วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2559

กรรมพยากรณ์ ตอนเลือกเกิดใหม่ (ตอนที่ ๓๕ คนร้ายตัวจริง )

<ย้อนกลับอ่านตอนที่ ๓๔
อนที่ ๓๕ คนร้ายตัวจริง
อเวรามองกล่องผูกโบจ่าหน้า ‘ถึงพี่เค้ก’ ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจแกะโบ แกะกล่องออก ก็พบตุ๊กตาเด็กผู้ชายยืนคอตก ท่าทางเศร้าสร้อย แถมด้วยเพลงไพเราะดังกุ๊งกิ๊งออกมาจากฐานยืน ด้านข้างมีการ์ดขอโทษทำเอง แปะรูปถ่ายกระถางธูปปักธูปสามดอก เทียนจุดไฟสองเล่ม แจกันปักดอกไม้ และผ้าพับไว้หนึ่งผืน เขียนข้อความด้วยลายมือว่า ‘ลูกช้างเสียใจ เจ้าแม่โปรดอภัยซักหน’
หญิงสาวอดหัวเราะไม่ได้ ก้อนเครียดที่เกาะติดหน้าผากและคอหอยมาตลอดสามวันละลายลงกว่าครึ่ง
ทีแรกหล่อนร้องไห้จนตาบวม ไม่คิดอภัยให้เขา และไม่คิดแม้กลับไปทักทายญาติดีกันฉันคนเคยรู้จัก คงหลบหน้าไปตลอดชาติ แต่พอเขาทำให้หัวเราะและรู้สึกปลอดโปร่งขึ้นอย่างนี้ ก็เพิ่งระลึกได้ว่าหล่อนไปด่าเขาก่อน เขาโมโหเลยสวนกลับเข้าให้บ้าง
ความที่อีกฝ่ายอ่อนวัยกว่า และความที่หล่อนหมดความลุ่มหลงพิศวาสเขาในเชิงชู้สาวแล้ว จึงไม่ทำให้เกิดทิฐิมากนัก พอเขาโทร.หาในวันต่อมาจึงรับสายและทักด้วยเสียงปกติ
๓๐๖
“ว่าไง”
“ผมไม่มีอะไรจะว่าพี่เค้กหรอก พี่เค้กน่ะ มีอะไรจะว่าผมหรือเปล่า?”
“ไม่มี”
“พี่เค้ก… ผมขอโทษ”
“ช่างเถอะ เรื่องแล้วไปแล้ว พี่ก็ เอ่อ…” ปากแข็งแต่ก็ฝืนเอ่ยออกไปจนได้ “พี่ก็ขอโทษเธอนะ”
พอพูดแล้วก็โล่งอก ต่างฝ่ายต่างทำผิด ต่างฝ่ายต่างต้องรับผิดชอบกับสัมพันธภาพที่ไม่เหมาะสม ตอนนี้แค่เติมน้ำดีสลายน้ำขุ่นเสียหน่อย จะได้ไม่ต้องติดใจกันอีก
“เราจะไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วใช่ไหม?”
คำถามของเขาทำให้อเวราเกิดความอาลัยขึ้นมานิดๆ แต่ถอนใจทีเดียวรอยอาลัยก็มลายลงสิ้น ขณะนั้นเป็นเวลาเที่ยงครึ่ง หล่อนกับพิมพ์พรรณีเพิ่งขึ้นมาจากรับประทานข้าวเที่ยง และเพื่อนร่วมงานสาวยังอยู่ในห้องน้ำ มีหล่อนนั่งอยู่ที่โต๊ะคนเดียว จึงพูดได้เต็มที่
“พี่ผิดเองตั้งแต่แรกที่ปล่อยให้อะไรๆเลยตามเลย ทั้งที่ควรเป็นฝ่ายยับยั้งชั่งใจได้”
“ผมรู้สึกดีกับพี่เค้ก จะเสียใจถ้าพี่เค้กเห็นผมเป็นแค่คนหนึ่งที่จะเลิกคบแล้วไม่ต้องพบกันอีก ขอผมโทร.คุยกับพี่เป็นครั้งคราวได้ไหม?”
“อย่าเลย…”
หญิงสาวตั้งใจปฏิเสธเสียงแข็ง แต่แย่จริงที่คำนั้นหลุดจากปากแบบเอื่อยอ่อย
“แค่คุยกัน นานๆทีจะเป็นไรไป… ผมจะทำให้พี่เค้กเบื่อโลกน้อยลง”
อเวราหัวเราะ พฤหัสมีวิธีทำให้หล่อนหัวเราะเสมอ
“ใครบอกว่าพี่เบื่อโลก?”
