ดังตฤณ : (คุณดังตฤณยิ้ม) ก็ไม่ทราบบังเอิญหรืออย่างไรนะครับ คือผมก็เพิ่งเจอปัญหานี้มาด้วยตัวเองพอดี ผมเข้าใจปัญหานี้ดีนะครับ ก็เพิ่งประสบมา
การที่เรามีความปวดสังขารจากโรคหมอนรองกระดูกเสื่อม เพราะว่าพอคนอายุมากๆอะไรๆมันเริ่มที่จะผุพังให้เห็น คือมันยังไม่ถึงขั้นเน่าเปื่อย แต่เริ่มผุพัง เริ่มแสดงความไม่ใช่ของที่เราจะรักษาไว้ หรือว่าบัญชาได้ให้มันเป็น ให้มันสดใหม่เหมือนตอนเป็นเด็กน้อยเป็นหนุ่มสาว มันแสดงอาการพยศ อาการที่นึกจะเจ็บก็เจ็บ นึกจะปวดก็ปวด นึกจะหลุดก็หลุดก็หลุด คุณไม่ต้องทำอะไรมันจัดให้
อันนี้ขอแนะนำนะครับ ออกกำลังแต่เนิ่นๆ บริหารร่างกายแต่เนิ่นๆ แต่ต่อให้คุณบริหารร่างกายยังไงมันก็จะมีจุดใดจุดหนึ่งหลุดไปอยู่ดี แต่อย่างน้อยที่สุดประคองมันไว้ รักษามันไว้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นะครับ แล้วก็พวกแคลเซียมวิตามินมีประโยชน์จริงนะครับ มันช่วยชะลอมันช่วยในเรื่องของการทำให้สภาพที่เสื่อมมันมีสปีด(speed)ความเสื่อมที่ช้าลง
อย่างผมเองหาหลายหมอมากๆ แล้วในที่ก็เจอนะเจอจนได้ บางทีมันเป็นเรื่องจังหวะเวลาจริงๆนะ คือหมอบางคนเราไม่มีทางเจอในตอนที่เรายังต้องเสวยกรรมเกี่ยวกับร่างกายอยู่ นี่พูดกันตรงไปตรงมาเลยนะครับ เพราะหมอบางคนเป็นหมอที่ถูกกับโรคเราจริงๆ เข้าใจโรคเราจริงๆสามารถช่วยเราได้จริงๆนะครับ อันนี้ต้องเอาทางนี้ด้วยนะครับ
ส่วนที่ว่าถ้าจะเอาในเรื่องของบุญ เรื่องของกุศลเนี่ยนะครับ คือบางทีถ้าร่างกายเขาจะให้ผลในทางที่จะบีบเราให้อยู่ในสภาพย่ำแย่จริงๆเนี่ย บางทีบุญก็สู้ไม่ได้นะครับ พูดง่ายๆบุญใหม่สู้ไม่ได้ ยกเว้นแต่ว่าเราจะทำมาเรื่อยๆ แล้วก็สามารถเอาตัวรอดจากความทุกข์ ณ เวลาที่มันบีบ แต่ว่าเวลาที่บอกว่าจะสู้ด้วยจิตอย่างเดียว จะให้มันมีความสุขจะให้มันมีอะไร เพราะร่างกายมันมีหลายจุด บางจุดต่อให้ฌานก็สู้ไม่ได้นะครับ ยกตัวอย่างเช่น โครงสร้างกระดูด หรือว่าสภาพเสื่อมของสังขารบางอย่าง แม้ครูบาอาจารย์ที่เก่งๆที่ชำนาญในฌาน อยู่ในป่า บางทีท่านก็ต้องให้หมอรักษา ท่านก็ต้องให้มีเทคโนโลยีทางการแพทย์มาช่วยเยียวยา มาช่วยพยุง มาช่วยประคองนะครับ อย่าเข้าใจว่าเราจะใช้บุญมารบกับโรคภัยไข้เจ็บทางกายได้ครอบจักรวาลนะ มันไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ
