วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

อยากให้อาจารย์พูดเรื่องกรรมของการบูลลี่กันในโลกโซเชียล และวิธีรับมือกับอารมณ์โกรธเวลาเห็นคนอื่นถูกด่า


ดังตฤณ :  คุณสามารถอนุมานเอาเองได้ว่า กรรมหนึ่งๆที่ทำกับคนอื่น มันจะมีผลอย่างไรให้ผลอย่างไรเนี่ยนะครับ ดูปฏิกิริยาทางใจของผู้ที่โดนกระทำ

อย่างในกรณีนี้นะครับ "บูลลี่" หรือว่าการรังแกกัน หรือว่าการด่าทอ เพื่อที่จะให้อีกฝ่ายเจ็บช้ำน้ำใจ หรือเกิดความรู้สึกเหมือนกับโลกมันแย่ โลกมันเต็มไปด้วยคนที่หยาบคายหยาบกระด้างไม่ใช่โลกที่น่าอยู่

อย่างหลายคนก็เป็นข่าวนะครับว่า โดนบูลลี่ไปฆ่าตัวตายเลย สมัยนี้มีตั้งแต่เด็กที่อายุยังน้อยๆ ไปจนกระทั่งถึงผู้ใหญ่ บางคนมีชื่อเสียง อย่างที่ผมยกตัวอย่างบ่อยๆเนี่ย ชอบเอามายกตัวอย่างมากเลยนะ คือเศรษฐีคนนึงที่มีชื่อเสียงมากๆว่าเป็นพ่อมดทางการเงิน แล้วก็ลงทุนอะไรไม่เคยผิดพลาดตั้งแต่หนุ่มมาจนแก่ คือมีอัตตาที่เหมือนกับพระเจ้าหรือว่าเป็นพ่อมดในวงการเนี่ยนะครับ

มาวันนึงแกลงทุนผิด เสร็จแล้วก็โดนบูลลี่โดยนักหนังสือพิมพ์ แต่ยังรวยอยู่นะ มีทุกสิ่งทุกอย่าง มีบ้านมีรถไม่ได้ถูกยึด แค่ลงทุนผิด ตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่ เสียเม็ดเงินไปเป็นจำนวนมหาศาล แล้วโดนนักข่าวบูลลี่ แกทำยังไงรู้มั้ย โดดให้รถไฟชนตายเลย ลองไปหาข่าวดูนะครับ บิลเลียนแนร์ ผมว่าน่าจะบิลเลียนแนร์ ไม่ใช่แค่บิลเลียนแนร์ ฆ่าตัวตาย คอมมิต ซูอิไซด(commit suicide) โดยการกระโดดให้รถไฟชนตาย มีอยู่คนเดียวแหละในโลกนี้มีอยู่จริงๆ

พูดง่ายๆนะ บางทีเนี่ย ไอ้คนตั้งใจที่จะบูลลี่เนี่ย ไม่ได้ตั้งใจขนาดให้ฆ่าตัวตาย แต่เหมือนกับล้อเลียนแล้วก็ไปจี้จุด ทำให้เขาเกิดความเจ็บช้ำน้ำใจ แล้วความเจ็บช้ำน้ำใจของคนเนี่ย เราไปประมาณกันไม่ได้หรอก ไปคาดหมาย หรือว่าไปคาดเดากันไม่ถูกหรอกว่า จะมีผลบีบคั้นให้เขาทำอะไรได้บ้าง ทำร้ายตัวเอง ทำร้ายคนอื่น ทำร้ายโลก หรือว่าทำอะไรที่มันเป็นเรื่องน่าสลดใจ หรือว่าเป็นโศกนาฏกรรม

ทีนี้มันขึ้นอยู่กับขอบเขตการรับรู้ของคนบูลลี่เองว่า ตัวเองเนี่ยตั้งใจมาจะจี้ไชหัวใจเค้าให้มันแบบขาดกระจุยไปเลย หรือว่าเอาแค่แบบยั้งๆ แค่ล้อเลียนเล่นๆ อย่างกรณีที่ผมยกตัวอย่างมาเนี่ยนะ จะได้เกิดการเห็นภาพ ตัวเศรษฐีเองเนี่ย แกเป็นพวกที่มีอีโก้จัดมากๆ เกิดมาไม่เคยพลาด แล้วพอพลาดเอาตอนแก่ แล้วถูกเรียกว่า เหมือนเป็นพ่อมดมนต์เสื่อม หรือว่าตาแก่ที่เลอะเทอะเลอะเลือนอะไรทำนองนี้ ผมจำรายละเอียดไม่ได้นะ

