ดังตฤณ : ความกลัวตายมันครอบจักรวาลเลยนะครับ อันนี้ตอบได้ครอบจักรวาล ไม่ว่าจะกลัวตายด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม
วิธีเจริญสตินะครับ เราตั้งต้นจากการทำความเข้าใจก่อนว่า จิตที่มีความกลัวตาย คือจิตที่มีลักษณะหดตัว มีลักษณะที่มันไม่เปิด มันไม่แผ่ มันไม่นิ่ง มันมีลักษณะหดเกร็งคล้ายๆกับเนื้อตัวของเราที่มันเกร็งอยู่แน่นอยู่ด้วยอาการห่อ ด้วยอาการหด ด้วยอาการที่มันบีบตัวเข้ามา ลักษณะแบบนี้มันทำให้ใจเราเกิดสิ่งที่เรียกว่า ความไม่พอใจ ความขัดเคือง
ความกลัวตายมาจากโทสะ โทสะเป็นมูล โทสะเป็นมูลฐานของความกลัวตาย
ลักษณะของจิตที่มีความหดตัว ที่มีความกลัว มันจะมีสาเหตุมาจากอะไรก็ตาม ถ้าหากว่าเราทำให้จิตที่หดตัวนั้น มีอาการแผ่ออกได้ ไม่ว่าด้วยกรณีใดๆนะครับ แผ่ออกสว่างขึ้น แล้วก็มีความสบายขึ้น แค่นี้ความกลัวหายไปเป็นปลิดทิ้งทันที นี่เข้าใจเบสิก(basic) คอนเซปต์(concept)ตรงนี้ไว้ก่อน
เสร็จแล้วทำยังไง?
เวลาที่เรากลัวตายขึ้นมา
เราส่องเข้าไปสำรวจเข้าไปจนกว่าจะเจออาการกลัว ไม่ใช่จดจ่ออยู่กับสิ่งที่กลัวนะครับ
อย่างพอกลัวตายเนี่ยนะครับ มันจะมีมโนขึ้นมา อาการทางใจมันจะมโนขึ้นมา
ถึงความน่าสยดสยองที่เราเคยเห็นมาในหนัง หรือว่าในของจริงนะครับ
ภาพรวมๆที่ทำให้เรากระตุ้นให้เราเกิดความรู้สึกเป็นทุกข์กับการเห็นความตายในรูปแบบต่างๆ มันจะมารวมกระจุกอยู่ที่จิต ณ ขณะที่หดตัว
ซึ่งถ้าหากเราทำให้ตัวเองมีสติเห็นสภาพหดตัวนั้นได้ด้วยการหายใจลึกๆ ช้าๆ สบายๆสักครั้งหนึ่ง จนเกิดความรู้สึกสดชื่น เกิดความรู้สึกเบา เกิดความรู้สึกมีความสุขกว่าเดิม ตรงนั้นมันจะเห็นความต่างนิดหนึ่ง คือจิตมันคลายออกจากอาการกังวลจากอาการกลัว
แล้วถ้าเราสังเกตต่ออีก ไม่หลบไปไหน ไม่เตลิดไปเสียก่อน ไม่สติแตกไปเสียก่อน เราสังเกตต่อว่า ในลมหายใจต่อมา ถ้าเราไม่เร่งหายใจนะครับ ปล่อยให้มันหายใจเข้าอย่างสบายๆตามธรรมชาติ เราจะพบว่า จิตของเราเปลี่ยนจากอาการหด เป็นอาการคลาย จากหดเกร็ง เป็นอาการคลาย แล้วก็แผ่ผายมากขึ้นเรื่อยๆที่ละน้อย
ในแต่ละครั้งที่เราหายใจยาวขึ้น คือเราไม่ได้เอาแต่ลมหายใจนะ แต่สังเกตใจตัวเองด้วยว่า ทุกครั้งที่หายใจยาว นิ่มนวล แล้วก็ยืดยาว มันมีอาการผ่อนคลาย คลายกังวล คลายจากความกลัว คลายจากอาการเกร็งบ้างมั้ย?
