ดังตฤณ : อย่ามีความคาดหวังว่า ทำแล้วจะจบเลย จะดีเลยภายในสองสามวัน
ให้ตั้งมุมมองไว้ว่า
ของแบบนี้ต้องใช้เวลากันเป็นเดือนๆ เป็นปีๆ ถ้าเราบอกว่ายังเหลือเวลาอีกเป็นเดือนๆ
กว่าจะดีขึ้น อย่างน้อยก็จะไม่คาดหวังว่าจะดีขึ้นในวันพรุ่งนี้ หรือดีแล้วดีเลย
ในขณะเดียวกัน ถ้าเราบอกว่าโอ้โห
อีกตั้งเป็นเดือน อีกตั้งเป็นปีกว่าจะดีขึ้น แล้วเกิดความท้อแท้ขึ้นมา ระหว่างนั้น
เราก็หัดดูว่า .. คือแทนที่จะไปจมอยู่กับอาการท้อแท้ หัดดูว่าบางวันก็เจริญขึ้น
บางวันก็เสื่อมลง เราไปจัดการกับความเจริญขึ้น
และความเสื่อมลงด้วยการจะเอาอย่างใจไม่ได้
เราไปบังคับควบคุมไม่ได้
เพราะชีวิตใหญ่เกินความคาดหวังของมนุษย์
ความคาดหวังของมนุษย์เป็นสิ่งเล็กกระจ้อยร่อย
แต่ความจริง ภาวะที่เกิดขึ้นอันนั้น เป็นของใหญ่ เป็นของที่เอาชนะได้ยาก
แล้วถ้ายิ่งเราไปพยายามจะเอาชนะให้ได้เดี๋ยวนี้
จะยิ่งเป็นไปเพื่อความสูญเปล่า แต่ถ้าหากว่าเราตั้งมุมมอง แทนการตั้งความคาดหวัง
เราตั้งมุมมองไว้ว่า ทำไปเรื่อยๆ มันก็อย่างนี้แหละ เดี๋ยวก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เดี๋ยวก็แย่ลงกลับมาแย่ลง
แล้วเดี๋ยวก็ดีขึ้นเรื่อยๆ อีก จะกลายเป็นมุมมองใหม่
ลองเข้าห้องวิปัสสนานุบาลดูนะ
ไม่แน่ใจว่าเข้าไปแล้วหรือยัง ไปเห็นหลายๆ คนนะครับที่ทำๆ กัน เขาก็มีทั้งทำได้ดี
บางทีก็ทำไม่ได้ แต่ประเด็นคือทำไปเรื่อยๆ
พอทำไปด้วยกัน แล้วอยู่ไปด้วยกันอย่างนี้
จะมีทิศทางที่ชัดเจนว่าเราจะเอาอะไร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นคนที่เขาไปถึงจุดหนึ่งที่ไม่ต้องมาอยากได้อนาคตล่วงหน้ามาเร็วๆ
อะไรแบบนี้ เขามีความสุข มีความสบายกับปัจจุบันอยู่แล้ว
เมื่อเห็นตัวอย่างแบบนั้นมากๆ เข้า
แล้วก็ซึมซับมามากๆ เข้า ในที่สุดเราก็กลายเป็นคนหนึ่งที่พอใจอยู่กับปัจจุบันได้
ไม่คาดหวังในอนาคตมากนะครับ
เคยเป็นโรคซึมเศร้าใช้ยา
แต่ตอนนี้หมอให้หยุดยาแล้ว ปรกติจะชอบวิตกกังวล ฟุ้งซ่าน
และก็หัดทำสมาธิกับคลิปคุณดังตฤน ก็เหมือนจะดีขึ้นค่ะ มีสมาธิมากขึ้น
แต่ถ้าช่วงหนึ่งที่เรารู้สึกแย่ หรือป่วย ก็จะฟุ้งซ่านเสียเวลาเป็นวันสองวัน
พอเริ่มทำตามคลิปเจริญสติก็ดีขึ้นอีก อยากสอบถามว่า
จะทำยังไงดีคะที่เกิดอะไรขึ้นแย่ๆ แล้วไม่ให้เราฟุ้งซ่าน?
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน
ช่วง ถามตอบ
วันที่
13 พฤศจิกายน 2564
ถอดคำ
: เอ้
รับชมคลิป
: https://www.youtube.com/watch?v=JrLpJ7WZ8Gw
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น