ดังตฤณ : จิตที่รวมลงเป็นสมาธิ มีสติประกอบอยู่นี่นะ เป็นธรรมชาติชนิดหนึ่งที่คงสภาพอย่างนั้นของมันเองอยู่ได้โดยจริงๆ แล้ว เราไม่ต้องไปมีวิตก และวิจาร ในแบบที่ฝึกสมาธิก็ได้
คือวิตักกะ และ วิจาระ
เกิดขึ้นในระหว่างวันเป็นปกติอยู่แล้วนะ เพียงแต่จะสั้น ตามหลักทฤษฎี
ตามหลักวิชาการ ตามหลักปริยัติก็คือว่า วิตักกะ วิจาระ เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ยกตัวอย่างเช่น
เรามองอะไรสักอย่างแล้วเห็นภาพชัด ก็เรียกว่า วิจาระเกิดแล้ว เพราะภาพชัด
ไม่ได้ไปรับรู้อะไรอย่างอื่นเลย ณ ขณะที่คงสภาพรู้ชัดตรงนั้น เป็นวิตักกะ
วิจาระแล้ว ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นสมาธิในแบบที่เราคุยกัน
ไม่จำเป็นต้องมีคุณภาพแบบที่จะเห็นอาการพลิกตัวอะไรแบบนี้ตลอด
บางทีที่เห็นแบบนี้เพราะว่า จิตใสๆ
มีคุณภาพพร้อมรู้
ให้เข้าใจอย่างนี้แล้วกันว่า วิตักกะ
วิจาระที่เราคุยกันมาทั้งหมดในการทำสมาธิ เพื่อที่จะสื่อง่ายๆ ว่า
จิตของเรามีโฟกัสอยู่กับลมหายใจไหม
ถ้ามีโฟกัส ด้วยความตรึกนึก
ด้วยความว่าใจไม่วอกแวกไปไหน ไม่ปล่อยให้ตัวเองฟุ้งซ่านไปไหน
แล้วก็มีลักษณะแนบแน่นเป็นหนึ่ง ใจเหมือนมีดวงเดียว อย่างนั้น
ที่เราพูดกันในแง่ของวิตักกะ และวิจาระในการทำสมาธิ
อย่าเอาไปรวมกับระหว่างวัน
หรือภาวะพิเศษอะไรที่เกิดขึ้นมานะครับ เดี๋ยวจะสับสนแล้วงงกันเปล่าๆ
หลายปีก่อน
เคยฝึกดูลมหายใจตลอด แล้วเวลานอนพลิกตัวกี่รอบก็จะรู้สึกตัวตลอดทั้งคืน
แต่ตื่นเข้าไม่เพลีย แบบนี้คือเกิดวิตกวิจารแล้วหรือเปล่าคะ?
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน
ช่วง ถามตอบ
วันที่
13 พฤศจิกายน 2564
ถอดคำ
: เอ้
รับชมคลิป
: https://www.youtube.com/watch?v=ujxevkI_yI8
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น