ดังตฤณ : อันนี้ผมไม่เคยเห็นนะ ถ้าคุณเคยเห็นมาจากไหน คือบางทีไปอ่านข้อมูลในอินเตอร์เนตอะไรมาอย่าเพิ่งปักใจเชื่อนะครับ เพราะบางทีเราไม่รู้ว่าคนที่เขียนเอามาจากไหนแล้วคิดไปเองหรือเปล่า
ที่พระพุทธเจ้าเคยถามพระสารีบุตรจริงๆก็คือว่า พระสารีบุตรมีลูกศิษย์เป็นพราหมณ์ แล้ว พราหมณ์ไม่ได้นับถือพุทธ แต่นับถือพระสารีบุตร แล้วพราหมณ์อยากไปเป็นพรหม ก็เลยขอให้พระสารีบุตรส่งตัวเองตอนจะขาดใจตายบอกว่า ขอกลับไปเป็นพรหม อยากไปอยู่กับพรหมจะให้ทำยังไง
พระสารีบุตรก็เลยแสดงธรรม บอกว่าธรรมแห่งความเป็นพรหมก็คือเจริญเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ถ้าหากว่ามีคำเหล่านี้อยู่ในจิตแล้ว ก็จะทำให้จิตมีความตั้งมั่น มีความเป็นฌานในขณะใกล้จะตาย แล้วก็ได้กลายเป็นสหายแห่งพรหม ท่านก็สอนอย่างนี้ เสร็จแล้วพราหมณ์ก็ตั้งจิตอยู่ในความมีเมตตา อยากให้คนอื่นมีความสุขแบบตัวเอง มีความกรุณาอยากช่วยเหลือคนอื่น มีความมุทิตายินดีไปกับเขาที่ได้ดี แล้วก็มีความเป็นอุเบกขา เห็นว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
จิตที่มีองค์ประกอบมูลฐานของความเป็นจิตใหญ่จิตแบบพรหม พอใกล้จะตายจิตตอนที่ใกล้จะตายมันเป็นจิตแบบมีความหนักแน่น คือใกล้จะตายแบบไหน มันก็จะมีความหนักแน่นแบบนั้น เพราะฉะนั้น จิตของพราหมณ์ที่เป็นลูกศิษย์ของพระสารีบุตรก็เลยรวม สามารถรวมเป็นจิตใหญ่กลายเป็นพราหมณ์ขึ้นสู่ความเป็นพรหมได้
พระพุทธเจ้าท่านก็ทราบด้วยพระญาณว่า พระสารีบุตรส่งลูกศิษย์ของท่านไปแบบนั้น ท่านก็ตรัสประชุมสงฆ์ แล้วก็เรียกพระสารีบุตรมาตรัสถามว่า สารีบุตร เมื่อกี้เพิ่งมีการส่งให้ลูกศิษย์ของเธอไปสู่ความเป็นพรหมหรือเปล่า พระสารีบุตรก็รับรอง อันนี้เป็นไดอาล็อก(dialog)ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสเพื่อให้คนอื่นได้รับรู้ตามว่า มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจริงๆ พอพระสารีบุตรตรัสตอบรับรองว่าเป็นอย่างนั้นจริง ท่านเพิ่งส่งลูกศิษย์ของท่านคนหนึ่งไปสู่ความเป็นพรหม พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า จริงๆแล้วเนี่ย อีกนิดหนึ่งถ้าเธอต่อยอดให้เขาเห็นความเป็นของไม่เที่ยง หรือว่าสภาพอะไรๆทั้งหลาย มันสักแต่เป็นของชั่วคราว เขาก็จะไปได้ไกลกว่านั้น
คือจริงๆกำลังของพระสารีบุตรสามารถส่งให้เป็นอริยบุคคลได้ แต่ท่านก็ส่งไปแค่เป็นพรหม คือพระสารีบุตรก็ทูลตอบพระพุทธเจ้าว่า ที่ข้าพระองค์ทำแบบนั้น ก็เพราะเห็นว่าเขาต้องการ เขาอยากได้แบบนั้น ก็เลยสงเคราะห์ให้
คือจิตตอนใกล้จะตายเป็นวาระเหมาะมากเลยนะครับ คือถ้าหากเห็นได้ว่า กายนี้จะต้องถูกทิ้งไว้บนโลกไม่ใช่ตัวของเราเอาไปไม่ได้ แล้วใจนี้มันก็จะต้องดับ แล้วเปลี่ยนเป็นสภาพอื่นไม่ได้มีตัวตน ถ้านึกอย่างนั้นแล้ว นึกในใจทำไว้ในใจแบบนั้นตอนใกล้ตาย จิตที่มันมีความหนักแน่นในขณะใกล้จะตาย ก็ทำให้รวมลงเป็นฌาน แล้วก็เห็นนิพพานได้ อย่างน้อยก็ได้เป็นพระโสดาบัน เนี่ยอันนี้ที่ผมพอจะนึกได้แล้วก็เชื่อมโยงกับคำถามของคุณได้
พระพุทธเจ้าไม่เคยไปตรัสตำหนิติเตียนพระสารีบุตรที่ไหนนะว่า
พระสารีบุตรสอนเรื่องวิญญาณเวียนว่ายตายเกิด ไม่เคยได้ยินนะครับ
แล้วถ้าหากว่ามีหลักฐานจากที่ไหนเป็นลายลักษณ์อักษรก็ช่วยเอามาให้ดูก็แล้วกัน ผมเชื่อว่าไม่มีนะ
ไม่มีในพระไตรปิฎกแน่นอนนะครับ ที่พระพุทธเจ้าจะไปตรัสติเตียนแบบนั้น
-------------------------------------------
๒๑
พฤศจิกายน ๒๕๖๓
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน
ตอน สมาธิคือบันไดขึ้นที่สูง
คำถาม : ผมเคยเห็นผ่านตาที่ว่า พระพุทธเจ้าตำหนิพระสารีบุตร ที่ไปเผยแพร่ธรรมว่า วิญญาณเวียนว่ายตายเกิด ถ้าอย่างนั้นแล้ว อะไรที่เวียนว่ายตายเกิดครับ?
ระยะเวลาคลิป ๕.๑๔
นาที
รับชมทางยูทูบ https://www.youtube.com/watch?v=_UslJydj4oQ&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=2
ผู้ถอดคำ แพร์รีส แพร์รีส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น