วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2563

ถ้าได้ฌาน สามารถทำให้ตัณหาราคะหมดไปหรือบรรเทาเบาบางลงไปได้หรือไม่ครับ?

 

ดังตฤณ :  ต้องเข้าใจก่อนว่าฌานไม่ใช่ของที่เที่ยงนะครับ มันขึ้นอยู่กับว่าเราทำแค่ไหน ใส่เหตุปัจจัยใส่ความเพียรเข้าไปแค่ไหน

 

ถ้าหากว่าเราเป็นผู้ทรงฌาน คำว่า “ผู้ทรงฌาน” หมายความว่า อย่างแค่นึกถึงลมหายใจ นึกถึงอาการที่ท้องพองออกมามีความสุข แค่นี้นะความสุขที่มันเกิดขึ้น ที่มันมีกำลังหนุนอยู่แล้วเนี่ย มันก็ทำให้จิตรวมลงเป็นฌานได้ทันที เนี่ยอย่างนี้เรียกว่าผู้ทรงฌาน

 

ผู้ทรงฌานเนี่ย ความรู้สึกที่อยู่ๆจะตรึกนึกถึงกามราคะขึ้นมาเองมันจะไม่มี มันจะไม่มีความใคร่ไปในเนื้อหนังออกมา แต่ต่อให้เป็นผู้ทรงฌานนะครับ เกิดเห็นผู้หญิงสวยๆ หรือถ้าเป็นผู้หญิงก็เห็นผู้ชายหล่อๆ แล้วเกิดความยินดีในรูปขึ้นมา ฌานเสื่อมได้ทันทีนะครับ เหมือนอย่างที่มีพระชาติหนึ่งของพระพุทธเจ้า ท่านเคยเป็นฤาษีทรงฌานได้ขนาดที่เหาะเหินเดินอากาศได้ แต่ด้วยความที่ไปเจอดี ท่านเหาะไปเพื่อที่จะไปสอนพระราชา ทีนี้พระราชาครั้งนั้นก็มีมเหสีซึ่งก็คือคู่ของท่าน คือพระนางพิมพาในอดีตก็ไปเป็นมเหสีของพระราชานั้น พระราชานี่ชาติสุดท้ายก็เป็นพระอานนท์

 

ฤาษีได้เห็นมเหสีทางหน้าต่างของปราสาท แล้วก็ผ้าผ่อนอาจจะไม่ค่อยอยู่กับที่กับทางเท่าไหร่ ด้วยความที่ว่าผูกเป็นคู่กันมานาน เป็นคู่บุญกันมานาน แล้วก็ประกอบกับที่ว่า พระนางมีความงดงามทางสรีระ เห็นเข้านี่ฌานเสื่อมเลย ที่บินอยู่ตกลงมาเลยนะครับ ฤาษีตนนั้นก็บอกว่า ไม่เอาแล้วไม่มาสอนแล้ว คือบ๊ายบายแล้วไม่เอาแล้วนะครับ เข็ดเลยเพราะรู้แล้วว่า เนื้อคู่ของท่านก็อยู่ที่นั่นๆเอง การเจอเนื้อคู่ของตัวเองในขณะที่ทรงฌานอยู่เนี่ยมันไม่เหมาะนัก ก็เลยเป็นที่มา

 

คือเรื่องจะจริงไม่จริงยังไม่ต้องไปสนใจหรอกนะครับ สนใจตรงที่ว่ามันเป็นเรื่องจริงที่ต่อให้ทรงฌานอยู่ก็สามารถที่จะตบะแตกได้ ถ้าหากเห็นรูป หรือได้ยินเสียง หรือได้รสสัมผัสทางเนื้อหนังที่กระตุ้นให้กามราคะมันกำเริบขึ้นมา

 

ตัวของฌานแค่ทำให้เราเนี่ย ไม่ตรึกนึกไปในทางกาม คือคนปกติทั่วไปเนี่ยนะครับ เขาบอกว่าเคยมีนักจิตวิทยาบอกว่า อย่างผู้ชายเนี่ยจะคิดเรื่องทางเพศทุกสี่นาที ห้านาที อันนี้จริงไม่จริงขึ้นอยู่กับแต่ละคนจะไปสำรวจตัวเองนะครับ มันจะมีความคิดแวบเข้ามาอยู่เรื่อยๆเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ ซึ่งโดยตัวผมเองผมไม่ค่อยเชื่อเขาพูดอย่างนี้นะที่ฝรั่งพูดแบบนี้ อาจจะไปสำรวจได้กลุ่มสำรวจที่อาจจะมีความมักมากในกามอะไรอย่างนี้ ก็เอาเป็นว่า เขาบอกคนปกติทั่วไปที่ไม่ได้มีความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ จะมีความตรึกนึกถึงกามอยู่เรื่อยๆ