“ตอนพี่เค้กเงียบ ไม่หัวเราะ ไม่พูดจา เหมือนพี่กระซิบคำว่า ‘เบื่อ’ ออกมาให้ผมได้ยินอยู่ตลอดเวลา”
อเวราทอดตาซึมไป ในหัวหล่อนมีคำนั้นผุดขึ้นมาบ่อยจริงๆ ไม่ว่าจะอยู่คนเดียวหรืออยู่กับใคร แต่ถึงเวลานี้หล่อนตัดสินใจแล้วว่าระหว่างเบื่อความรู้สึกผิดกับเบื่อความเหงา หล่อนขอเลือกเบื่อความเหงาดีกว่า ทุกวันนี้มองหน้าตัวเองในกระจกไม่เห็นเป็นนางเอกผู้เลอค่าเหมือนเมื่อแรกรุ่นอยู่แล้ว อย่าต้องถึงขนาดแปรเป็นนางรองค่าตัวต่ำเพราะมักง่ายในกามอีกเลย!
“ถ้าเธอได้ยินเสียงในหัวของพี่จริง ก็แปลว่าคำนั้นยังดังอยู่ตลอดเวลา ถึงจะมีหรือไม่มีเธอก็ตาม ตอนพี่หลงเธอ เธอยังทำให้พี่หายเบื่อไม่สำเร็จ แล้วตอนนี้พี่เลิกคิดกับเธอแบบผิดๆอีกต่างหาก เธอจะช่วยอะไรพี่ได้? น้องรัก… ถ้าหวังดีก็ขอบใจ แต่อย่าพยายามดีกว่า!”
หากเป็นเวลาปกติพฤหัสคงฉุนกึก เพราะเหมือนโดนกระทบทางอ้อม ทำนองหน้าอย่างเธอไม่มีน้ำยาหรอก เลิกคิดได้ ชาตินี้ไม่มีทางได้แอ้มฉันอีกแล้ว
แต่นี่ไม่ใช่การงอนง้อขอคืนดีตามปกติ จึงทำใจเฉยเมยไม่รู้สึกรู้สา และเล่นบทอ้อนต่อได้สนิทสนม
“พี่เค้ก… ผมสาบาน ขอให้ลื่นหกล้มหัวฟาดชักโครกตอนแก่ ผมไม่กะจะทำอะไรถึงเนื้อถึงตัวพี่เค้กอีกแล้ว ผม… ผมรู้สึกผูกพันกับพี่ และแค่อยากจะให้เราไม่เป็นคนแปลกหน้าต่อกัน”
๓๐๗
“แล้วเธอจะให้เป็นยังไง? ตอนอยู่ด้วยกันเธอก็ฟันพี่อย่างเดียว ไม่เห็นคุยอะไรนี่ ทีนี้พอเลิกยุ่งกันเรื่องพรรค์นั้น จะขุดเรื่องไหนมาจ้อล่ะหือ? คุยไปคุยมาคงไม่แคล้ววกเข้าเรื่องชวนขึ้นเตียงนั่นแหละ ไม่เอาดีกว่า ต่างคนต่างไปตามทางน่ะดีแล้ว พี่อโหสิให้เธอ เธออโหสิให้พี่ ถ้าบังเอิญเจอหน้าบนถนนก็โบกมือทักทายอย่างคนไม่มีมลทินคาใจต่อกัน แค่นั้นน่าจะดีที่สุดสำหรับเราแล้ว”
พฤหัสอึ้งสนิท เขาถึงกับซึมลงด้วยความอาลัยประหลาด นี่คือกฎ คนใจแข็งจะเป็นฝ่ายที่เดินจากไปได้อย่างสง่างามเสมอ…
ขณะนั้นพิมพ์พรรณีกลับมาถึงโต๊ะ อเวราจึงถือโอกาสบอกกับอดีตแฟนรุ่นเยาว์
“พี่ต้องทำงานแล้ว เท่านี้ก่อนนะ”
“แล้วผมจะโทร.หาพี่บ้างนะครับ”
“เท่านี้นะจ๊ะ สวัสดี”
หล่อนวางกระบอกโทรศัพท์คืนแป้นนิ่มๆ คำปิดท้ายการสนทนาง่ายๆนั้นคล้ายประกาศอยู่ในทีว่าไม่มีความอ้อยอิ่งหลงเหลืออยู่อีกแล้ว!
