ดังตฤณ : การเขียนนิยายไม่ใช่การพูดเพ้อเจ้อนะครับ
ไม่ใช่นะครับแล้วก็ไม่ใช่มุสาวาทด้วย เคยมีครูบาอาจารย์ที่ท่านรู้ปริยัติดี ท่านเคยตีความเอาไว้นะครับ
อย่างเช่น นิยายไม่ใช่การโกหกยังไง
เพราะว่าตกลงกันแล้ว รู้ตั้งแต่ต้นเลย คนอ่านเนี่ยรู้ว่า นี่คือนิยายไม่ใช่เรื่องจริง
มันเป็นเรื่องแต่งเพื่อเอาสนุก
หรือว่าเอาจุดประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่งที่ไม่ใช่เป็นสารคดี
ไม่ใช่ไปเอาข่าวบ้านเมืองมานะครับ
ไม่ใช่การเพ้อเจ้อยังไง การเพ้อเจ้อหมายถึง
การที่ทำให้จิตเตลิดไปด้วยคำพูดที่ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีแก่นสารสาระ อย่างใครเขาพูดกันเรื่องที่มันเป็นเรื่องเป็นประโยขน์
เราก็ทะลุกลางปล้องขึ้นมา ก็ชวนเขาออกอ่าวชักใบให้เรือเสีย
หรือว่าชวนเพื่อนคุยกันเรื่องที่ไม่มีแก่นสารอะไรเลย หัวเราะเหมือนคนเมายา
แล้วก็ไหลไปเรื่อย
สังเกตที่จิตง่ายๆนะครับ คนพูดเพ้อเจ้อเนี่ย
จิตมันจะเตลิดแล้วก็คุมไม่อยู่ ไม่สามารถกลับมาโฟกัสกับสิ่งที่เป็นประโยชน์ หรือสิ่งที่เป็นแก่นสารได้
อันนี้คือพ้อยท์(Point)ของการเพ้อเจ้อ
ทีนี้นิยายเนี่ยมันมีทุกแบบนะครับ
เขียนไปเพ้อๆโดยไม่มีพล็อตก็ได้ เขียนไปแบบไม่มีเป้าหมายอะไร จะขายเรื่องเซ็กส์อย่างเดียวก็ได้
หรือเขียนเพื่อที่จะบรรยายความรู้สึกของตัวเอง ตัวเองเก็บกดมาก ก็เอาคนอ่านมาเป็นเครื่องระบายให้เขามารับรู้
มีนะครับนักเขียนประเภทที่อยากให้คนอื่นได้เกิดความรู้สึกว่าโลกนี้มันห่วย
โลกนี้มันแย่ โลกนี้มันมีแต่เรื่องเลวร้าย ตามที่ตัวเองคิด
อันนี้ก็ถือว่าเพ้อเจ้อนะครับ เพราะว่ามันไม่ได้ให้ประโยชน์อะไร
มันไม่ได้ให้แก่นสารอะไร
แต่นิยายหลายๆเรื่อง ก็เปลี่ยนชีวิตคน
สามารถทำให้คนเนี่ยมองเห็นอย่างเช่น ที่เมืองนอกก็จะรณรงค์กันเรื่องผิวสีอย่างนี้
แต่งนิยายเกี่ยวกับทาส ทำให้คนเห็นความโหดร้ายของพวกที่ไปเอาคนผิวดำมาเป็นทาสอะไรแบบนี้
แล้วก็ปลุกจิตสำนึกของคนอ่านได้มากมายทั่วโลกให้มองเห็นเรื่องความเหลื่อมล้ำต่ำสูงของวรรณะชนชั้นอะไรต่างๆที่มาจากความเหลวไหลของจิตใจมนุษย์
จนกระทั่งทำให้ผู้คนมากมาย เกิดความเหมือนกับตาสว่างตาตื่น
แล้วก็เลิกที่จะไปกดขี่ หรือว่าพยายามจะไปสร้างชนชั้นวรรณะอะไรขึ้นมา
อันนี้ก็เป็นประโยชน์ของนิยาย หรือว่าหนังฮอลลีวูดที่สร้างขึ้นมา โดยมีความตั้งใจจะเอาแก่นสารตรงนี้อยากเปลี่ยนจิตเปลี่ยนใจของคน
ทีนี้อย่างที่คุณบอกว่า อยากเขียนนิยายด้วย แล้วก็อยากบรรลุมรรคผลด้วยเนี่ยนะครับ
แล้วไม่ใช่แนวธรรมะด้วย ก็ต้องถามตัวเองนะว่า เรามีความสามารถที่จะหยิบยื่นประเด็นอันเป็นแก่นสาร
อันเป็นประโยชน์ให้กับคนอ่านได้ในแง่ไหนบ้างในแต่ละเรื่องนะครับ จับจุดให้ถูกคือ
เอาเป็นความสำคัญอันดับแรกเลยนะครับว่า เราจะให้อะไรกับคนอ่าน แล้วก็พยายามเขียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกิเลสอะไรก็แล้วแต่
ขอให้มันตะล่อมเข้าสู่เป้าหมายนั้น ขอให้พล็อตเนี่ย มันดิ่งเข้าไปหาเป้าหมายไปชนเป้าหมาย
เพื่อให้คนอ่านรู้สึกว่าถูกฉุดให้เข้าไปชนเป้าหมายตามเรานะครับ
เอาตรงนี้เนี่ยมันก็จะทำให้นิยายของเรามีความเป็นกุศลได้
คือตั้งต้นจากกุศลแล้วเสร็จแล้วมันก็จะมีอะไรที่มันแวดล้อมอยู่ด้วยอกุศลก็ตามเนี่ยนะครับ
อกุศลเหล่านั้นก็จะถูกผูกไว้ เพื่อให้ไปในทิศทางเดียวกันนะครับ
คือคลี่คลายกลายเป็นกุศลในที่สุดนะครับ
ผู้ถอดคำ แพร์รีส แพร์รีส
วันที่ไลฟ์ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ (รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน)
คำถาม อยากเป็นนักเขียนนิยายที่ไม่ใช่แนวธรรมะ แต่ก็อยากปฏิบัติธรรมให้ถึง
มรรคผลด้วย พอจะมีวิธีการที่ทำให้สองสิ่งนี้ไปด้วยกันได้ไหมครับ
เพราะรู้มาว่าการเขียนนิยายเป็นการพูดเพ้อเจ้อเป็นอกุศลกรรม
ระยะเวลาคลิป ๕.๐๘ นาที
รับชมทางยูทูป https://www.youtube.com/watch?v=P_9lFfAchWo&list=PLmDLNhxScsWM2JH_ApsRMRZgq-5thN6D3&index=5
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น