ดังตฤณ : นี่ไงที่คุณเขียนมา อันนี้คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสนะครับ
อย่างพอพูดถึงการเจ็บไข้ได้ป่วยเนี่ย พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่บอกว่า เป็นโรคเวรโรคกรรมนะครับ
ขึ้นต้นมาท่านบอกว่าเป็นอุตุ อย่างดินฟ้าอากาศ หรือเชื้อโรคอะไรแบบนี้ จัดอยู่ในหมวดอุตุหมดเลย เราไม่ได้มีกรรมจะต้องป่วยไข้
แต่ถ้าหากไปตากฝนกลับมาแล้วไม่ยอมอาบน้ำ
ไม่ยอมเช็ดตัวให้แห้ง ปล่อยให้หัวชื้น แล้วก็เจอแอร์โกรก เย็นๆแบบนั้นน่ะเสร็จแน่นอน ไม่ต้องเอาโรคเวรโรคกรรมที่ไหนมา ปวดหัวตัวร้อนแน่นอนนะครับ
แล้วอย่างทำงานหนักเกินไป จนกระทั่งกล้ามเนื้อมันบิดตัว
แล้วมีความร้อน มันเหมือนกับธาตุไฟกำเริบผิดปกติแล้วเนี่ย
อันนี้ก็ทำให้ป่วยไข้ได้ หรืออย่างไม่ออกกำลังกาย ไม่บริหารร่างกาย
กล้ามเนื้อมันก็ตึง เกร็ง จนกระทั่งเกิดอาการอะไรขึ้นมา เดี้ยงขึ้นมา กระดูกกระเดี้ยไปไม่ไหว
บางคนเดินไม่ได้ พอรู้ท่าโยคะดีๆ
สักท่าหนึ่งที่จะทำให้เส้นสายมันยืดได้ ก็กลับมาเดินได้ มันง่ายๆแค่นี้นะครับ
แล้วอย่างโรคเวรโรคกรรมเนี่ย
อันนี้เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับเชื้อโรค ไม่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายหนักไป
หรือว่าไม่เกี่ยวข้องกับบริหารร่างกายนะครับ
บางคนอยู่ในที่ๆดี
แล้วก็ที่ผ่านมาก็ไม่ได้เป็นอะไร ไม่ได้ทำงานหนักเกินไป แล้วก็ยังบริหารร่างกายอยู่
แต่อยู่ๆเนี่ยมีอะไรปูดเท่าลูกมะนาวขึ้นมาที่ตรงโน้นตรงนี้ หมอตรวจก็ไม่รู้ว่ามันคือโรคอะไร แบบนี้ถึงจะจัดเป็นโรคเวรโรคกรรม
เวลากรรมเขาทำงานเนี่ย
เขามาแบบที่พูดง่ายๆว่า เหมือนพ่อมด เหมือนแม่มด เสกปิ๊งเดียวเนี่ย จากอะไรที่มันไม่มีเค้า มันก็กลายเป็นตัวเป็นตนขึ้นมา
กลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา
พูดง่ายๆที่สุดเลยก็คือว่า
ถ้าเป็นโรคเวรโรคกรรมเนี่ย เราเอาชนะมันยาก
แล้วมันก็มาแบบไม่มีความสมเหตุสมผลทางวิทยาศาสตร์ อันนี้ถึงจะบอกว่าอ้างว่า เป็นโรคเวรโรคกรรมได้
อย่างคำถามของคุณก็ประมาณว่า
เอ๊ะมันมีอะไรที่ใหญ่กว่ากรรมด้วยหรือ จริงๆ ทุกอย่างมันเป็นกรรมหมดแหละ
แต่เป็นเป็นกรรมใหม่ก็ต้องนับด้วย อย่างเช่น ไม่รู้ประสีประสาไปเล่นน้ำฝน
แล้วกลับมาเนี่ยเอาหัวมาให้แอร์โกรกอะไรแบบนี้เนี่ยนะครับ ก็เรียกว่าเป็นกรรมใหม่นะ
เป็นกรรมที่ทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
แล้วตัวกรรมที่มันใหญ่ที่สุดเลยเนี่ย
ก็คือกายนี้แหละ ทั้งตัวนี้เลยคือกรรมเก่า พระพุทธเจ้าตรัสว่ากรรมเก่า
ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ
ใจก็เป็นวิบากเหมือนกัน เป็นสิ่งที่ถูกกรรมเก่าบันดาลขึ้นมา
จิตดวงแรกที่เข้ามาเกิดในท้องแม่ที่เรียกว่า
“ปฏิสนธิจิต” เนี่ย อันนี้ก็เรียกว่า “วิบากจิต” เป็นจิตที่เกิดจากเนรมิตของกรรมเก่า
ซึ่งไม่ใช่ดวงเดิมในชาติก่อนภพก่อนแล้ว
แล้วพอเราได้กายนี้ใจนี้ขึ้นมาที่เป็นกรรมเก่า
แล้วเรามีเจตนาโต้ตอบกับโลกภายนอกอย่างไร อันนี้แหละที่เป็นกรรมใหม่
ซึ่งถ้าหากว่าเราโต้ตอบไม่ดี ก็เรียกว่า เป็นกรรมใหม่ที่ไม่ดี สิ่งที่ใหญ่เกินกรรมไม่มีหรอก แต่ว่าต้องดูด้วย เป็นกรรมเก่า หรือกรรมใหม่ นะครับ
-------------------------------------------------------------------------
ผู้ถอดคำ ครอบครัว กิติวิริยกุล
วันที่ไลฟ์ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ (รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน)
คำถาม โรคที่ไม่ได้เกิดจากกรรมมีด้วยหรือครับ กรรมไม่ได้ใหญ่ที่สุดหรือครับ
ช่วยอธิบายได้ไหมครับ
(อากาศ, ทำงานหนัก, ไม่ออกกำลังกาย, กรรม)?
ระยะเวลาคลิป ๔.๓๒ นาที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น