ดังตฤณ : คำถามบอกว่า
เวลาเจริญสติพอรู้สึกถึงความว่าง จิตจะตื่นเต้นกับความว่าง
ขอบอกเลยนะว่า
ไม่ว่างจริงครับ ถ้าว่างจริงแบบที่มีกำลังของสมาธิ จิตมีความตั้งมั่นนี่นะ
ต่อให้คิดอะไรวอกแวก
ก็จะไม่หวั่นไหว ก็จะไม่มีอาการโคลงเคลงคลอนแคลน
แต่ถ้าหากว่ามีความตื่นเต้นขึ้นมานี่
แสดงว่าไม่ว่างจริงนะ
เป็นแค่ว่างแบบหลอกๆ
เป็นแค่พยับแดดเท่านั้นนะครับ
ถาม : พอเกิดความตื่นเต้นกับว่าง แล้วก็ทำให้จิตฟุ้งซ่าน
ดังตฤณ : บางคนก็ออกแนวเดียวกันน่ะนะครับ นึกว่าถ้าจ้องอยู่เดี๋ยวจะได้มรรคผลมั้ย
ถ้าจ้องอยู่ว่าเดี๋ยวจะได้มรรคผลมั้ยนี่
... ไม่ได้นะครับ ไม่ได้แน่นอน เพราะว่าที่จะได้มรรคผล จิตต้องทิ้ง ไม่ใช่จิตไปจ้อง
นะครับ
ถาม:
พอฟุ้งซ่าน ลมหายใจจากสบายๆกลายเป็นสั้นกระชาก คล้ายกับทั้งระบบจิตและลมหายใจรวนไปหมดเลย
แบบนี้ควรพิจารณาอย่างไรต่อ
ดังตฤณ: ก็เรียนรู้จากบทเรียนที่ผ่านมาอย่าปล่อยผ่านนะครับ
คือความผิดพลาดนี่ ทุกคนแม้แต่พระพุทธเจ้า ท่านก็ตรัสถึงความผิดพลาดในการทำสมาธิในช่วงต้นๆ
ของพระองค์เอง ไว้เป็นอุทธาหรณ์ด้วยนะครับ อย่างเรื่องความตื่นเต้นเกินไป หรืออะไรต่างๆ
ท่านก็พูดถึงนะครับ เวลาที่ท่านนั่งสมาธิแล้วเกิดแสงช่วงแรกๆนี่
ท่านก็ไปตื่นเต้นกับแสงจนแสงหาย นี่ท่านเล่าละเอียดเลยนะ
อันนี้ก็เหมือนกัน
เรามารุ่นหลังนี่ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากรุ่นก่อนๆนะครับ
ทุกคนน่ะผ่านตรงนี้หมดเพียงแต่ว่า ถ้าเราเข้าใจว่า นี่คือบทเรียนบทฝึกหัดที่จะต้องเจอกันทุกคน
เราก็จะเข้าใจว่า ตรงนี้ไม่ใช่ความล้มเหลว ตรงนี้คือบันไดขั้นแรก
เมื่อเราผ่านขั้นแรกไป ขั้นที่สองเราต้องเจอใหม่ เจอภาวะแบบเดิมๆ แล้วก็อุเบกขาให้เป็น
อุเบกขาตั้งแต่เมื่อไหร่ อุเบกขาตั้งแต่การยอมรับตามจริงว่า เกิดความตื่นเต้นขึ้น
ถ้าใครเกิดความตื่นเต้น
แล้วพยายามไปเบรคความตื่นเต้น อันนั้นผิดนะครับ
ถ้าใครเกิดความรู้สึกเหมือนกับว่าใจเต้นตึกตัก แล้วไปพยายามบังคับให้อาการตึกตักนั้นมันแผ่วเบาลง
ตัวนี้ เป็นเรื่องของการบังคับสภาวะจิตสภาวะใจ ให้เป็นไปตามปรารถนา
ไม่ใช่การมีสติรู้ตามจริงว่าอะไรเกิดขึ้น ไม่ใช่การมีสติรู้ตามจริงว่า สิ่งใดเกิดขึ้น
สิ่งนั้นต้องแปรปรวนไปเป็นธรรมดา สิ่งนั้นไม่ใช่ตัวเดิมเป็นธรรมดา
สิ่งนั้นไม่ใช่ตัวตนของเราจริงๆ ด้วย ไม่มีทางจะไปได้ข้อสรุปแบบนั้นเลย
ตราบเท่าที่เรายังมีตัณหา
มีภวตัณหา อยากให้ร่างกาย เป็นไปตามที่เราอยากจะให้มันเป็น อย่างเช่น เกิดความสงบระงับ
ไม่กวัดแกว่งทันที หรือเกิดความไม่ฟุ้งซ่าน มีความนิ่งเงียบทางจิตทันที อะไรแบบนี้นี่
เป็นเรื่องที่นอกจากจะไม่เกิดสติแล้ว ยังทำให้เกิดตัวตัณหา ตัวโลภะในสภาวะมากขึ้นเรื่อยๆด้วย
ตรงนี้แหละที่จะให้พิจารณานะครับ
ก้าวที่สอง พูดง่ายๆ ให้ยอมรับตามจริงนะว่าเกิดอะไรขึ้น
ทั้งผิดแล้วก็ถูก!
________________
ปฏิบัติธรรมที่บ้าน
ตอน วิทยาศาสตร์ของความสงบแบบตื่นรู้
10 พฤศจิกายน 2562
..
.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
▶▶ คำถามช่วง – ถามตอบ ◀◀
เวลาเจริญสติพอรู้สึกถึงความว่าง
จิตจะตื่นเต้นกับความว่างนี้ ทำให้ความฟุ้งซ่านเกิดทันทีและเกิดมากขึ้น
ลมหายใจจากสบายๆ กลายเป็นสั้น กระชาก คล้ายๆ กับทั้งระบบจิตและลมหายใจรวนไปเลย
แบบนี้ควรพิจารณาอย่างไรต่อคะ?
ถอดความ
: แพร์รีส แพร์รีส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น