สิงคารกับฉาดฉานทำหน้าผิดหวัง เมื่อพฤหัสให้คำตอบที่ไม่น่าพอใจนัก
“ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงเลยอามู่ อีไม่ยอมเจอผมแล้วอ้ะ”
หนุ่มใหญ่ผู้เลือกใช้ชีวิตครึ่งหลังแบบทรชนทำหน้าเคร่ง เม้มปากประเมินสถานการณ์ ถึงตอนนี้อย่างน้อยที่สุดก็ดีอยู่ข้อหนึ่ง คือพฤหัสตัดสินใจเข้ามาลงเรือลำเดียวกับตนแน่นอนแล้ว เขาเห็นแววมุ่งมั่นเอาจริง ซึ่งขอแค่นั้นแหละ คนเราเอาจริงเสียอย่าง จะทำอะไรก็ทำได้
“งั้นก็มีอีกทางหนึ่ง…” สิงคารเอ่ยอย่างระมัดระวัง “ต้องอุ้มไปกักตัวสักพัก ถ้าให้ยาไม่ครบขนาดเดี๋ยวไม่เชื่อง”
พฤหัสขมวดคิ้วกังวล
“ยาอะไรของอามู่เนี่ย จับส่งทั้งหยั่งงี้ไม่ได้เหรอะ? ให้พวกนั้นไปจัดการเอาเอง”
สิงคารยิ้มพึงใจ ความกระเหี้ยนกระหือรือบ่งบอกว่านอกจากพฤหัสโลภอยากได้เงินแล้ว ยังมีวี่แววขุ่นเคืองบางอย่างผสมอยู่ด้วย และนั่นก็แปลว่าพฤหัสจะไม่เปลี่ยนใจ เขาคงได้ตัวผู้หญิงแน่
“คืองี้โว้ยต่อย… เครือข่ายธุรกิจที่อาทำอยู่เนี่ย ไม่ใช่สักแต่กว้านสินค้าไปขาย แบบนั้นมันมือสมัครเล่น อาเป็นคนทำให้ขั้นตอนเบื้องต้นต่างๆสินค้าดูดีมีความพร้อมใช้ด้วย ถ้าไปถึงแล้วยังมีปัญหา เขาก็ไม่อยากได้หรอก ถ้าเขาต้องลงทุนเพิ่มเพื่อจัดการปรับปรุงกันเอง ก็คงไม่จำเป็นต้องจ้างอาแพงๆ งานเราเป็นพวกกำจัดความยุ่งยากแบบเบ็ดเสร็จเรียบร้อย ปัญหาต้องลดลงเหลือเกือบศูนย์เมื่อไปถึงมือลูกค้า”
“ก็เขาเป็นคนให้ยาอามาไม่ใช่เหรอ? ถ้ายาดีและได้ผลเฉียบขาดอย่างอาว่า ทำไมถึงไม่ป้อนเอง ไหนบอกว่าป้อนแล้วอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไม่ใช่หรือ?”
“พอลงมือทำจริงเอ็งจะรู้ว่าบังคับกันดื้อๆน่ะยาก เดี๋ยวอุ้มพี่เค้กของเอ็งไปจัดการแล้วก็เห็นเอง ผู้หญิงที่เราจัดส่งเนี่ย เจ้าแม่เก่าฤทธิ์เยอะทั้งนั้น ถ้าไม่กล่อมประสาทให้หมดสภาพเสียก่อน ก็ต้องออกแรงเหนื่อย แล้วก็ทนเสียงปี๊ดๆเป็นนกหวีดกันหูชา ลูกค้าไม่ชอบขั้นตอนพวกนี้ อีกอย่างก่อนส่งตัวต้องทำหมันถาวร ทำเอกสารเข้าประเทศอย่างถูกต้อง งานจุกจิกหยุมหยิมทั้งนั้น”
พฤหัสยังคงสนใจเรื่องยา ไม่สนใจเรื่องเบ็ดเตล็ด
๓๐๘
“ยาอะไร แพงไหม?”
