ดังตฤณ : อันนี้ก็เป็นอีกเคสนึง บอกว่าพยายามจะตัดใจ
คนเราเนี่ย ด้วยความเข้าใจผิด ด้วยความไม่รู้นะครับว่า ธรรมชาติของใจเนี่ยมันตัดกันไม่ได้
ก็จะพยายามตัดกัน นึกว่าตัดใจได้จะหายทุกข์
แท้ที่จริงแล้วเราอยู่ในโลกความจริง
อยู่กับธรรมชาติของใจที่มันไม่สามารถหักห้าม มันจะรู้สึกอะไรของมันเนี่ย
มันเป็นไปตามเหตุปัจจัย
อย่างเวลาที่ความสุขที่เคยมีมากับเขา
มันย้อนกลับมาสร้างความทรงจำ แล้วเกิดความสุขขึ้นมาอีก อยากได้ความสุขแบบนั้นอีก
อันนี้เป็นเรื่องที่เราไปสกัดกั้นไม่ได้ แต่สิ่งที่เราทำได้คือ เราสามารถสังเกต
ค่อยๆสังเกตรายละเอียดของความสุขที่มันย้อนกลับมา
บางทีมันสร้างภาพแปลกๆขึ้นมานะความสุข
อย่างสมมติว่า
เรามีเหตุการณ์ร่วมกับคนรัก เคยจับมือกันดูทิวทัศน์ที่สวยงามตอนกลางคืน
ลองเจาะลงไปในรายละเอียด ลองดูว่าที่จับมือเนี่ย เราอยู่ข้างซ้ายหรือเขาอยู่ข้างขวา
สิ่งที่เห็นตอนนั้นที่บอกว่ามันเป็นความสุข เห็นพระจันทร์แล้วมีความสุข
เห็นแม่น้ำแล้วมีความสุข หรือว่าเห็นอะไรแล้วมันเกิดความสุข เป็นภาพทั้งหมดหรือว่าเราจ้องเฉพาะจุดใดจุดหนึ่ง
มันถึงเกิดความสุขแบบนั้น หรือว่าเป็นความรู้สึกที่ได้อยู่ใกล้ๆกันกับคนที่เรารัก
หรือว่ามันเป็นทั้งหมด คือได้อยู่ใกล้กันด้วยในท่ามกลางบรรยากาศดีๆด้วย
แล้วมันถึงเกิดความรู้สึกแบบนั้น ลองเจาะรายละเอียดดู คุณจะพบว่า สิ่งที่อยู่ในความจำจริงๆมันเลอะเลือนนะครับ
แต่สิ่งที่ชัดเจนมีอยู่แค่อย่างเดียว คือความรู้สึก
ความรู้สึกนั้นตรงนั้น
ณ เหตุการณ์นั้นพอมันย้อนกลับมา มันเหมือนกับว่าราวกับว่ามันกลับมาเกิดขึ้นใหม่
สิ่งที่กลับมาเกิดขึ้นใหม่มีอยู่อย่างเดียวคือความรู้สึก ภาพรายละเอียดความทรงจำอะไรมันจางลงไปหมดแล้วนะครับ
หรือบางคนเถียงว่า
“ความจำเราดีรายละเอียดเนี่ยบอกได้ชัดยิบๆเลย”
แต่ไอ้ความจำที่เรารู้สึกว่าจำได้ละเอียดนั้นน่ะ ถ้าเจาะลงไปแล้วนะ
คุณจะพบว่ามีอะไรตกหล่นอยู่เสมอ แต่สิ่งเดียวที่มันไม่หายไป ไม่ตกหล่นไปก็คือความรู้สึก
ทีนี้ถ้าหากว่าเราจับได้ว่า
คีย์ของอาการตัดใจจากคนรักเก่าไม่ได้ ก็คือความรู้สึกนี้แหละ
เราเป็นสุขแค่ไหน เราเคยได้รู้สึกน่าประทับใจลึกซึ้งขนาดนี้ยังไง
ไอ้ตัวนี้แหละถ้าหากว่าเราสามารถอ่านออก แล้วมองมันได้ ตั้งมุมมองมันได้ถูกต้องเนี่ย
เราจะไม่เป็นคนที่มีความทุกข์กับสิ่งที่ผ่านไปแล้วล่วงไปแล้ว
อย่างพอมีความคิดถึงคนรักเก่า
