ดังตฤณ : อันนี้เป็นความเคยชินนะครับ ก็ตามหัวข้อของวันนี้นะครับ พูดถึงเรื่องของความเบื่อ บอกว่า “พอเรารู้สึกเบื่อ ก็มักจะหาสิ่งเร้า แล้วก็ทำตามใจตามกิเลสบ่อย ๆ อันนี้จะแก้ความเคยชินแบบนี้ได้ยังไง”
คือมันแก้ไม่ได้ด้วยการที่บอกว่า “อย่าไปตามใจกิเลส อย่าไปเอาตามนี้ จนกระทั่งถอนตัวไม่ขึ้น” อะไรแบบนี้ มันแก้ไม่ได้แบบนั้นนะครับ
ด้วยความตั้งใจ ด้วยความคิด หรือว่าแม้ด้วยอาการแบบว่าฝืน จะมีขันติ ไม่เอาตามนั้น มันทำไม่ได้ เพราะว่า คนเราเวลากำลังเบื่อ มันต้องการสิ่งชดเชยที่มีความชุ่มฉ่ำ
ถ้าหากว่าเราเบื่อแล้วไม่เอาอะไรมาแก้เบื่อเลย มันก็จะกลายเป็นความรู้สึกอึดอัด เป็นทุกข์แห้งแล้งหนักเข้าไปอีก บอกว่า “โอ้ยเนี่ย ไปทำตามกิเลสมันไม่ดี” เสร็จแล้วก็เลยไม่ทำอะไรสักอย่าง ปล่อยให้เบื่อจุกอก หน้าตาหมองคล้ำอยู่อย่างนั้นเนี่ยนะครับ อันนี้ก็ไม่ได้แก้ปัญหาเหมือนกัน แล้วก็ไม่ได้หมายความว่า กิเลสของเราจะลดลงด้วย มันเป็นแค่การลงโทษตัวเอง เป็นแค่การฝืนอัดอั้นเฉย ๆ
วิธีที่เราไม่ต้องไปหาสิ่งเร้าก็คือ
เราจะต้องหาความชุ่มชื่นในแบบที่ไม่ต้องอาศัยสิ่งเร้า มาเป็นตัวชดเชย
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเรายังสวดมนต์ในแบบที่สวดแล้วเกิดความชุ่มชื่นไม่เป็น ก็หัด
ใครสวดแบบนกแก้วนกขุนทอง อ่ะลองดู สวดด้วยความตั้งใจจะถวายแก้วเสียงเป็นพุทธบูชานะครับ
อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมา เนี่ยตั้งใจว่าเราจะถวายแก้วเสียงนี้เป็นพุทธบูชานะ
อาการทั้งหมดที่พนมมือไหว้
ตัวที่คอตั้งหลังตรง มันแสดงความเคารพ แสดงความเป็นดอกบัวบูชา
ตรงที่เราเกิดความรู้สึกว่า ด้วยเหตุปัจจัยอันเป็นกุศลอันใดที่เราฝึกแล้ว ๆ ก็สามารถที่จะมาแทนที่ความเบื่อได้ ขจัดความเบื่อทิ้งได้ เราก็จะเห็นเป็นช้อยส์ (choice) บางวันเราอาจจะเลือกความบันเทิงตามความเคยชิน แต่บางวันเราจะรู้สึกว่า ความบันเทิงเนี่ย มันน้ำหยดน้อย มันยังกินไม่อิ่มเลย สองชั่วโมงดูหนังจบ ไม่เห็นเกิดความรู้สึกว่ามันอิ่มหนำตรงไหน
ลองไปเอาแบบที่สวดมนต์ถวายแก้วเสียงดูซิ เออปรากฏว่า ถ้าเราฝึกมาอย่างดีนะครับ แค่ตั้งจิตว่า เราจะถวายแก้วเสียงเป็นพุทธบูชา อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมา ๕ วินาทีแรกเท่านั้นความชุ่มชื่นมันเกิดขึ้น ผุดโพลงขึ้นนะ ราวกับน้ำพุแห่งความเบิกบาน ที่มันดันขึ้นมาจากกลางอก ความเบื่อหาย นี่เราเกิดความเปรียบเทียบแล้ว ได้ข้อเปรียบเทียบแล้วว่า ไอ้ความบันเทิงมันกำจัดความเบื่อไม่ได้จริง
เพราะบางทีช่วงไหนคุณดูหนังมาก ๆ ดูแบบโหด ๆ เลย ดูซีรี่ย์แบบตาเขียวถึงโต้รุ่ง มันก็กลายเป็นความเบื่ออีกแบบ เบื่อที่จะดูซีรี่ย์ เบื่อที่จะดูหนัง เบื่อที่จะดูละคร