ขออนุญาตอันเชิญตัวอย่างนะครับ อย่างพระพุทธเจ้าท่านก็เคยที่จะเจ็บป่วยอาพาธ แล้ววิธีรักษาของท่านก็ใช้วิธีแบบพระอรหันต์ คือให้พระอรหันต์ด้วยกันมาสวดโพชฌงค์ เพราะโพชฌงค์เป็นธรรมเพื่อการตรัสรู้ เป็นของใหญ่ที่สุดในจักรวาลชิ้นหนึ่ง เป็นธรรมะที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาลอย่างหนึ่ง เมื่อมีพระอรหันต์มาสวดให้ฟัง ก็เหมือนกับเอาสิ่งที่สว่างที่สุดในจักรวาลมาช่วยเยียวยา มาช่วยให้สภาพทางกายสบายขึ้นได้นะครับ อันนี้ก็เป็นตัวอย่างว่า บางที่ถ้าเราจะใช้เรื่องของเงื่อนไขเกี่ยวกับบุญกุศล มันไม่ใช่ทำยังไงก็ได้ สวดบทไหนก็ได้ หรือว่าต่อให้สวดโพชฌงค์เหมือนกัน แต่ถ้าจิตไม่ถึง บางทีมันก็ไม่มีประโยชน์
สำหรับคำตอบของข้อนี้ เนื่องจากว่าผมเองเพิ่งฟื้นตัวเหมือนกันเกี่ยวกับเรื่องข้อต่อ เกี่ยวกับเรื่องอะไรต่อมิอะไร มันมีหลายวิธีเลยนะ เอ้านี่ ขออนุญาต พอดีเลยอยู่บนโต๊ะพอดี แอดมินเบลล์ส่งมาให้นะครับ ก็ใช้ได้นะที่เหมือนกับเอามารองคอดึงให้กระดูกข้อต่อมันดันออกมาจากสภาพที่มันก้ม ที่มันอยู่ในสภาพที่หมอนรองกระดูกเสื่อมอยู่แล้วมันจะยิ่งทำให้แย่ลง มันก็มีตัวยืดตัวทำให้ดีขึ้นได้ ลองสืบๆหาๆดูมันมีหลายวิธี แล้วก็อย่างพึ่งบุญใหม่อย่างเดียว พึ่งบุญเก่าที่พาเราไปเจอหมอ เจอยา เจอเทคโนโลยีทางการแพทย์อะไรดีๆนะครับ
บุญใหม่เนี่ย ขอให้เข้าใจด้วยนะ มันหมายถึงการที่เราพาตัวเองออกไปเจอบุญเก่าด้วยนะ คือบุญเก่าของเราเนี่ยอาจจะมาในรูปของยา แต่ถ้าเราดื้อไม่กินยา อาจมาในรูปของหมอแต่เราดื้อไม่ยอมไปพบหมอ อย่างนี้เนี่ยนะบุญเก่ารออยู่ก็ไม่ได้เจอกัน (คุณดังตฤณยิ้ม)
ไม่รู้จะเป็นคำตอบที่ครอบคลุมหรือเปล่า
แต่ก็บอกไว้นะครับ ประสบการณ์ส่วนตัวของผมบอกได้เลยนะครับว่า
บุญเก่าไม่ได้มาในรูปของการที่เรานึกถึงบุญ แล้วบุญจะมาช่วยให้หายเองโดยไม่ต้องทำอะไร
เรื่องทางกายมันก็ต้องอาศัยเหตุทางกายมาประกอบด้วย
มาเป็นตัวทำให้อะไรๆมันเข้าลู่เข้าทางในแบบของกายภาพด้วยนะครับ
-------------------------------------
๒๖
ธันวาคม ๒๕๖๓
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน
ตอน กินบุญปีเก่า อิ่มบุญปีใหม่
คำถาม : มีความปวดในสังขารจากโรคหมอนรองกระดูก จะภาวนาโดยตามดูลมหายใจ เเต่ทำไม่ได้เลยค่ะ พอทานยาก็ง่วงมากภาวนาไม่ไหว ขอคำเเนะนำ เเค่นั่งสวดมนตร์ก็ปวดหลังเเล้ว?
ระยะเวลาคลิป ๗.๓๐
นาที
รับชมทางยูทูบ https://www.youtube.com/watch?v=zYbHF2SB8tk&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=5
ผู้ถอดคำ แพร์รีส แพร์รีส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น