วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2563

นั่งสมาธิแล้วรู้สึกภาพในอดีตที่ทำไม่ดีผุดขึ้นมา รู้สึกอับอายและทรมานใจ คิดอยากตายวันละหลายๆรอบ ควรทำอย่างไรดี?

ดังตฤณ     :  ก็ให้มันเกิดขึ้นให้บ่อยๆน่ะดีแล้ว จะได้เป็นสนามฝึกเจริญสติ รู้เข้ามาถึงนามธรรมภายในได้อย่างชัดเจนขึ้น

จำไว้ว่า ภาวะใดเกิดขึ้นบ่อย ภาวะนั้นเอามาช่วยในการฝึกเจริญสติได้มากที่สุดนะครับ ไม่ใช่สภาวะที่นานๆเกิดที สภาวะที่นานๆเกิดทีก็อย่างเช่นว่า จะเป็นสมาธิที่มีความสว่าง มีโอภาสยิ่งใหญ่ หรือความเศร้าหมองแบบสุดหัวใจสุดขั้วเลยเนี่ยนะนานๆมันเกิดขึ้นทีเนี่ย เราไม่ได้ฝึกบ่อย

แต่อะไรแบบนี้เช่นที่คุณบอกว่า เกิดขึ้นวันละหลายรอบจนกระทั่งอยากตายวันละหลายรอบเหมือนกันเนี่ยนะครับ ตรงนี้แหละคือสนามฝึก ตรงนี้แหละคือพื้นที่ฝึกของจริงที่เราควรจะเอามาใช้นะครับ

ถ้าหากว่า เรามาฝึกดูนะครับว่า เริ่มต้นจากลมหายใจก่อน เพราะว่าลมหายใจเนี่ยมันไม่มีคุณไม่มีโทษ มันไม่มีตัวที่จะมากระตุ้นให้เกิดกุศล หรือว่าอกุศลอย่างชัดเจน มันขึ้นอยู่กับมุมมองภายในของเราตั้งไว้อย่างไร

ถ้าหากว่าหายใจยาวได้บ่อยๆเนี่ย มันก็เกิดความแช่มชื่นใชไม๊ แต่มันไม่จำเป็นที่จะต้องเกิดกุศลหรืออกุศล

ที่นี้ประเด็นคือ ถ้าหากว่า เราเกิดความชุ่มชื่นจากการรู้สึกถึงลมหายใจได้บ่อยๆ หรือมีความชินมีความชำนาญ แล้วเกิดความคิดอะไรไม่ดีขึ้นมา ณ ขณะที่กำลังหายใจได้ยาวๆนั่นแหละ คุณจะถอยกลับมาอยู่กับความสุขได้ มีฐานที่ตั้ง เสร็จแล้วสามารถที่จะพิจารณานะครับ ณ ขณะของลมหายใจที่เป็นสุขนั้นได้ว่า เออไอ้ความความคิดที่ผ่านเข้ามาเนี่ย เหมือนกับหนามแหลมที่มันมาทิ่มตำจิตใจ หรือว่ามันมาทิ่มแทงสมองให้เกิดความเจ็บแสบเนี่ย มันเป็นของเราจริงหรือเปล่า ถ้าเป็นของเราจริง เราต้องเห็นด้วยกับมัน หรือว่าเชื้อเชิญมันมา แต่ถ้ามันไม่ใช่ของเรา มันไม่ใช่ตัวเรา มันต้องมีสภาพแบบนึงนะครับ คือมาเองแบบไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามาเมื่อไหร่ แล้วก็ไปเองโดยเราไม่สามารถขับไล่มันออกจากหัวได้

ถ้าหากพิจารณาโดยธรรมะแบบนี้นะครับ แล้วดูไปเรื่อยๆ ณ ลมหายใจนี้ มันเกิดความคิดไม่ดี เกิดความคิดแย่ๆทิ่มแทงขึ้นมา เสร็จแล้วลมหายใจไหน มันถึงหายไปหายออกไปจากหัว ถ้าหากว่าเห็นอย่างชัดเจนบ่อยๆ บอกแล้วนะครับสิ่งใดเกิดขึ้นบ่อย สิ่งนั้นแหละคือสนามปฏิบัติของจริงนะครับ

ถ้าหากว่า มันเกิดขึ้นบ่อย เราก็ดูมันได้บ่อยๆว่า เออ ตอนมันมาเนี่ยเราไม่ได้เชื้อเชิญมันมา เช่นกันตอนมันไปเนี่ย เราไม่สามารถพยากรณ์ได้เลยว่า มันจะหายไป ณ นาทีนั้น ณ นาทีนี้ เราไม่สามารถบอกได้ว่า มันจะมาตอนหกโมงห้านาที แล้วก็จะออกไปตอนหกโมงเจ็ดนาที ไม่ใช่!นะครับ

แต่เราสามารถมีสติรู้ได้ว่า ณ ลมหายใจนี้มันเกิดขึ้นจริงๆ แล้วเราก็ยอมรับไป แล้วลมหายใจต่อมา หรือสองสามลมหายใจต่อมา มันหายไปเราก็เห็นว่า เออมันหายไป ไม่ต้องดีใจที่มันหายไป แล้วก็ไม่ต้องเสียใจที่มันมา แต่มีสติทุกครั้งที่มันมาและมันไป

จนกระทั่งเกิดความมั่นใจว่า เอออันนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องไปรับผิดชอบอะไรกับมัน ตัวเราไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเลย ต้วเราเนี่ยคือสติที่เฝ้าดูมันอยู่ว่า มันมาแบบไม่ได้เชื้อเชิญ แล้วก็ไปแบบขับไล่ไม่ได้ เนี่ยเท่านี้แหละ มันจะเกิดความรู้สึกขึ้นมา นะครับ! 

----------------------------------------------------------------------------------

ผู้ถอดคำ               ครอบครัวกิติวิริยกุล
วันที่ไลฟ์            ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ (รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน)
คำถาม                 นั่งสมาธิปฏิบัติธรรมแล้วรู้สึกภาพในอดีตที่ตัวเองทำไม่ดีไว้ และเรื่องน่าอาย
                        ต่างๆผุดขึ้นมาเยอะมากๆ ทั้งรู้สึกอับอายกลัวบาปและทรมานใจมากครับ
                        คิดอยากตายวันละหลาย รอบ ควรทำอย่างไรดีครับ?
ระยะเวลาคลิป     ๔.๓๐ นาที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น