อะไรก็แล้วแต่ ที่มันอัดเข้าไป แล้วไม่เกิดความชุ่มชื่น มันเบื่อ มันเกิดความรู้สึกว่าจุกอก บางทีเหมือนจะอ้วก
คงเคยนะหลาย ๆ คนเนี่ย ดูจนเหมือนจะอ้วก แต่ว่า มันก็ยังติดอยู่นั่นน่ะ หัวใจมันผูกอยู่กับเรื่องราว ตอนเด็ก ๆ ผมจำได้เลย บางทีดูหนังกำลังภายในอยู่สามวันสามคืน คือคนที่เขาทำซีรี่ย์เนี่ย จะประสบความสำเร็จได้ เขาต้องเรียนรู้สิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ คือ ก่อนจะจบแต่ละตอน ต้องมีเหยื่อล่อให้ติดเบ็ด อยากรู้ตอนต่อไป ซึ่งไอ้นี่ตัวนี้แหละที่มันจะเป็นสะพานนำไปสู่การดูไปเรื่อย ๆ แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวขาดสติ แล้วทั้ง ๆ ที่มันเบื่อจนจะอ้วกอยู่แล้ว ก็ยังอดไม่ได้ มันรู้สึกอยากรู้ ไอ้ความอยากรู้บางทีมันชนะความเบื่อ แต่เสร็จแล้วพอดูจบ จบซีรี่ย์ปุ๊บ ฮืมเบื่ออีกแล้ว ต้องดูซีรี่ย์ใหม่
ที่แท้แล้วการดูหนัง การเสพความบันเทิง มันไม่ได้กำจัดความเบื่ออะไรเลย มันไม่ได้มาแทนที่ความเบื่อแต่อย่างใดเลยนะครับ มันมาเพิ่มความเบื่อในอีกแบบหนึ่ง เบื่อที่จะอยู่โดยไม่มีซีรี่ย์ อยู่โดยไม่มีหนังดู อยู่โดยไม่มีเพลง เนี่ยความเบื่อมันแปรรูป ถูกแปรรูปมาเป็นอารมณ์ไม่อยากอยู่เปล่า ๆ ไม่อยากอยู่ว่าง ๆ โดยปราศจากสิ่งบันเทิง
แต่ถ้าคุณมีเครื่องชดเชย เครื่องทดแทน ที่เห็นแล้วเปรียบเทียบแล้วว่ามันดีกว่า มันเป็นน้ำที่กินอิ่มกว่า อย่างเช่น ถ้าทำสมาธิได้ เจริญสติได้ แล้วเกิดความรู้สึกเหมือนกับว่า เกิดความปีติรู้สึกว่าใจวิเวกหวานชื่น แล้วก็อิ่มหนำสำราญอยู่ในปีติสุขแบบนั้นได้เป็นชั่วโมง ๆ โดยไม่รู้เบื่อรู้หน่าย แล้วร่างกายมันก็ยิ่งมีความแข็งแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างที่พระสารีบุตรบอก อย่างกามคุณ ๕ ยิ่งเสพมากขึ้น ร่างกายมันยิ่งอ่อนเพลียยิ่งอ่อนแอ
ในขณะที่การสงัดจากกามคุณ แล้วก็ปลีกวิเวก ทำสมาธิ ทำให้ปีติสุขมันเกิดขึ้นเนี่ยนะครับ มันอิ่มหนำสำราญ แล้วก็ยาวนานกว่าเยอะ อันนี้แหละที่จะทำให้คุณเลิกเห็นความบันเทิงเป็นคำตอบเดียว
๒๒
สิงหาคม ๒๕๖๓ รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน
ตอน หยุดเบื่อด้วยอุเบกขา
คำถาม : พอเรารู้สึกเบื่อ ก็มักจะหาสิ่งเร้า
และทำตามใจกิเลสบ่อย ๆ
จะแก้ได้อย่างไรบ้างครับ?
ระยะเวลาคลิป ๖.๓๗
นาที
รับชมทางยูทูบ https://www.youtube.com/watch?v=6SwTjyha7F4&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=4
ผู้ถอดคำ แพร์รีส แพร์รีส
** IG **
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น