 

เพราะฉะนั้นคือที่พระพุทธเจ้าท่านให้เป็นอุบายในสติปัฏฐาน ท่านก็ให้พิจารณากายโดยความเป็นของโสโครก โดยเป็นอสุภะ คือไม่ใช่เพื่อให้เกิดความทุกข์ทรมานเปล่านะ แต่เพื่อให้จิตมันถอย มันแยกออกมาจากความกำหนัดยินดีทางกาย

 

แต่ที่นี้ถ้าถึงแม้จะไม่ได้เจริญอสุภกรรมฐาน แต่ถ้าหากทำสมาธิอย่างถูกต้อง ทำอานาปานสติจนกระทั่งได้รู้สึกถึงความสุขความวิเวกอันเกิดจากการเห็นลมหายใจเข้า-ออก อย่างนี้จิตก็สงบลงจากการตรึกนึกกามราคะได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าความถี่ความบ่อย หรือว่าความต่อเนื่องในการเห็นลมหายใจของคุณมันจะมีความแน่นหนาแค่ไหน

 

พระพุทธเจ้าเคยตรัสนะครับ ผู้เจริญอานาปานสติ คือผู้ที่พ้นจากบ่วงมาร มารในที่นี้มีทั้งขันธมารด้วย ราคะๆเกี่ยวกับความยินดี ความยึดติดความใคร่ในกามารมณ์ ซึ่งถ้าหากว่าพิจารณาแบบนี้ จะมองเห็นว่า ตัณหาราคะไม่ได้หมดไปเพราะฌาน ฌานแบบโลกๆหรือที่เรียกว่า

“อารัมมณูปนิชฌาน” คือพูดง่ายๆว่าได้ฌานแบบเป็นเหมือนกับพิจารณาแค่ลมหายใจเข้า-ออกหรือว่าดูดวงกลมให้เป็นกสิณแบบนี้เนี่ยนะ มันได้แค่กดฌานลงไปจากจิตสำนึก คือจิตสำนึกของคนที่ได้ฌานเนี่ย มันจะไม่ตรึกนึกถึงกามเท่านั้นเอง แต่กามตัวกามมันยังอยู่ในขันธสันดาน มันยังนอนเนื่องเป็นตะกอนอยู่ ถูกกระตุ้นขึ้นมาเมื่อไหร่มันก็กำเริบขึ้นมาเมื่อนั้น

 

กามราคะจะสิ้นไปอย่างสิ้นเชิงต่อเมื่อถึงอนาคามีเท่านั้น เป็นพระอนาคามี ได้อนาคามีผล คือบรรลุธรรมขั้นสาม ผ่านความเป็นพระโสดาบันมาแล้ว ผ่านความเป็นพระสกทาคามีมาแล้ว แล้วก็ได้เข้าถึงความเป็นพระอนาคามี อันนั้นแหละถึงจะเรียกว่า เป็นผู้สละเรือนโดยจิต คือจิตเนี่ยไม่เอาเรื่องกามราคะแล้ว ไม่สามารถที่จะสะเทือนด้วยภาพทางตา หรือว่าเสียงทางหูที่มันยั่วยวนแบบโลกๆได้อีกนะครับ


---------------------------------------------

ผู้ถอดคำ                      แพร์รีส แพร์รีส
วันที่ไลฟ์                  ๘ สิงหาคม ๒๕๖๓ (รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน)
คำถาม                         ถ้าได้ฌาน สามารถทำให้ตัณหาราคะหมดไปหรือบรรเทาเบาบาง
                              ลงไปได้หรือไม่ครับ?
ระยะเวลาคลิป           ๗.๒๕ นาที
รับชมทางยูทูบ                https://www.youtube.com/watch?v=zFc8AVMPzx4&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=7&t=0s

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น