ดังตฤณ : นี่คือธรรมชาติธรรมดาของการฝึกตั้งไข่ในการเริ่มต้นทำสมาธิ
ทีนี้จริงๆเนี่ย เวลาคุณถามแบบนี้เนี่ยนะครับ ผมอยากให้ช่วยบอกมาด้วยว่า ทำสมาธิแบบไหน
กำหนดบริกรรม หรือว่ากำหนดรู้ กำหนดดูอะไรอยู่
มันจะได้แจกแจงลงลึกลงไปในรายละเอียดของการดึงจิตดึงใจแบบนั้นๆนะครับ เพราะว่าสมาธิในแต่ละแบบไม่เหมือนกันนะครับ
ที่คุณบอกว่ามันคอยวอกแวก
วอกแวกจากอะไร จากการสังเกตเห็นอะไร แล้วเวลาที่จะดึงสมาธิ กลับเข้ามาเนี่ย
มันดึงกลับเข้ามายังไง ยกตัวอย่าง ถ้าคุณใช้วิธีบริกรรมพุทโธอยู่ พอบริกรรมไป
พุทโธ พุทโธ พุทโธ คำว่าวอกแวกของคุณคือพุทโธหายไป หรือพุทโธเนี่ยโยกเยก
ไม่เป็นชิ้น ไม่เป็นอัน ไม่เป็นคำ แล้วก็พยายามดึงกลับมาหาคำว่าพุทโธ แล้วก็มีความคิดผุดแทรกอะไรต่างๆ
หรือถ้าคุณดูลมหายใจแล้ววอกแวกไป
ความหมายของวอกแวกคือ ลมหายใจมันไม่ปรากฏในห้วงมโนทวาร มันไปคิดถึงเรื่องอื่น แล้วการดึงกลับมาคืออะไร
คนส่วนใหญ่จะมาเกร็งลมหายใจ เนี่ยมันต่างกันนะครับสมาธิแต่ละแบบ
ทีนี้ถ้าเอาตามที่พระพุทธเจ้าท่านสอนนะครับ
อย่างอานาปานสติเนี่ย เวลาที่เราวอกแวกไปจากลมหายใจ คือลมหายใจเหมือนภาพล้มลุก
โดยหลักการท่านก็ให้ดูไปเลยว่า ลมหายใจนั้นมันมีความฟุ้งซ่านมากหรือน้อย คือดูเป็นเรียกว่า
”จิตตสังขาร” ศัพท์ในอานาปานสตินะครับ ท่านให้ดูเป็นจิตตสังขาร ว่า แต่ละลมหายใจ หายใจเข้ารู้ว่ามีจิตสังขารอยู่
หายใจออกรู้ว่ามีจิตตสังขารอยู่
ความเห็นว่าจิตตสังขารในแต่ละลมหายใจเข้า-ออกไม่เที่ยง ตัวที่รู้ว่ามันวอกแวก
รู้ว่ามันฟุ้งซ๋านไป รู้ว่าเหม่อลอยไป ตัวนั้นน่ะจิตสังขาร ท่านให้ดูไปเลยว่า ณ
ขณะลมหายใจหนึ่งๆ มีจิตตสังขารแบบไหนเกิดขึ้น เพื่อที่จะให้เห็นว่า
จิตตสังขารแบบนั้น มันแสดงความไม่เที่ยง กำลังรู้ลมหายใจอยู่
อ้าวไพล่ไปเกิดจิตตสังขารฟุ้งซ่านไปเรื่องอื่นที่ลมหายใจนั้น เสร็จแล้วลมหายใจต่อมานึกขึ้นได้มีสติเกิดขึ้น
จิตตสังขารนั้นหายไป มารู้ลมหายใจใหม่แบบสบายๆ
นี่ตรงนี้แหละมันเห็นความไม่เที่ยงของจิตตสังขารเลย โดยไม่ต้องมายื้อ
ที่คุณถามเนี่ยนะครับ
ถามแบบคนที่พยายามยื้อๆแบบสูญเปล่า คือพอยื้อไปแล้ว
ที่เป็นความฟุ้งซ่านหรือเป็นความเหม่อลอยที่มันไปเรื่องอื่น
มันหายไปเปล่าๆเลยนะครับ คือไม่มีประโยชน์อะไรเลย
แต่ถ้าทำอย่างอานาปานสติ
ตอนที่เหม่อออกไป ตอนที่เหมือนกับจิตหายออกไปทางอื่น แล้วมันเห็นว่า เออนี่เกิดจิตตสังขารเกิดความเหม่อลอย
เกิดความฟุ้งซ่านที่ลมหายใจนี้ แล้วหายไปที่ลมหายใจไหน นี่ตัวนี้จิตตสังขารนั้นกลายเป็นประโยชน์ขึ้นมาแล้ว
มันทำให้จิตเกิดปัญญา เกิดความตื่น เกิดความรู้ขึ้นมาว่า
เราเพิ่งเห็นความไม่เที่ยงของจิตตสังขารไปนะครับ อันนี้แหละคือวิธี
ไม่ใช่การยื้อแต่มันเป็นการพิจารณาโดยสติแบบพุทธนะครับ!
-----------------------------------------
ผู้ถอดคำ แพร์รีส แพร์รีส
วันที่ไลฟ์ ๘
สิงหาคม ๒๕๖๓ (รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน)
คำถาม นั่งสมาธิแต่จิตวอกแวกตลอด
พยายามดึงกลับมาแต่บางทีก็ไปอีกค่ะ?
ระยะเวลาคลิป ๓.๕๘ นาที
รับชมทางยูทูบ https://www.youtube.com/watch?v=hk3tDqVYitc&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=4&t=0s
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น