ไล่สำรวจเอา
ฝ่าเท้า ฝ่ามือ ใบหน้า มันมีอาการผ่อนพัก ผ่อนคลายมากขึ้นเรื่อยๆหรือเปล่า
แค่นี้ก็เรียกว่า เป็นการเห็นเข้าไปที่แก่นของความกลัวอย่างชัดเจน คือเห็นว่า
กลัวก็คือ ตอนจิตหด
หายกลัวก็คือ ตอนที่จิตมันแผ่ผายออก
อย่างเวลาเข้าที่มืดตอนกลางคืน ลองสังเกตดูก็ได้ พอมืดปุ๊บ มันมโนถึงผีขึ้นมา มันมโนถึงสิ่งที่น่ากลัว ทั้งๆที่ตรงหน้ามันเป็นความมืดของมันอยู่ดีๆ แต่เราไปวาดภาพผีขึ้นมาในกระดานดำ คือความมืดนั้น(เปรียบเทียบความมืดเป็นกระดานดำ) ตอนนั้นผีมันไม่ปรากฏตัว แต่สิ่งที่มาปรากฏจริงๆก็คือมโนของเรา พอมโนขึ้นมาว่า ผีอยู่ในความมืด เกิดอาการจิตหด พอตั้งสติ เออนี่ความกลัวที่กำลังเหมือนมีความรู้สึกว่ากำลังจะโดนทำร้าย หรือว่ากำลังจะโดนหลอกหลอน มันเป็นอาการจิตหด มันเป็นอาการมโนขึ้นมาทำให้จิตหด
เสร็จแล้วสู้กับความกลัวยังไง?
ไม่ใช่สู้ด้วยการชกต่อยมัน
แต่ว่าสู้ด้วยการรู้มันตามจิรง เนี่ยจิตมันกำลังวาดภาพผีขึ้นมาใช่มั้ย
พอหายใจยาวขึ้นมา มโนภาพของผีกลายเป็นมโนภาพลมหายใจที่มันยาวขึ้นมาแทน
แล้วลมหายใจที่ยาว ทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย คลายเนื้อคลายตัว มีความสบาย มีความสุขขึ้นมาภาพผีหายไปเลย
เนี่ย!ตัวนี้เหมือนกัน ไม่ว่าจะกลัวตายกลัวผี หรือว่ากลัวอนาคต กลัวโน่นกลัวนี่
เปลี่ยนจากอาการจิตหด ให้กลายจิตที่มันแผ่ผายออกไป ที่มันเป็นทุกข์อึดอัด ให้กลายเป็นสุขสบาย
แล้วก็ไม่มีความเกร็งเนื้อเกร็งตัว แค่นี้!มันดูเหมือนตื้นๆ
แต่พอทำจริงบางทีมันอาจจะต้องฝึก
แล้วสิ่งที่คุณต้องผ่านให้ได้คือ
ความรู้สึกทนไม่ได้ ทนความกลัวไม่ไหว พอทนความกลัวไม่ไหวปุ๊บเนี่ย หายใจก่อนเลย
แล้วสังเกตเข้ามา บอกตัวเองว่า ที่บอกทนไม่ไหวเนี่ย
ที่มันรู้สึกกลัวมากเหลือเกินเนี่ย มันอาการทางใจทั้งนั้น อาการหดตัวของใจ
ยิ่งกลัวมากเท่าไหร่ บอกตัวเองว่าจิตหดมากขึ้นเท่านั้น มันเป็นแค่อาการจิตหด
พอนึกถึงอาการจิตหดได้เกิดสติขึ้นมาเนี่ย จิตมันแผ่มานิดนึงแล้ว
แล้วพอเราหายใจเป็น ใช้ลมหายใจช่วยด้วย มันก็จะคลายจากสภาพแย่ๆนั้นได้เร็วนะครับ
--------------------------------------------------------
๑๙
ธันวาคม ๒๕๖๓
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน
ตอน เจริญสติรักษาแผลใจ
คำถาม : หากภาวนาแล้วเกิดไปฝัน แล้วกลัวตายขึ้นมา มีวิธีแนะนำไหม?
ระยะเวลาคลิป ๗.๑๔
นาที
รับชมทางยูทูบ https://www.youtube.com/watch?v=1SfbuCjt7DQ&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=7
ผู้ถอดคำ แพร์รีส แพร์รีส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น