ดังตฤณ : ก็ให้มันเกิดขึ้นให้บ่อยๆน่ะดีแล้ว
จะได้เป็นสนามฝึกเจริญสติ รู้เข้ามาถึงนามธรรมภายในได้อย่างชัดเจนขึ้น
จำไว้ว่า ภาวะใดเกิดขึ้นบ่อย
ภาวะนั้นเอามาช่วยในการฝึกเจริญสติได้มากที่สุดนะครับ ไม่ใช่สภาวะที่นานๆเกิดที สภาวะที่นานๆเกิดทีก็อย่างเช่นว่า
จะเป็นสมาธิที่มีความสว่าง มีโอภาสยิ่งใหญ่
หรือความเศร้าหมองแบบสุดหัวใจสุดขั้วเลยเนี่ยนะนานๆมันเกิดขึ้นทีเนี่ย
เราไม่ได้ฝึกบ่อย
แต่อะไรแบบนี้เช่นที่คุณบอกว่า เกิดขึ้นวันละหลายรอบจนกระทั่งอยากตายวันละหลายรอบเหมือนกันเนี่ยนะครับ
ตรงนี้แหละคือสนามฝึก ตรงนี้แหละคือพื้นที่ฝึกของจริงที่เราควรจะเอามาใช้นะครับ
ถ้าหากว่า เรามาฝึกดูนะครับว่า
เริ่มต้นจากลมหายใจก่อน เพราะว่าลมหายใจเนี่ยมันไม่มีคุณไม่มีโทษ
มันไม่มีตัวที่จะมากระตุ้นให้เกิดกุศล หรือว่าอกุศลอย่างชัดเจน
มันขึ้นอยู่กับมุมมองภายในของเราตั้งไว้อย่างไร
ถ้าหากว่าหายใจยาวได้บ่อยๆเนี่ย มันก็เกิดความแช่มชื่นใชไม๊
แต่มันไม่จำเป็นที่จะต้องเกิดกุศลหรืออกุศล
ที่นี้ประเด็นคือ ถ้าหากว่า เราเกิดความชุ่มชื่นจากการรู้สึกถึงลมหายใจได้บ่อยๆ
หรือมีความชินมีความชำนาญ แล้วเกิดความคิดอะไรไม่ดีขึ้นมา ณ
ขณะที่กำลังหายใจได้ยาวๆนั่นแหละ คุณจะถอยกลับมาอยู่กับความสุขได้ มีฐานที่ตั้ง
เสร็จแล้วสามารถที่จะพิจารณานะครับ ณ ขณะของลมหายใจที่เป็นสุขนั้นได้ว่า
เออไอ้ความความคิดที่ผ่านเข้ามาเนี่ย เหมือนกับหนามแหลมที่มันมาทิ่มตำจิตใจ หรือว่ามันมาทิ่มแทงสมองให้เกิดความเจ็บแสบเนี่ย
มันเป็นของเราจริงหรือเปล่า ถ้าเป็นของเราจริง เราต้องเห็นด้วยกับมัน
หรือว่าเชื้อเชิญมันมา แต่ถ้ามันไม่ใช่ของเรา มันไม่ใช่ตัวเรา
มันต้องมีสภาพแบบนึงนะครับ คือมาเองแบบไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามาเมื่อไหร่
แล้วก็ไปเองโดยเราไม่สามารถขับไล่มันออกจากหัวได้
ถ้าหากพิจารณาโดยธรรมะแบบนี้นะครับ แล้วดูไปเรื่อยๆ
ณ ลมหายใจนี้ มันเกิดความคิดไม่ดี เกิดความคิดแย่ๆทิ่มแทงขึ้นมา
เสร็จแล้วลมหายใจไหน มันถึงหายไปหายออกไปจากหัว ถ้าหากว่าเห็นอย่างชัดเจนบ่อยๆ
บอกแล้วนะครับสิ่งใดเกิดขึ้นบ่อย สิ่งนั้นแหละคือสนามปฏิบัติของจริงนะครับ
ถ้าหากว่า มันเกิดขึ้นบ่อย เราก็ดูมันได้บ่อยๆว่า
เออ ตอนมันมาเนี่ยเราไม่ได้เชื้อเชิญมันมา เช่นกันตอนมันไปเนี่ย เราไม่สามารถพยากรณ์ได้เลยว่า
มันจะหายไป ณ นาทีนั้น ณ นาทีนี้ เราไม่สามารถบอกได้ว่า มันจะมาตอนหกโมงห้านาที แล้วก็จะออกไปตอนหกโมงเจ็ดนาที
ไม่ใช่!นะครับ
แต่เราสามารถมีสติรู้ได้ว่า ณ
ลมหายใจนี้มันเกิดขึ้นจริงๆ แล้วเราก็ยอมรับไป แล้วลมหายใจต่อมา หรือสองสามลมหายใจต่อมา
มันหายไปเราก็เห็นว่า เออมันหายไป ไม่ต้องดีใจที่มันหายไป
แล้วก็ไม่ต้องเสียใจที่มันมา แต่มีสติทุกครั้งที่มันมาและมันไป
จนกระทั่งเกิดความมั่นใจว่า
เอออันนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องไปรับผิดชอบอะไรกับมัน
ตัวเราไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเลย ต้วเราเนี่ยคือสติที่เฝ้าดูมันอยู่ว่า
มันมาแบบไม่ได้เชื้อเชิญ แล้วก็ไปแบบขับไล่ไม่ได้ เนี่ยเท่านี้แหละ มันจะเกิดความรู้สึกขึ้นมา นะครับ!
----------------------------------------------------------------------------------
ผู้ถอดคำ ครอบครัวกิติวิริยกุล
วันที่ไลฟ์ ๒๑ ธันวาคม
๒๕๖๒ (รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน)
คำถาม นั่งสมาธิปฏิบัติธรรมแล้วรู้สึกภาพในอดีตที่ตัวเองทำไม่ดีไว้
และเรื่องน่าอาย
ต่างๆผุดขึ้นมาเยอะมากๆ
ทั้งรู้สึกอับอายกลัวบาปและทรมานใจมากครับ
คิดอยากตายวันละหลาย รอบ
ควรทำอย่างไรดีครับ?
ระยะเวลาคลิป ๔.๓๐ นาที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น