ดังตฤณ : คือแค่นี้คนก็ว่าผมจะแย่อยู่แล้วนะ
(ยิ้ม) ต่อว่าผมจะแย่อยู่แล้ว เอาแค่นี้แหละ แต่ว่าให้คุณสังเกตนะครับว่า การนั่งอย่างเดียว
บางทีมันทำให้เกิดความเคยชินที่จะอยู่เฉยๆ แล้วก็ให้เสียงสติมาจัดการช่วยเหลืออะไรทุกอย่าง
แต่ถ้าหากคุณหัดที่จะเดินจงกรมด้วย รู้เท้ากระทบไป
เนี่ยใช้เสียงเดิมนี่แหละ พอเริ่มจะรู้สึกเคลิ้มๆ ลองมาเดินดูบ้างนะครับ เสียงที่กำลังใช้ฟังอยู่ ณ ขณะนั้นน่ะแหละ
ถ้าหากว่า เดินกลับไปกลับมา
รู้จังหวะเท้ากระทบช้าเร็วแล้ว เกิดความรู้สึกตื่นขึ้น เกิดความรู้สึกว่าสงบกว่าเดิม อันนี้มันดีกว่าไปเพิ่มเสียงระฆัง
เสียงระฆังเนี่ย คือจริงๆแล้ว
ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ที่จะมาช่วยให้เราได้มีสติขึ้นมานะครับ แต่ว่าตัวที่จะทำให้มีสติจริงๆคือ เราได้ฝึกทั้งการเจริญสติแบบนิ่ง
และการเจริญสติแบบเคลื่อนไหว
การเจริญสติแบบนิ่งก็คือ การนั่งหลับตา การเจริญสติแบบเคลื่อนไหวก็คือ การเดินจงกรมนะครับ
ถ้าได้ดุลย์ทั้งสติแบบนิ่ง ทั้งสติแบบเคลื่อนไหว คุณจะพบว่าสติจะติดตัวไป ตามตัวคุณไปอยู่ในชีวิตประจำวันด้วยแบบง่ายๆเลย ไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรมาก ไม่ต้องปลีกวิเวก ไม่ต้องไปเข้าป่าเข้าเขา นะครับ
ผู้ถอดคำ ครอบครัว กิติวิริยกุล
วันที่ไลฟ์ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ (รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน)
คำถาม ผมเป็นคนฟุ้งซ่านง่าย คิดเยอะ เป็นไปได้ไหมที่เสียงระฆังจะเตือนถี่กว่านี้
จะได้เตือนตัวเองให้มารู้ลมหายใจต่อ?
ระยะเวลาคลิป ๒.๐๔ นาที
รับชมทางยูทูป https://www.youtube.com/watch?v=12WNDE_3nig&feature=youtu.be
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น