ถ้าเราสามารถเห็นลักษณะอาการของใจ ที่มันยืดเยื้อ ยืดยาดนะ
แล้วก็เหมือนกับไปแปะติดอยู่กับอากาศเวิ้งว้างภายนอก โดยไม่มีเป้าหมาย
โดยชีวิตมันเหมือนไม่มีจุดหมายอะไรที่ชัดเจนอยู่เลย ดูลักษณะของใจแบบนั้นนะ
ที่มันเกิดขึ้นบ่อยๆเนี่ยนะ รู้ไปเพื่ออะไร รู้เพื่อให้เห็นว่า เมื่อไหร่ก็ตาม
ที่เรารู้สึกถึงอาการยืดเยื้อ เรารู้สึกถึงอาการที่จิตเนี่ย
มันเหมือนเลื้อยออกไปนอกตัวบ่อยๆเข้า เราจะรู้สึกถึงความน่าเบื่อหน่าย
ของอาการทางจิตแบบนั้นๆ มันเหมือนคนเป็นโรคอะไรชนิดหนึ่ง
แต่ถ้าไม่มองให้เห็นอาการทางใจนะ
มันจะมัวเฝ้าสร้างแต่มโนภาพตัวตนของเขาขึ้นมา
หรือว่าหวนไปนึกถึงอดีตที่น่าประทับใจ อดีตที่น่าติดใจอยู่ร่ำไป
เมื่อเราแทนที่มโนภาพดีๆ มโนภาพเก่าๆที่น่าติดใจ
ด้วยความน่าเบื่อหน่ายของลักษณะทางจิต นานเข้าจิตจะฉลาดขึ้นเอง ฉลาดเห็นว่า
อาการทางใจที่มันยืดเยื้อ ที่มันมีความรอคอย ที่มันไม่มีเป้าหมายชัดเจน
มันเป็นแค่สภาพอะไรอย่างหนึ่ง ที่น่าเบื่อเป็นที่สุด ปกติเราจะไปนึกว่า
ชีวิตเป็นของน่าเบื่อ ในเวลาที่เรารอสิ่งที่ไม่ได้ดั่งใจ แต่จริงๆแล้วเนี่ยนะ
เมื่อเรามีสติเห็นได้ชัดว่า อาการทางใจเป็นอย่างไร มันจะอ๋อขึ้นมาเอง
อ๋อขึ้นมาดังๆว่า สิ่งที่น่าเบื่อไม่ใช่ชีวิตนะ แต่เป็นสภาพทางใจ
แต่เป็นอาการทางใจนี่เอง ที่มันน่าเบื่อที่สุด ที่มันไม่ได้น่าอาลัยอาวรณ์
ไม่ได้น่ารัก น่าพิศวาสอะไรเลย
อดีตที่ผ่านไปแล้ว มันจะน่าพิศวาสแค่ไหนไม่รู้ แต่รู้เลยว่า
อาการรอแบบไม่มีที่สิ้นสุด อาการรอแบบยืดเยื้อเปล่าๆเนี่ย อาการทางใจแบบนั้นเนี่ย
มันไม่น่ารักเอาเลย ถ้าเปรียบเป็นหน้าตาของคน ก็บอกได้ว่า
สภาพจิตที่มีการรอคอยเนี่ย เป็นคนที่หน้าตาขี้เหร่ เป็นคนที่ไม่น่าคบหา
เป็นคนที่มีสภาพที่ไม่น่าเข้าใกล้เป็นที่สุด แต่เราปล่อยให้คนพันธุ์นั้นเนี่ย
หรือจิตพรรค์นั้นเนี่ยมาอยู่ติดตัวเราได้ ก็เพราะว่าเราไม่ได้มอง เรามองไม่เห็น
เรามองไม่ชัด มีความมืดบางชนิดบดบังอยู่ มีความมืดอันเกิดจากความอยาก
ความอยากแบบไม่มีที่หมายปลายทาง ไม่มีจุดหมายปลายทาง
ความอยากในแบบที่เหมือนเราตกอยู่ในห้องมืด ที่ไม่มีคนมาส่องแสงไฟให้
ทีนี้ถ้าหากว่า เราเอาสติมาเป็นแสงไฟ
ส่องให้เห็นว่าไอ้ห้องมืดนั้นน่ะ มันไม่ได้มีความน่าติดใจอะไรอยู่เลย
มันมีแต่ความว่างเปล่า มันมีแต่ความรกร้าง มันมีแต่ความรก มันมีแต่กลิ่นเหม็น
มันมีแต่ความชื้นแฉะ ที่ไม่น่าที่จะอยู่อาศัย อยู่ในนั้นเอาซะเลย
พอเห็นบ่อยเข้ามันจะเริ่มตื่น ตอนเนี่ยเหมือนกับยังหลับอยู่ ยังหลงอยู่
ยังไม่ตื่นนะ ให้สติมาเป็นแสงนำ ให้สติมาเป็นตัวปลุกให้ตื่นนะครับ
ก็ต้องเกิดขึ้นบ่อยนะ
ของพรรค์นี้เนี่ยไม่เกิดขึ้นกับตัว ก็ไม่รู้หรอกว่า
มันจะต้องใช้สติไปนานแค่ไหน แต่จะนานแค่ไหนมันคุ้มครับ เมื่อผลเกิดขึ้น
ผลคือความสุข ผลคือชีวิตใหม่ ผลคือความสว่างที่มันต่างไปนะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น