ประเด็นคือว่า แกเจ็บใจจนถึงขนาดยอมอยู่ต่อในโลกไม่ไหวทนไม่ไหว ต้องฆ่าตัวตายด้วยวิธีที่มันแบบละบือลือเลื่องเลยนะครับ แต่ตัวนักข่าวเอง จริงๆผมว่าไม่ได้ตั้งใจขนาดนั้น คือไม่ได้ตั้งใจให้แกไปฆ่าตัวตายด้วยการโดยให้รถไฟชน กระโดดจากชานชลาให้รถไฟชน คือเหมือนกับแบบว่าใช้สำนวนนักข่าว แบบมีการจิกกัด มีการอะไรที่ทำให้คนอ่านได้เกิดความตื่นเต้น ได้เกิดความรู้สึกว่า เนื้อหาข่าวของตัวเองเนี่ยมันน่าสนใจ

ฉะนั้นตัวกรรมของนักข่าวคนนี้ ก็ไม่ถึงขนาดที่จะไปรับผลนะว่าต้องโดนบูลลี่จนนึกอยากจะฆ่าตัวตายบ้าง เพราะว่าตัวเจตนาเองมันไม่ถึงขั้นนั้น แต่เนื่องจากมีนักข่าวหลายคนรุมล้อเลียน แล้วก็ล้อเลียนกันไปต่างๆนานา แล้วทำให้ตัวเศรษฐีเองทนไม่ได้

ยกเว้นแต่ว่านักข่าวสักคนนึง จะรู้เลยว่าคำพูดของตัวเองเนี่ย มีอิทธิพลขนาดทำให้คนนึกอยากฆ่าตัวตายได้ ไอ้เนี่ยที่จะได้ไปรับผล จะโดนบูลลี่ขนาดที่มันเสร็จแหงๆเลย

อย่างเศรษฐีที่ฆ่าตัวตาย ก็ต้องไปเคยบูลลี่ใครเขามา แล้วบูลลี่ขนาดที่ทำเขา ไม่สามารถจะทนอยู่สู้หน้ากับโลกต่อไปได้ต้องฆ่าตัวตาย บีบคั้นให้เขาอยากฆ่าตัวตาย เนี่ยเวลาที่กรรมเผล็ดผลมันก็ออกมาในแนวที่ว่า ช่วงต้นๆชีวิตถึงท้ายๆชีวิตได้รับผลดีก่อน อาจจะเคยทำบุญ อาจมีสติปัญญาในชาติปัจจุบัน ขวนขวายแล้วก็ได้เป็นเศรษฐี มาหักมุมโดยการที่เจอเรื่องความผิดพลาดของตัวเอง ที่ตัวเองทนรับไม่ได้อยู่แล้ว มาเจอล้อเลียนเข้าไปอีก ก็เลยบีบให้ฆ่าตัวตาย เนี่ยตัวนี้เวลากรรมมันให้ผล ให้ผลแบบมีคิวกรรม มีคิวในการให้ผล แล้วก็มีความสมเหตุสมผลในระดับของความเจ็บช้ำน้ำใจ

อันนี้ตอบไปอีกทีนึงสำหรับโจทย์ข้อนี้นะครับว่า จะได้รับผลอย่างไรเนี่ย คุณต้องดูตัวเจตนาว่าเขาบูลลี่เนี่ย ตั้งใจให้เกิดความเจ็บช้ำน้ำใจแค่ไหน ให้เกิดความอับอายแค่ไหน แล้วก็ผลสำเร็จออกมา มันได้ผู้ถูกกระทำได้รับความอับอาย ความเสียอกเสียใจจริงๆแค่ไหน ซึ่งมันเป็นคนละส่วนกันนะ

ส่วนของความเสียใจของผู้ถูกกระทำจริงๆเนี่ย ไม่จำเป็นต้องเป็นที่รับรู้ เหมือนกับที่นักข่าวเนี่ย ก็ไม่รู้หรอกว่าตัวเองจะทำให้เศรษฐีชราได้เกิดความเสียอกเสียใจขนาดอยากฆ่าตัวตายหรือเปล่า อันนั้นไม่อยู่ในส่วนของการรับรู้

แต่ว่าผลที่ตัวเองได้ทำให้มันเกิดขึ้นจริงๆนั่นน่ะ มันก็บวกเข้ามาด้วย นี่กรรมมันน่ากลัวตรงนี้นะ บางทีเราไม่รู้นะว่า ผลลัพธ์มันจะหนักหนาสาหัสขนาดไหน แต่ว่าถ้าผลนั้นเกิดขึ้นเนี่ย มันบวกเข้ามาด้วยนะ มันกลายมาเป็นส่วนหนึ่งด้วย