“อาก็ไม่รู้หรอกว่ายาอะไร รู้แต่ว่าแพงโคตร ถ้าไม่ใช่เกรดเอจริงๆเขาก็ไม่ยอมลงทุนเหมือนกัน ขนาดเปลี่ยนนางเสือดาวให้เป็นลูกแมวเชื่องๆตลอดไปนี่คงไม่เหมือนยาแก้ปวดหัวแน่”
“อือม์… วิทยาการไปถึงไหนต่อไหน น่างงจริงๆว่าทำได้ไง”
“เอ็งไม่ต้องเข้าใจอะไรมากหรอกต่อย เอาเป็นว่าถ้าให้ยาได้ครบคอร์ส ผู้หญิงจะหมดความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ดิ้นรนขัดขืน เหมือนทำอย่างเต็มใจน่ะ คล้ายคนถูกสะกดจิต สั่งให้ทำอะไรก็ทำ แต่จะเป็นตัวของตัวเองบ้างเป็นบางคราว พวกเราแค่รับหน้าที่ป้อนยาให้ถึงตัวจนครบคอร์สเท่านั้น”
ฉาดฉานเสริมตามที่ตนเคยประจักษ์กับตามาก่อน
“คือคนเราเนี่ย ถ้าถูกกระตุ้นให้สยิวมากๆ มันจะหน้ามืดตามัวใช่ไหม? ยานี่จะทำให้ระบบหมุนเวียนเลือดดีจัด แล้วก็หลั่งสารอะไรเกี่ยวกับเซ็กซ์ออกมาเรื่อยๆ ถ้าโดนยาปริมาณหนึ่งจะติดเหมือนเฮโรอีน อยากมีเซ็กซ์จนไม่เป็นอันทำอะไร ไม่คำนึงถึงอะไร อยากโดนล่อให้ถึงใจท่าเดียว”
พฤหัสเม้มปากอย่างกึ่งทึ่งกึ่งพิศวง ยิ่งฟังสรรพคุณเกี่ยวกับยามากขึ้น ก็ยิ่งคิดว่าถ้านรกที่ต้องชดใช้กรรมของหญิงมักง่ายมีจริง น่าจะเป็นอะไรทำนองนี้ล่ะกระมัง เพียงแต่ไม่ใช่นรกในฝันของคนโบราณ นี่คือของจริงที่เกิดขึ้นบนโลกมนุษย์ โดยมีมนุษย์ด้วยกันทำตัวเป็นยมบาลลงทัณฑ์แทนเจ้าพนักงานนรก
หัวเราะความคิดตนเอง หมู่นี้เรื่องกรรมวิบาก เรื่องนรกสวรรค์เข้ามาปรากฏในหัวบ่อยขึ้นกว่าแต่ก่อน นี่คงพิสูจน์ได้ว่าคุยกับใครบ่อยๆ คำพูดของคนแบบนั้นๆจะถูกอัดฉีดเข้ามาอยู่ในหัวโดยไม่รู้ตัว ทั้งอเวรา ทั้งละอองฝน ทั้งจองฤกษ์ แล้วไหนจะหวานใจอย่างณชะเลอีก ระยะหลังสมองเขารับเอาข้อมูลของคนโบราณเข้ามาเก็บไว้มากเกินไปเสียแล้ว
“มึงเคยทำงานให้อามู่…” พฤหัสพูดกับฉาดฉาน “เห็นอาการของผู้หญิงแล้วเป็นไงมั่ง คงไม่มีประเภทเลือดออกปากออกจมูกนะ?”
ฉาดฉานหัวเราะหึหึ พูดให้เพื่อนสบายใจ เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายยังมีความไยดีคู่นอนเก่าอยู่บางๆ
“ยาที่เขาคิดค้นกันหัวแทบแตกมาเป็นสิบปีเนี่ย พัฒนาหลายรุ่นหลายขนาน เพื่อให้เกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย เวอร์ชั่นปัจจุบันทำให้ผู้หญิงแข็งแรงขึ้นด้วยซ้ำ คนเราพอมีเรี่ยวแรงมหาศาลก็อยากออกกำลัง อยากเล่นกีฬา ทั้งกลางแจ้งและในร่ม”
ทั้งสามหัวเราะพร้อมกัน เพราะต่างรู้ว่ากีฬาในร่มหมายถึงการเล่นสมพาสกามกรีฑากลในห้องนั่นเอง
สิงคารช่วยหลานชายรับรอง
“ไม่มีอันตรายหรอกต่อย ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นพิษแบบไหนๆทั้งสิ้น แล้วก็ไม่ถึงขนาดกลายเป็นหุ่นกระป๋อง พวกอียังจำความได้ทุกประการ ไม่มีลูกค้าต้องการสินค้าแห้งแล้งเหมือนหุ่นไล่กาหรอก”
“ถ้าความจำยังดี ก็ต้องอยากกลับบ้านมั่งล่ะ จะแน่ใจได้ไงว่าเอาอยู่?”
ถามมืออาชีพผู้อยู่ในวงการเต็มตัวเพื่อประกันความมั่นใจให้ตนเอง หลังจากที่เคยถามเพื่อนมาครั้งหนึ่งก่อนหน้า ด้วยความระแวงว่าวันดีคืนดีถ้าอเวรากลับเมืองไทยแล้วมาชี้ตัวเขากับตำรวจ ก็เสร็จกัน
“อย่างที่บอกแหละ เอ็งต้องเห็นอาการผู้หญิงเอาเองแล้วจะรู้ ยานี่เสพแล้วติดเป็นบ้าเป็นหลัง ไม่คิดมากเรื่องกลับบ้านหรอก อีกอย่างต้องมีการกล่อม ทั้งปลอบทั้งขู่ไว้ด้วย ว่าถ้าคิดตุกติกจะอยู่ดูโลกได้ไม่นาน”
๓๐๙
ฟังแล้วพฤหัสถึงกับอั้นอึ้ง วินาทีนั้นเขาเกิดความสงสารอเวราขึ้นมา แต่ก็เลือนลงในทันทีที่นึกถึงความชาบนใบหน้า การถูกผู้หญิงตบเต็มเหนี่ยวแบบประกาศว่าฉันจะกำจัดขยะอย่างแกทิ้งจากชีวิต กลายเป็นรอยอาฆาตบาดลึกอย่างไม่เคยมีแค้นครั้งใดเทียบเท่า หล่อนรู้จักเขาน้อยไป!
