วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2563

คือสงสัยเรื่องพระเวสสันดร ว่าท่านได้ให้บุตรและชายาตามคำขอแก่ชูชก คนสมหวังและมีความสุขคือชูชกคนเดียว ส่วนบุตรและชายาคงต้องมีความทุกข์แน่นอน อยากทราบคำตอบว่า อะไรคือบุญ อะไรคือความสุขจากการให้ในเรื่องนี้คะ?

 

ดังตฤณ :  อันนี้เป็นความคาใจ ที่บอกว่า เอ๊..พระเวสสันดรท่านได้ทำทานด้วยบุตรและธิดา แล้วเห็นชัดๆว่า บุตรและธิดาจะต้องเป็นทุกข์

 

คือเราไปมองแค่ตรงนี้ไม่ได้ ต้องมองจุดประสงค์ของท่าน ในประวัติของพระเวสสันดรที่บันทึกไว้ก็คือ ท่านรู้ว่าท่านจะมีความปรารถนา แล้วก็จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งนะครับ แล้วท่านก็ตั้งใจให้ชาตินั้น เป็นชาติแห่งการบริจาคออก เป็นการไม่ยึดติด เพื่อที่ให้ใจเนี่ย คือมันไม่มีอะไรเหลือจริง ๆ มีแต่การคิดให้จริง ๆ

 

แล้วท่านไม่ได้บริจาคแค่บุตรและธิดา แต่ท่านคิดบริจาคเลือดเนื้อขององค์ท่านเองด้วยเป็นทาน คือท่านตั้งใจไว้เลย ใครมาขอดวงตาท่านให้บริจาคให้เป็นทานเนี่ย ท่านจะควักให้เดี๋ยวนั้นเลย

 

ทีนี้คือว่า เราไม่อยากมองเป็นเรื่องจริงจัง หรือว่าเอ๊..ทำไมอดีตชาติของพระพุทธเจ้าทำอย่างนี้ เรามองเป็นเรื่องอุปมาอุปไมยได้มั้ยว่า การที่ใครคนหนึ่งจะพ้นทุกข์ในทางพุทธได้ คน ๆ นั้นจะต้องไม่ยึดมั่นถือมั่นในความมีกายมีใจนี้ อันนี้ข้อนึง เรื่องที่ว่าจุดประสงค์ จุดประสงค์ของท่านเนี่ย ทำให้ท่านบริจาคได้ทุกอย่าง ไม่ใช่อยู่ ๆ ท่านรังเกียจบุตรธิดา แล้วก็ไปบริจาคทิ้ง โดยไม่สนใจว่าบุตรธิดาจะมีความทุกข์เช่นไร ท่านต้องการให้บุตรและธิดาของท่านเนี่ย ได้มีส่วนในเส้นทางของอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณด้วยนะครับ

 

แล้วพิสูจน์ อันนี้เวลาที่เรามองประวัติของพุทธ เรามองที่จุดใดจุดหนึ่งไม่ได้ เราต้องมองตั้งแต่จุดเริ่มต้นถึงจุดสุดท้าย จุดสุดท้ายคืออะไร จุดสุดท้าย คือ บุตรและธิดาของท่าน คือพระนางพิมพาแล้วก็พระราหุลในชาติสุดท้ายนะครับ พระโอรสของท่านได้กราบขอบพระคุณท่าน ที่ช่วยให้พระนางพิมพากับพระราหุลได้บรรลุอรหัตตผล ซึ่งเป็นสมบัติที่ดีที่สุด เหนือกว่าการมีเลือดเนื้อกายใจความเป็นมนุษย์ เราต้องดูตรงนี้ด้วยนะ ดูที่ปลายทางว่า สุดท้ายแล้วพวกท่านพากันไปไหน

 

การเชื่อแบบพุทธ การศรัทธาแบบพุทธนะครับ เราต้องมองอย่างนี้นะว่า สุดท้ายแล้วลงเอยอย่างไร เป็นสุขหรือเป็นทุกข์ สุดท้ายแล้วพระนางพิมพาและพระราหุลได้ข้อสรุปตรงกันว่า การมีกายนี้ใจนี้ ที่ต้องเวียนว่ายตายเกิดไปเรื่อยๆแบบไม่รู้จบ ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เป็นความทุกข์

 

สิ่งที่พวกท่านต้องการกันจริง ๆ คือบรมสุขจากการไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดด้วยความหลงผิดอย่างที่เคยอีก แล้วมีแต่กำลังของพระมหาบุรุษ คือพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ทำได้