คือผมยกตัวอย่างนะครับ อย่างคนบางทีเห็นเงาในช่วงกลางคืน นึกว่าเป็นงู เสร็จแล้วก็เอาไม้มาตี ตีด้วยเจตนาให้มันตาย แต่เนื่องจากว่างูมันไม่มีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอันนั้นไม่จัดเป็นปาณาติบาต ทั้งๆที่เจตนาฆ่า แล้วก็แรงที่โหมตีเข้าไปเนี่ย มีสิทธิ์ทำให้งูจริงๆตายได้ อันนี้พูดง่ายๆเลยพอมันไม่มีชีวิตงูมาตั้งแต่แรก ต่อให้มีเจตนาทำ มันก็ไม่ครบวงจร ไม่เป็นปาณาติบาตครบวงจร

แต่ตรงกันข้าม เราเห็นงู เป็นงูเขียว แล้วเป็นเด็กที่เกลียดกลัวงู ก็เอาไม้ตีกะจะไล่มัน แต่ว่างูดันตาย ตอนแรกไม่ได้เจตนาให้มันตาย แต่ว่าแรงเกินนะ อาจจะเป็นแรงเด็กผู้ชายตีเปรี้ยงเดียวมันตายเลย อย่างนี้ก็กลายเป็นกตัตตากรรม คือกรรมที่ทำให้มันตกตาย ทั้งๆที่ไม่ได้ตั้งใจฆ่า คือยังไงก็เป็นปาณาติบาตที่เป็นกตัตตากรรมอยู่ดี คือไม่ได้เป็นปาณาติบาตครบวงจร เพราะไม่ได้เจตนาฆ่า แต่ว่าสิ่งมีชีวิตก็ตกตายไปสำเร็จ ฉะนั้นเวลาได้รับผลเนี่ย จะได้รับผลประมาณว่า เขาไม่ได้ตั้งใจฆ่า แต่มีสถานะการณ์ทำให้ตาย ทำให้ต้องตาย หรือว่าอย่างน้อยเนี่ยเจ็บสาหัส

บางทีเวลาที่เราทำให้สัตว์สิ่งมีชีวิตตกร่วงไปเนี่ยนะ โดยที่ไม่ตั้งใจเนี่ย ผลมักจะไม่ทำให้ถึงตาย แต่อย่างน้อยก็ทำให้เจ็บ หรือว่ามีเหตุอะไรสักอย่างมาเลียนแบบให้ใกล้เคียงกัน อยู่ในสภาพที่ร่อแร่ หรืออยู่ในสภาพที่เหมือนกับมันเจ็บปวดสาหัส

อย่างกรณีที่ยกตัวอย่างเนี่ยนะ คือตั้งใจตี ตอนแรกไม่ได้กะให้มันตาย แต่ตีแรงไปหน่อย ไอ้อาการตีนั้นน่ะ มันก็คืออาการที่เจตนาทำให้มันเจ็บปวดแล้ว ทีนี้มันจะตายหรือไม่ตายเนี่ย ขึ้นอยู่กับความซวยของมันว่าจะโดนเข้าที่ไหน

เหมือนกันเวลาที่กรรมจะให้ผล มันก็ให้ผลแบบนี้แหละ คือโดนเขาเจตนามาทำให้เจ็บปวด ทีนี้เจ็บปวดปางตาย หรือว่าถึงตายเลยเนี่ย มันก็มีองค์ประกอบที่เข้ามาร่วมด้วยอีกหลายอย่างนะครับ

สรุปก็คือ การไปบูลลี่เขาเนี่ย วันนึงต้องโดยบูลลี่ แต่จะเจ็บช้ำน้ำใจแค่ไหน มันขึ้นอยู่กับว่า เรากระทำไปแรงด้วยเจตนาแบบไหนด้วย แล้วก็ผลที่เกิดขึ้นจริงๆกับจิตใจของเขาเนี่ย ดูได้เลยว่ามันมีความทุกข์สาหัสแค่ไหน

ถ้าไปแกล้งคนที่เป็นพวกอ่อนไหวนะครับ สรุปแล้วผลของบาปจะหนักกว่าแกล้งคนที่เขาจิตใจหนักแน่น เพราะว่าปฏิกิริยาที่ออกมาเป็นความเจ็บปวดเนี่ย มันไม่หนักหนาสาหัสเข้า แต่ถ้าบังเอิญซวยนะครับ ไปบูลลี่พระอริยะบุคคล หรือว่าพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แบบนี้ถึงแม้ท่านจะไม่เจ็บปวด ผลก็แรง ผลก็สาหัสนะ หนักหนาสากรรจ์นะครับ

----------------------------------------

ผู้ถอดคำ                      แพร์รีส แพร์รีส
วันที่ไลฟ์                  ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓ (รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน)
คำถาม                         อยากให้อาจารย์พูดเรื่องกรรมของการบูลลี่กันในโลกโซเชียล 
                              และวิธีรับมือกับอารมณ์โกรธเวลาเห็นคนอื่นถูกด่า                                 
ระยะเวลาคลิป           ๑๑.๕๒ นาที
รับชมทางยูทูบ               https://www.youtube.com/watch?v=UfGqjjbRQ18&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=9&t=37s


** IG **

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น