ไม่เป็นไร อีกเดี๋ยวหล่อนจะรู้จักเขาดีขึ้น!
ฉาดฉานเห็นเพื่อนคิดนานก็นึกว่ากลับไปลังเลอีก เลยตะล่อมต่อ
“ยาเนี่ยมึงเอ๊ย เสพเข้าไปเป็นสุขยิ่งกว่าถึงสวรรค์ แล้วก็ทำให้ความไวประสาทเพิ่มขึ้นหลายเท่า ลองคิดดูแล้วกันว่าตอนประสาทกำลังตื่นๆเนี่ย เอากันมันขนาดไหน”
“เอ… ถ้ายาดีขนาดนั้น กูก็ชักอยากลองเองซะแล้วสิ ยาเสพติดภาษาอะไรวะ มีแต่ดีด้านเดียว”
สิงคารยิ้มขรึม ตอบพฤหัสในใจว่ามีแต่สรรพคุณด้านดีอย่างเดียวก็เพราะกูปิดบังมึงอยู่น่ะซี รู้ความจริงทั้งหมดแล้วจะหนาว เดี๋ยวมึงสงสารแฟนเก่า เกิดถอนตัวไปกูก็ชวดเงินก้อนโตเท่านั้น สินค้าดีๆที่คุณสมบัติปลีกย่อยลงตัวขนาดนี้ไม่ได้มีมาเข้าทางบ่อยๆ ปล่อยให้พลาดก็โง่ตาย
ความจริงมีอยู่ว่ายานี้อะไรๆก็ดีหมดในระยะแรก แต่หลังจากใช้ไป ๕ ปี คนเสพจะออกอาการคล้ายกันหมด คือหัวใจวายเฉียบพลัน เนื่องจากระบบต่างๆถูกกระตุ้นใช้งานหนักเกินธรรมชาติมาหลายปี ผลข้างเคียงประเภทนี้ยากจะหลีกเลี่ยง แม้ให้ยาบำรุงหัวใจเสริมเข้าไปอย่างดี ก็ช่วยแค่ยืดอายุนิดหน่อยเท่านั้น
แต่ผลข้างเคียงดังกล่าวกลับกลายเป็นเรื่องดีสำหรับเครือข่ายธุรกิจ คือ ๕ ปีนั้นกำลังเหมาะ ถ้ามองเป็นสินค้าก็สมควรแก่อายุใช้งานแล้ว ทำกำไรเกินคุ้มแล้ว น่าโละทิ้งเสียทีแล้ว อีกทั้งเป็นการโละแบบไม่ต้องมีมือใครเปื้อนเลือดเสียด้วย การหายตัวไปอย่างถาวรจะเป็นประกันว่าไม่มีใครหวนกลับประเทศเพื่อชี้หน้าคนพาไปขาย นั่นเป็นสิ่งน่าพึงพอใจด้วยกันทุกฝ่าย ผู้หญิงเองก็ไม่ต้องใช้ชีวิตที่เหลือแบบเศษขยะไร้ค่า
และเพื่อไม่ให้พฤหัสอยากลองยาเสียเอง เขาก็มีคำพูดหลอกล่อตระเตรียมไว้แล้ว
“เอ็งอย่าลองเลยต่อย ประการแรกของมันแพงมาก อย่างที่อาบอก ถ้าติดแล้วไม่มีปัญญาซื้อ อย่างนี้มีเท่าไหร่ก็หมดตูด ประการที่สองเอ็งจะไม่อยากทำอะไรอื่น วันๆคิดเรื่องมั่วเซ็กซ์อย่างเดียว มันเหมือนติดกรงขังน่ะ เอาเหรอะ?”
“ลองนิดลองหน่อยแล้วเลิกก็ได้นี่อามู่ ไหนอาว่าต้องเล่นให้ครบคอร์สก่อนถึงจะติดแบบโงหัวไม่ขึ้นไง?”