 

ทีนี้การเป็นพระพุทธเจ้าเนี่ย ไม่ได้สั่งสมบารมีกันชาติเดียว ท่านต้องสั่งสมกันมายาวนาน สี่อสงไขยมหากัปเป็นอย่างน้อย คือถ้าหากว่าเป็นพระพุทธเจ้าประเภทปัญญาธิกะ คือมีปัญญามากเนี่ย ใช้สี่อสงไขยมหากัปนะครับ นานแค่ไหน ก็เอาเป็นว่า ถ้าคุณนึกถึงคำว่าล้าน ๆ ได้ และคุณประมาณได้นะว่า จำนวนมันแค่ไหน นั่นแหละประมาณอย่างนั้นแหละ ล้าน ๆ ชาติ เห็นมั้ยมันนึกไม่ออกใช่มั้ยว่าล้าน ๆ มันมีประมาณเท่าไหร่ แต่จริง ๆ แล้วเนี่ย มันนานกว่านั้น มันใช้จำนวนชาติเนี่ย นานกว่านั้นนะ

 

ถ้าเรามองเป็นเกมนะ เกมของสังสารวัฏ ใครที่จะมีความสามารถมากพอ ที่จะขนสัตว์ออกไปได้มาก ๆ เนี่ย ต้องมีความเสียสละยิ่งใหญ่ และความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ ก็พิสูจน์ได้ด้วยการที่เราเสียสละเลือดเนื้อของตัวเองเป็นประโยชน์แก่มหาชนได้

 

ทีนี้ก็มีเรื่องเล่าว่า พระนางพิมพากับพระราหุล หรือในสมัยที่ท่านเป็นชายาของพระเวสสันดรนะครับ ก่อนที่จะมาเป็นพระชายาของพระเวสสันดร ท่านเคยอธิษฐานมาก่อนว่า จะขอติดตามพระโพธิสัตว์องค์นี้

 

คือสมัยนั้นที่ท่านได้เริ่มอธิษฐานคู่กันเลยเนี่ยนะ ตอนนั้นพระพุทธเจ้าเป็นฤาษีเป็นพราหมณ์ที่มีฤทธิ์ ส่วนพระนางพิมพ์ในชาตินั้น ก็เป็นนางชาวบ้าน ที่ได้รู้ว่าสุเมธดาบส ตอนนั้นท่านเป็นดาบสชื่อสุเมธ ท่านได้อธิษฐานต่อเบื้องพระพักตร์ของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งว่า ด้วยบุญที่ข้าพเจ้าทำทางให้พระพุทธเจ้าและพระสาวกเสด็จนี้ ขอให้ข้าพระองค์ได้บรรลุพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ได้ขนสัตว์ออกจากสังสารวัฏ เหมือนเช่นที่พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นได้ทำแล้ว

 

พระพุทธเจ้าก็ตรัสมีนักเทศน์พยากรณ์บอกว่า เอออย่างนี้เนี่ย จะได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในกาลข้างหน้า ชื่อว่า พระโคดม หรือว่า พระโคตม ซึ่งหญิงชาวบ้านผู้หนึ่งได้เห็นการอธิษฐานนั้น ก็เกิดจิตเลื่อมใส แล้วก็ขอปวารณาตัว ขออธิษฐานตามว่า ขอให้ตัวเองจงได้ติดตามพระองค์ไปทุกภพทุกชาติในฐานะบาทบริจาริกา คือเป็นผู้ติดตามนะครับ เป็นหญิงผู้พร้อมจะสละแม้กระทั่งชีวิต เพื่อให้เส้นทางพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณได้สำเร็จ นางได้อธิษฐานมาอย่างนี้

 

ตรงนี้นะครับในเรื่องแบบพุทธเนี่ย บางทีมันเป็นเรื่องที่เรามาตรึกตรองกันด้วยความรู้สึกแบบคนธรรมดาไม่ได้นะครับ ต้องรู้ที่มาที่ไป จุดตั้งต้นอยู่ที่ไหน จุดกลางอยู่ที่ไหน จุดลงเอยอยู่ที่ไหน แล้วคือเรื่องทั้งหลายเนี่ย จะจริงไม่จริงแค่ไหนยังไงก็ตามนะครับ เรามาสนใจจุดสุดท้ายดีกว่าว่า พระนางพิมพากับพระราหุลกล่าวไว้ตรงกัน มาขอบพระคุณพระพุทธเจ้าก่อนที่จะลาไปนิพพานว่า ข้าพระองค์ถือว่าเป็นบุญอย่างสูงสุดในการเดินทางท่องเที่ยวเกิดตายเป็นอนันตชาติในสังสารวัฏนี้ ที่ได้ติดตามพระองค์มาจนถึงชาติสุดท้าย ไม่ว่าเหตุการณ์อะไรที่เกิดขึ้นระหว่างนั้น แม้กระทั่งพระองค์ได้ทรงบริจาคเลือดเนื้อให้เป็นทาน ก็รวมอยู่ในการขอบคุณนั้นด้วย เพราะเป็นเกียรติที่ได้ร่วมสร้างบารมี แล้วก็ช่วยให้พระองค์ได้สำเร็จพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ได้เป็นพระพุทธเจ้า รื้อขนสัตว์ออกจากสังสารวัฏได้

