ดังตฤณ : ถูกต้อง ที่ทำสมาธิ นั่งสมาธิ หลับตาก็ดี หรือลืมตาเดินจงกรมก็ดี ไม่ว่าจะสมัยพุทธกาลหรือสมัยเรา ทำให้เหมือนกัน ก็คือบ่มกำลังให้มากขึ้น บ่มกำลังการเห็น บ่มกำลังการรับรู้ให้มีความตั้ง ให้มีความนิ่ง ให้มีความรู้เป็นหนึ่งเดียว เกิดวิตักกะ เกิดวิจาระ ก็คือเกิดจิตดวงเดียวที่จะเห็น แล้วมีความพร้อมเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ
วิตักกะ และวิจาระ ในสมาธิและการเดินจงกรม
สามารถที่จะไปเกิดขึ้นเองได้ในระหว่างวันบ่อยๆ ถ้าหากว่าเราทำจนชำนาญแล้ว
ในชีวิตประจำวัน
เราจะไม่มามีเวลาที่จะมาดูลมหายใจ ดูให้เป็นหนึ่ง ดูว่าแยกจากกัน แต่ความชิน
ความชำนาญ ความคุ้นแล้วในการนั่งสมาธิ กับการเดินจงกรมนั่นแหละ
ที่จะติดมาเป็นเหมือนกับนิมิตติดใจ
คำว่า นิมิต ไม่ใช่ภาพลวงตา ไม่ใช่ภาพจินตนาการ
แต่เป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความเป็นกายนี้
ความเป็นลมหายใจนี้ที่รับรู้ออกมาจากภายใน .. ที่เกิดขึ้นได้เองบ่อยๆ
เป็นสัญญาณบอกว่า เริ่มมีความชิน
เริ่มมีความชำนาญอันเกิดจากการที่เรานั่งสมาธิและเดินจงกรมถูกทิศถูกทางนะ
ทำต่อไปนะครับ
___________________
ในชีวิตประจำวันรู้สึกลมหายใจเข้าออกในกาย
นั่ง เดิน ยืน นอน ขึ้นมาเองเป็นช่วงๆ แต่ยังยึดและโดนความคิดเล่นงานอยู่เป็นช่วงๆ
แล้วก็รับผลจากความคิดกันไปเป็นระลอกๆค่ะ เห็นความคิดได้ง่ายกว่าเวลานั่งสมาธิ
เดินจงกรม มีเกิดสังโยชน์ แต่ระหว่างวันยังยากอยู่ค่ะ กำลังจะมากขึ้นเองเมื่อรวมนั่งสมาธิกับเดินจงกรมไปเรื่อยๆใช่มั้ยคะ?
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ช่วง ถามตอบ
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2564
ถอดคำ : เอ้
รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=Y3M1mje2ZaQ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น