สิงคารส่ายหน้า
“ก็จริง แต่ถ้าเอ็งทำอะไรนะ แล้วมันสุขซ่านเสียวซึ้งตั้งแต่ครั้งแรก เอ็งก็จะอยากลองครั้งที่สอง ด้วยความคิดเดียวกับครั้งแรก คือไม่เป็นไร ครั้งที่สามก็คิดว่าไม่เป็นไร กว่าจะรู้ตัวว่าเป็นไร มึงก็ลืมนับเสียแล้วว่าเล่นมากี่ครั้ง”
ฉาดฉานรู้พิษสงที่แท้จริงของยาเช่นกัน เขายังอยากได้เพื่อนทำธุรกิจโฉดนี้ไปนานๆ จึงรีบทำตัวเป็นลูกคู่
“กูยังไม่กล้าลองเลยต่อย กลัวติดแล้วหมดตูดอย่างอามู่ว่า ถ้าอยากเล่นยามึงบอกกู เดี๋ยวจัดให้ อันนี้เอาไว้ใช้กับสินค้าอย่างเดียวเถอะ”
คำก็สินค้า สองคำก็สินค้า ฟังไปฟังมาพฤหัสชักเห็นคล้อยตาม และเกิดมุมมองขึ้นมาเป็นจริงเป็นจังทีละน้อยโดยไม่รู้ตัว ว่าผู้หญิงสวยคือสินค้า
“ผมยังมีสินค้าในสต๊อกอีกเยอะนะอามู่…”
ใช้คำว่า ‘สินค้า’ ได้เต็มปากเต็มคำแบบเดียวกับพรรคพวกของตน ขณะพูดคำนั้น พฤหัสไม่ทันรู้สึกว่ารัศมีแบบมนุษย์ที่ฉายออกมาจากใบหน้าของตนมืดมัวลง รู้แต่ว่าชักย่ามใจ และเห็นเป็นของโก้เก๋ที่ได้เข้าพวกกับคนใจถึง
๓๑๐
สิงคารกับฉาดฉาดหัวเราะกระหึ่มราวกับจะเป็นแตรวงต้อนรับสมาชิกรายล่าสุดเข้ามามีส่วนร่วมในชมรมเดนมนุษย์ เสียงหัวเราะประสานชนิดนั้นเป็นยาชูกำลัง ทำให้น้องใหม่เกิดความเชื่อมั่นและฮึกเหิมได้ชะงัด
“เอาซีวะต่อย ถ้าเอ็งทำเนียนๆไม่ให้เกิดปัญหา แค่สองสามปีก็มีได้เป็นสิบล้านแล้ว สิบล้านน่ะคนต๊อกต๋อยธรรมดาทำงานกันหัวหงอกยังไม่มีกันเล้ย!”
พฤหัสหัวเราะบ้าง
“วันหนึ่งคงไม่เกิดธุรกิจจับผู้ชายหล่อๆอย่างผมไปขายมั่งนะอา?”
“เฮ่ย! ไม่มีหรอกน่า…” สิงคารพูดอ้อมแอ้มไม่ค่อยเต็มปากเต็มคำแล้วรีบเปลี่ยนเรื่อง “มาเคลียร์งานกันให้เสร็จก่อน ถ้าจะจับตัวไปกักไว้ต้องเริ่มต้นงี้…”
อเวรามาที่บ้านพี่สาวบ่อยจนหลังๆไม่ต้องนัดก่อน อยากมาก็มา ถึงไม่พบรสรินก็คุยกับณชะเลได้ และยิ่งวันก็ยิ่งสนิทคุ้นกับหลานสาวมากขึ้นทุกที ถูกคอกันมากขึ้น ณชะเลเองยังบอกว่าคุยกับหล่อนออกรสกว่าคุยกับเพื่อนซี้ที่โรงเรียนเสียอีก
หล่อนทึ่งกับสายตาและวิธีมองคนของหลานสาว ณชะเลเพิ่งมีแฟนเป็นคนแรก แต่พูดถึงผู้ชายลักษณะต่างๆได้อย่างคนมีความเข้าใจลึกซึ้ง คุยกันนานๆแล้วต้องเชื่อว่าฝ่ายนั้นมีสัมผัสพิเศษ อ่านคนได้ทะลุราวกับมืออาชีพที่ทำงานเกี่ยวกับการคัดคนมาเป็นหมื่น
เริ่มต้นด้วยการบ่นเล่นๆให้ณชะเลฟังเกี่ยวกับผู้ชายที่ผ่านๆมา แต่พอเห็นหลานสาววิเคราะห์คนเก่ง แถมช่วยให้หล่อนย้อนกลับไปมองเห็นและเข้าใจตัวเองได้แจ่มกระจ่าง ตาสว่างขึ้นเยอะ ตอนหลังๆณชะเลเลยปรากฏเหมือนแสงสว่างที่น่าฝากใจไปอีกคน
อเวราทยอยเล่าทุกเรื่องให้ณชะเลรับรู้ ด้วยความอยากฟังว่าหลานสาวจะพูดถึงเรื่องที่ผ่านๆมาในชีวิตหล่อนอย่างไร ยกเว้นปัญหาเกี่ยวกับหนุ่มรายล่าสุด ที่ถือว่าเป็นเพียงคู่นอน และน่าอับอายเกินกว่าจะเปิดเผยว่าเขามีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับณชะเลนั่นเอง!