 

อันนี้จริง ๆ แล้ว ถ้าจะพูดให้ละเอียดยิ่งกว่านี้ มันพูดได้อีกยาวนะครับ แต่ใจความสรุปจริง ๆ เลยก็คือว่า พระพุทธศาสนาไม่ใช่พุทธศาสนาที่จะให้ความพอใจกับคนได้ทุกคน

 

แม้แต่พระพุทธเจ้า ในสมัยที่พระองค์ยังทรงพระชนม์ ก็มีลัทธิต่าง ๆ ได้รับความเดือดร้อน ที่ศาสนาพุทธของพระองค์เจริญกว่า มีคนไปเคารพบูชากราบไหว้กันมากกว่า เนี่ยพวกเขาไม่มีทิฏฐิ ไม่มีความเข้าใจว่าพุทธศาสนาเกิดขึ้นมาเพื่ออะไร สอนคนให้สำเร็จอะไร ก็เลยเห็นเป็นแค่ปฏิปักษ์ หรืออย่างเรา ๆ ท่าน ๆ บางทีไปมอง ๆ จากสเกลเล็กไปทำความเข้าใจสเกลใหญ่บนเส้นทางแบบพุทธเจ้าบางทีก็เกิดความคลางแคลงว่า เอ๊ .. แบบนี้เนี่ยดีเหรอ แบบนี้มันไม่เป็นไปตามคอมมอน เซ้นส์ (common sense) ของคนมีจิตสำนึกแบบธรรมดานะครับ

 

เราก็ต้องทำใจ เพื่อที่จะให้เกิดความรู้สึกเป็นธรรมกับพระพุทธเจ้า ก็คือว่า ดูพระองค์ว่าพระองค์ต้องการอะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งนะ ไม่ใช่ความต้องการให้พระองค์เองนะครับ แต่ต้องการอะไรให้กับสงสารสัตว์ที่ไม่มีประมาณนี้นะครับ พวกเรา ๆ ท่าน ๆ นี่แหละ แล้วเส้นทางที่พระองค์จะบรรลุถึงเนี่ย จะต้องทำอะไร จะต้องผ่านเส้นทางแบบไหน

 

แล้วจริง ๆ เรื่องพระเวสสันดรเนี่ย จะจริงหรือไม่จริง ในยุคเราเนี่ยนะ ไม่มีทางพิสูจน์ แต่สิ่งที่พิสูจน์ได้ก็คือว่า ถ้าพระองค์ผ่านเส้นทางนั้นมาจริง พระองค์ทำประโยชน์สูงสุดให้กับชาวโลกแล้ว คือสามารถเอาออกจากสังสารวัฏ คือทุกเส้นทางอันกันดารนี้ได้ ตัวนี้แหละที่จะเป็นจุดที่อยากให้จำกันจริง ๆ อย่าจำแค่ว่ามีเรื่องราวแบบไหนเกิดขึ้นนะครับ


----------------------------------------


ผู้ถอดคำ                      แพร์รีส แพร์รีส
วันที่ไลฟ์                  ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๓
                              รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน พลังพุทธคุณจากการสวดถวายพร

คำถาม                         คือสงสัยเรื่องพระเวสสันดร ว่าท่านได้ให้บุตรและชายาตามคำขอแก่ชูชก
                              คนสมหวังและมี
ความสุขคือชูชกคนเดียว ส่วนบุตรและชายาคงต้อง
                              มีความทุกข์แน่นอน อยากทราบคำตอบว่า
อะไรคือบุญ
                              อะไรคือความสุขจากการให้ในเรื่องนี้คะ
?

ระยะเวลาคลิป           ๑๐.๑๗ นาที
รับชมทางยูทูบ                https://www.youtube.com/watch?v=G0Y_hO_-GvM&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น