วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2563

จิตมีลักษณะเป็นคลื่นหรือไม่ หลายครั้งที่ผมเหมือนสัมผัสคลื่นความคิดคนอื่นได้ เช่น อยู่ใกล้คน ที่อารมณ์หงุดหงิด ต่อให้ไม่รู้ว่าเขาหงุดหงิดหรือไม่ ก็รู้สึกร้อนเหมือนเหนี่ยวนำให้เราหงุดหงิด ไปด้วย?

 

ดังตฤณ :  อันนี้เป็นสิ่งที่จริง ๆ แล้วพระพุทธเจ้าท่านสอนเลยนะ ท่านสอนให้สัมผัสจิตคน ถ้าอ่านสติปัฏฐานแบบตลอดสายจริง ๆ ท่านสอนให้อ่านวาระจิตคนได้ด้วย ไม่เชื่อลองไปอ่านดูนะ

 

คือขึ้นต้นมา ท่านให้รู้ลมหายใจตัวเองก่อน พอรู้ลมหายใจตัวเองแล้ว ก็ให้ไปดูว่าคนอื่นเขาหายใจยังไง มันมีเข้ามีออกเหมือนกัน มันมียาวมีสั้นเหมือนกัน แล้วเราจะพบว่า ความต่างมันอยู่ตรงที่ว่า ของเราเนี่ย มันยิ่งเจริญสติไปมาก มันยิ่งยาวขึ้น ยาวขึ้น  ของคนอื่นส่วนใหญ่จะสั้นลง สั้นลง นะครับ

 

พอได้รู้ว่า แต่ละลมหายใจมันมีสั้นมียาวไม่เท่ากัน เราก็จะเริ่มสัมผัสว่า แต่ละลมหายใจ มันนำพาเอาความสุข หรือว่าความทุกข์มา ถ้าเราสัมผัสได้ว่า ของตัวเองเนี่ยมีสติรู้ แล้วก็สัมผัสได้จริง ๆ ว่า ลมหายใจแต่ละระลอก มันพาความสุขและความทุกข์มาไม่เท่ากัน ไม่เท่าเดิม มันก็จะเริ่มจำได้ เริ่มเกิดความรู้ว่า ภาวะของสุข ภาวะของทุกข์ที่มากับแต่ละลมหายใจ ในคนอื่นก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน เห็นเลยนั่ง ๆ ดูอยู่เนี่ยว่า เขากำลังหายใจเข้า หายใจออกอยู่ด้วยความรู้สึกเป็นทุกข์ หรือเป็นสุข อยู่ ๆ บางทีมันไปรู้เองเลยนะว่า เขากำลังคิดอะไร คิดถึงอะไร คิดเป็นอกุศล หรือว่าเป็นกุศล ไปรู้ภาวะของจิตเขาว่า มืดหรือสว่าง

 

ตัวภาวะของจิต ตัวภาวะของอารมณ์ มันก็เหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลว่ามันเป็นคลื่น  แม้แต่กระทั่งร่างกายของเรา จริง ๆ แล้วก็เป็นคลื่น ถ้าในทางควอนตัมฟิสิกส์ มันเป็นคลื่นความสะเทือนของอะตอมที่มันมีพันธะต่อกัน

 

คือเราไม่ต้องเห็นเข้าไปถึงระดับอะตอม เห็นเอาแค่นี้ว่าลมหายใจกำลังเข้า ลมหายใจกำลังออกอยู่ เราก็ทราบถึงภาวะความเป็นคลื่นแล้วนะครับ

 

คลื่นที่มันเข้ามาเป็นคลื่นลม เป็นธาตุลม มีอาการพัดเข้า มีอาการพัดออก แล้วก็คลื่นโดยความเป็นคลื่นสดชื่น หรือว่าคลื่นแห่งความห่อเหี่ยว ถ้าสามารถรู้ได้ถึงภาวะความเป็นคลื่นเป็นระลอก ๆ นี้ได้อยู่ตลอด แล้วก็สามารถสังเกตเห็นว่า คลื่นของเราเป็นอย่างไร คลื่นของคนอื่นมันก็มีธาตุแท้ หรือความเป็นมูลฐานเหมือนกัน ไม่ต่างกันเลย มีความเป็นธาตุพัดเข้า พัดออก ที่เรียกว่าธาตุลม หรือมีความเป็นธาตุที่นำความสดชื่น หรือว่านำความเหี่ยวแห้งเข้ามาสู่ร่างกาย

 

คนหายใจสั้น คือ ผู้ที่เอาความเหี่ยวแห้งเข้าสู่ร่างกาย

คนหายใจยาว คือ ผู้ที่เอาความสดชื่นเข้าสู่ร่างกาย เนี่ยมันเป็นคลื่นเหมือนกัน แล้วการที่เราสัมผัสคลื่นของตัวเองได้ ก็ทำให้สัมผัสคลื่นของคนอื่นได้เป็นปกติด้วยเช่นกันนะครับ

 

สำหรับคนทั่วไปที่ไม่เข้าใจหลักการ แล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจว่า จะอาศัยจุดสังเกตอย่างไรมาพัฒนาความสามารถตรงนี้ ก็จะงงนะว่า เอ๊ะ! เมื่อกี้ที่สัมผัสได้เนี่ย มันหลอกตัวเองหรือเปล่า อุปาทานไปหรือเปล่า แต่ทำไมพอไปคุยกับเขาว่า “เออเป็นอะไรรึเปล่า คิดมากรึเปล่า”  เออมันกำลังคิดมากอยู่จริง ๆ  แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเราถึงรู้นะครับ

 

ทีนี้ถ้ามาดูที่พระพุทธเจ้าสอน ก็จะทราบเป็นขั้นเป็นตอนเลยนะครับว่า ท่านสอนให้รู้วาระจิตคนอื่นได้ยังไงนะครับ แต่จริง ๆ ทางพุทธสอนให้รู้วาระจิตคนอื่น ไม่ใช่เพื่อที่จะไปจับไต๋เขานะครับ แต่ว่าเพื่อที่จะให้เห็นว่า ไม่ต่างกันเลยกับภาวะของเรา ชีวิตของเรา นะครับ ของเราเป็นอย่างไร ของเขาเป็นอย่างนั้น ของเราเป็นยังไง มันมีความไม่เที่ยง มีความไม่ใช่ตัวเดิม มีความไม่ใช่ตัวตนอยู่ตลอดเวลา ของคนอื่นก็อย่างนั้น ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวเดิม เพราะไม่ใช่ตัวตน!


-------------------------------------------

๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน
ตอน หยุดเบื่อด้วยอุเบกขา

คำถาม :  จิตมีลักษณะเป็นคลื่นหรือไม่ หลายครั้งที่ผมเหมือนสัมผัสคลื่นความคิดคนอื่นได้ เช่น อยู่ใกล้คนที่อารมณ์หงุดหงิด ต่อให้ไม่รู้ว่าเขาหงุดหงิดหรือไม่ ก็รู้สึกร้อนเหมือนเหนี่ยวนำให้เราหงุดหงิดไปด้วย?

ะยะเวลาคลิป           ๕.๐๘ นาที
รับชมทางยูทูบ           https://www.youtube.com/watch?v=dz9phwYnj9I&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=8

ผู้ถอดคำ  แพร์รีส แพร์รีส

 ** IG **

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น