ตัวตนที่คมชัดของณชะเลมีแรงประทับให้คนพบเห็นจดจำ คิดถึง และอยากกลับมาใกล้ชิดเสมอ วัย ๑๗ ที่ยังติดแม่อาจมีภาพโยเย ขี้อ้อน และตีโพยตีพายแบบหนูน้อยอยู่บ้าง แต่หลายครั้งประกายคมกริบที่ฉายออกมาทางแววตาและท่วงทีกิริยาของณชะเล ก็ทำให้อเวรานึกคร้ามเกรงขึ้นมาได้แปลกๆ อย่างพอไปเดินห้าง บางทีตามหลังแล้วสัมผัสชัดถึงสง่าราศีที่น่าพินอบพิเทาให้ของฝ่ายนั้น แบบนึกอยากค้อมศีรษะเล็กน้อยเพื่อลดระดับตนเองไม่ให้เกินคนนำหน้า หรือเวลาณชะเลชักชวนเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา หล่อนมักตกลงตามแบบหงอๆเหมือนรับคำสั่งมากกว่าจะร่วมตัดสินใจ
เคยเปรยกับหลานสาวทีเล่นทีจริง ว่าหล่อนรู้สึกเหมือนเป็นคนรับใช้ผู้ติดตามองค์หญิงมากกว่าจะเป็นน้า ซึ่งณชะเลฟังแล้วเงียบๆไม่ตอบว่าอะไร แต่คนเราพอเผยความรู้สึกที่มีต่ออีกฝ่ายอย่างไม่ปิดบัง ก็เหมือนเปิดม่านบางๆออกจนเห็นกันได้เต็มที่ แปลกดี คล้ายหล่อนรู้ใจณชะเลได้ว่ากำลังอยากได้อะไร ต้องการจะพูดอะไร นอกจากนั้นณชะเลยังเป็นแรงบันดาลใจ ทำให้หล่อนอยากมีรูปชีวิตที่สมบูรณ์แบบบ้าง จึงซึมซับวิธีคิดและวิธีพูดของหลานสาวมาไว้กับตัว ด้วยศรัทธาว่าชาติหน้าเกิดใหม่จะได้เดินทางเดียวกัน มีพ่อแม่แบบเดียวกันกับณชะเลบ้าง
๓๑๑
แปลกกว่านั้นคือเมื่อตกลงใจว่าจะยึดณชะเลเป็นแบบอย่าง อเวราก็บังเกิดความคุ้นเคยกับตัวเอง เสมือนว่าห่างเหินจากตัวตนเดิมๆมาเสียนาน จากความอยากลอกเลียนคนเด่นจึงกลายเป็นความสมัครใจคิด พูด ทำอะไรดีๆ อย่างมีความเป็นตัวของตัวเองไปแทน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในชั่วเวลาข้ามอาทิตย์เท่านั้น
พอหล่อนขวนขวายหาบุญกุศลเข้าตัว จนจิตใจเกิดความสว่าง อบอุ่นอยู่กับตัวเอง และรู้จักเป็นฝ่ายให้มากกว่าเรียกร้องอยากเป็นฝ่ายรับ ก็เริ่มอ่าน ฟัง ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างเข้าอกเข้าใจมากยิ่งๆขึ้น ผลที่เห็นชัดเป็นอันดับแรกคือเหงาน้อยลง ผลอันดับต่อมาคือใจที่เคยเฝ้าแต่คิดแสวงหาคู่กายคู่ใจนอกตัว ค่อยๆแปรเป็นคิดแสวงหาความสุขภายในอันเป็นของมีอายุยืนกว่ากัน เพราะสุขภายในเป็นสิ่งที่หวังได้จากตัวเอง เพิ่งตระหนักว่านอกจากตัวหล่อนเองแล้ว ไม่มีใครซื่อสัตย์เท่า ไม่มีใครพยายามพะเน้าพะนอเท่า และสำคัญสุดยอดคือไม่มีใครเป็นที่พึ่งได้เท่า
เย็นนั้นถนนค่อนข้างโล่ง หล่อนมาถึงบ้านพี่สาวหลังเลิกงานเพียงครึ่งชั่วโมงเศษ กะว่ารสรินยังไม่กลับ แต่ณชะเลน่าจะมาถึงแล้ว ซึ่งก็แปลว่าคนที่หล่อนอยากมาหาจริงๆคือหลานสาว มิใช่พี่สาวดังเคย
จอดรถไว้ข้างทางนอกรั้ว แปลกใจเมื่อเห็นรถของรสรินจอดอยู่ แสดงว่ากลับเร็วผิดปกติ หญิงสาวกดกริ่งหน้าประตู รออึดใจเดียวก็เห็นณชะเลเดินออกมา อเวรายิ้มกว้างอย่างดีใจ
“หวัดดี ทราย!”