ถามตัวเองว่า ความรู้สึกที่มันเป็นสุขตรงนั้นเนี่ย มันสุขในแต่ละวันเท่ากันมั้ย
อย่างบางวันเรากำลังมีความบันเทิงรื่นเริงอยู่กับคนอื่น อยู่กับเพื่อนฝูง อยู่กับญาติ
เรากำลังมีความอิ่มเต็ม มีความอิ่มใจอยู่กับอะไรเฉพาะหน้าเนี่ย
ไอ้ความรู้สึกเดิมๆที่มีกับคนรักมันเหมือนจะมาแข่งไม่ได้ มันเหมือนแพ้
มันเหมือนจะเข้ามาอยู่ในใจเราไม่ได้
แต่เมื่อไหร่เราเหงาๆ
เราเกิดความรู้สึกราวกับว่า ไม่มีใครเหลืออยู่แล้วในโลก ความสุขเก่าๆกับคนรักเนี่ย
มันจะแวะเวียนเข้ามาทันที แล้วก็มาครอบงำจิตใจเรา บอกเราว่า
ไม่มีอะไรที่ทำให้เรามีความสุขได้เท่ากับตอนที่อยู่กับคนรักเก่า มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามเหตุปัจจัย
แล้วเราก็มักจะเลือกเชื่อความรู้สึกตอนที่เราเหงา ตอนที่เราโดดเดี่ยวอยู่
ตอนที่เราไม่มีอะไรจะทำอยู่ ตอนที่เราไม่มีความสุขอย่างอื่นอยู่ในใจ
เราเชื่อแล้วก็ยึดไอ้ความสุขแบบนั้น แล้วก็เก็บมาคิดซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า
อยากจะกลับไปมีความรู้สึกหรือประสบการณ์แบบเดิมอีก
พอเราได้เห็นนะครับว่า
ไอ้ความรู้สึกเนี่ยมันเล่นตลกกับเรา มันครอบงำจิตใจเราได้อย่างไร
เราจะเริ่มเขยิบยกระดับขึ้นมาสู้มันได้ คือสู้กับมันเนี่ย สู้ด้วยความเข้าใจ สู้ด้วยความเห็น
อย่างสู้ด้วยอาการพยายามตัด อย่าสู้ด้วยอาการพยายามเอาชนะเอาดื้อๆแบบหักด้ามพร้าด้วยเข่า
เพราะว่าการพยายามหักด้ามพร้าด้วยเข่าเนี่ย มันเป็นการพยายามที่สูญเปล่า
แต่ใช้ความเข้าใจว่า แม้ความรู้สึกที่เรายึดมากที่สุด หวงไว้มากที่สุด
แล้วก็เป็นเหตุให้เราอยากจะเอาคนรักเก่ากลับมาเนี่ย แต่ละวันมันไม่เท่าเดิม
มันมีเหตุปัจจัยของมัน เนี่ยตรงนี้เนี่ยความเข้าใจตรงนี้นะครับ
จะทำให้เราเห็นค่าของความรู้สึกเนี่ยน้อยลงเรื่อยๆ
ลดความยึดมั่นถือมั่นกับความรู้สึกแบบเอาเป็นเอาตายน้อยลงเรื่อยๆนะครับ
---------------------------------------------
ผู้ถอดคำ แพร์รีส แพร์รีส
วันที่ไลฟ์ ๖
พฤศจิกายน ๒๕๕๙ (รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน)
คำถาม เลิกกับแฟนแต่พยายามจะลืม
แต่ความรู้สึกเดิมๆมันวนกลับมา
แล้วก็อึดอัดใจมากจะทำอย่างไร
จะฝึกคิดอย่างไร?
ระยะเวลาคลิป ๗.๑๓ นาที
รับชมทางยูทูบ https://www.youtube.com/watch?v=ojigB0XOQeU
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น