“สวัสดีค่ะน้าเค้ก”
เด็กสาวมาหยุดยืนไหว้ผู้เป็นน้าอย่างอ่อนน้อมเมื่อเข้าใกล้ และน้าสาวก็ไหว้ตอบด้วยความอ่อนน้อมเสมอกัน
“มาแต่วันเลย ตรงมานี่เลยเหรอ?”
“ใช่ ความจริงเพราะอยากคุยกับทรายนั่นแหละ… นี่พี่หน่องกลับเร็วเหรอ?”
“ค่ะ แม่บอกว่าจะไปงานศพ กำลังแต่งตัวอยู่เนี่ย”
อเวราเลิกคิ้วสูง
“งานศพใคร?”
“เห็นว่าเป็นเพื่อนที่ทำงานน่ะค่ะ พอกลับมาถึงก็บ่นๆว่า ไม่รู้เป็นไง ปีก่อนไม่มีสักงาน ปีนี้ไป ๓ งานรวด แถมแต่ละศพนี่เรื่องน่าเศร้าทั้งนั้น”
สองสาวชี้ชวนกันนั่งแถวนั้นเอง เพื่อที่อเวราจะได้รอสวัสดีรสริน
“รายนี้เป็นอะไรตายหรือ?”
“ถูกยิง”
“จับคนร้ายได้หรือเปล่า?”
ถามเรื่อยเปื่อยอย่างคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว
“นี่แหละค่ะเรื่องน่าเศร้า” ณชะเลตอบเสียงหม่น “มีร่องรอยต่อสู้เหมือนถูกปล้นชิงทรัพย์ถึงในบ้าน แต่ตำรวจสอบไปสอบมาพบพิรุธ ในที่สุดหลักฐานก็ชี้ไปที่ตัวลูกชายคนตายนั่นเอง!”
“ตายจริง!” อเวราทำตาโต “พรุ่งนี้มีข่าวร้ายลงหน้าหนึ่งอีกแล้วสิ ไม่รู้จะสร้างแรงบันดาลใจกันไปถึงไหนนะ พวกลูกทรพีนี่”
“เห็นว่าเด็กเก็บมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมน่ะค่ะ ไม่ใช่ลูกแท้ๆหรอก”
“คนเราก็ทำกันลงคอนะ เขาอุตส่าห์เลี้ยงดูมาให้โตขนาดนั้น”
๓๑๒
วิจารณ์ตามเรื่องอย่างคนไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ
“ฟังแม่เล่าแล้วก็เศร้าใจตามค่ะ เป็นเพื่อนสนิทแม่เสียด้วย เห็นว่าลูกขอแบ่งสมบัติ จะแยกไปอยู่ข้างนอก แต่คงตกลงกันไม่ได้ มีการยื้อยุดฉุดดึง มีการตบตี แล้วลงท้ายก็ได้เสียงปืนเป็นผู้ตัดสิน!”
“เมายาหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฤทธิ์ยาไม่รู้จักหรอกว่าใครพ่อใครแม่”
“เรื่องเมายานี่ยังไงทรายก็ไม่ทราบนะคะ ทราบแต่ว่าความโลภอย่างเดียวก็ทำให้ความคิดคนเราสั้นลงมากอยู่แล้ว ถ้าบวกความโกรธเข้าไปอีก ความมัว ความเมาก็คงทวีตัวรุนแรงไม่ต่างจากตอนโดนฤทธิ์ยา อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ในพริบตาเดียว”
“เฮ้อ! เหมือนเราไม่เคยจับคนร้ายตัวจริงกันได้เลยนะ ที่จับได้น่ะ แค่เหยื่อของคนร้ายเท่านั้น”
ณชะเลหัวเราะแจ่มใสด้วยความพึงใจที่เห็นน้าสาวฉลาดเห็นทะลุตามจริง
“จริงของน้าเค้กค่ะ โลกนี้ลุกเป็นไฟด้วยโลภะและโทสะมาตลอด แต่ก็ไม่ค่อยมีใครคิดกำจัดตัวร้ายรายใหญ่กันหรอก มีแต่จับกันเอง กำจัดกันเอง ซึ่งก็เป็นแค่เหยื่อผู้หลงกลติดกับด้วยกันทั้งหมด แท้ที่จริงไม่มีมนุษย์หน้าไหนชั่วช้าเลยสักคน”
อเวรากะพริบตาทีหนึ่ง เอื้อมมือไปแตะหลังมืออีกฝ่ายอย่างจะส่งใจ
“ก็ต้องขอบคุณพี่หน่องกับทราย ที่ช่วยให้น้าไม่ต้องตกเป็นเหยื่อรายต่อไป…”

จบบริบูรณ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น