วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ความเชื่อของชาวบ้านที่ว่า เมื่อลูกได้บวชแล้วบิดามารดาจะได้เกาะผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์จริงไหม?


ดังตฤณ :  มันขึ้นอยู่กับคนนะครับ อย่างพ่อแม่บางคนเนี่ยก็ขัดขวางลูก แล้วก็บั่นทอนกำลังใจลูก คือบางคนก็น่าเห็นใจนะมันยังมาไม่ถึงความเชื่อ มันยังมาไม่ถึงความศรัทธา ก็ประเภทที่ห้ามเขาไว้ไม่ให้ไปบวช ทั้งที่อยากจะบวช ก็อาจจะบาปหนักหน่อย คือบางทีถ้าเราเป็นลูก ก็ต้องเห็นแก่พ่อแม่นะครับ คือรอให้พ่อแม่เป็นสัมมาทิฏฐินิดนึง พิสูจน์ตัวเองว่าเรามาทางนี้แล้วเราเป็นคนที่ดีขึ้น

หรือถ้าเขาไม่สนใจความดี เขาอยากจะเอาความรวย อยากจะให้ลูกอยู่ ผมยกตัวอย่างพระมหากัสสปะกับภรรยาของท่าน ท่านรู้ว่าพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายไม่เอาทางปฏิบัติ ไม่เอาทางศรัทธาในพุทธ ท่านก็พร้อมใจกันรอให้พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายล้มหายตายจากไปก่อน แล้วท่านทั้งสองถึงได้ถือบวช แล้วสองท่านคือพระมหากัสสปะกับภรรยาของท่านเนี่ยนะ เป็นคู่แท้กันมาหลายภพหลายชาติ แล้วก็อธิษฐานกันมาว่า ขอให้เกื้อกูลกันบนเส้นทางไปสู่พระนิพพาน ขอให้ถึงพระนิพพานไปในชาติสุดท้ายชาติเดียวกัน

แล้วก็ผลที่อธิษฐานมาตลอด แล้วก็ได้เป็นคู่แท้กันมาตลอด มาพบกันอีกเนี่ยนะพ่อแม่จับให้แต่งงานกันเลย ไม่ต้องหาคู่ แล้วพอท่านอยู่ด้วยกัน ต่างฝ่ายต่างไม่รู้สึกยินดีในการครองเรือน เหมือนกับอยู่ด้วยกันก็ไม่มีลูก ไม่ได้มีอะไรกัน พอพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายได้ตายไปแล้ว ก็เลยต่างฝ่ายต่างแยกกันไปคนละทิศเลยนะ พระมหากัสสปะไปทางเหนือ ภรรยาของท่านไปทางใต้ แล้วต่างฝ่ายต่างก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ด้วยกันทั้งคู่นะครับ

อันนี้คือพ่อแม่ ก็แล้วแต่ คือไม่ได้แนะนำว่าต้องรอให้ตายเสมอไป เพราะสิทธิในการบวชเป็นของเรา แต่ว่าทำอย่างไรไม่ให้พ่อแม่ต้องเป็นบาปหนักในการที่จะมาขัดขวางลูก

แต่ถ้าพ่อแม่มีใจยินดี แล้วก็สนับสนุนทุกทางนะครับ หรือว่าออกทุนให้ หรือแม้กระทั้งกลั้นน้ำตานะว่า เออลูกเราเนี่ยใจจริงๆอยากให้อยู่กับเรา แต่ว่าเห็นดีเห็นงามว่า ถ้าได้บวชก็ได้เป็นประโยชน์สูงสุดในชีวิตมนุษย์เนี่ยนะ อย่างนี้ก็เท่ากับได้เกาะผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์

คำว่า “เกาะผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์” ก็คือ มีใจอนุโมทนา มีใจยินดีแล้วก็ส่งเสริมสนับสนุน แล้วก็ช่วยให้การบวชของลูกเนี่ย ประสบความสำเร็จในขั้นของการเลือกวัด ในขั้นของการพาลูกไปส่งเข้าโบสถ์อะไรต่างๆ ตรงนี้จิตมันเป็นมหากุศล จิตมันยินดีในการทำพระนิพพานให้แจ้ง โอกาสที่บุญนี้จะเผล็ดผลในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิตมันสูงมากนะ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากว่า ลูกบวชตลอดนะครับ ได้เห็นว่าลูกอยู่ในเพศบรรพชิตอย่างอยู่รอดปลอดภัย ไม่มีข่าวคาว ไม่มีการโกงกินอะไรจากชาวบ้านอะไรต่างๆนะครับ คือเราจะมองได้เลยว่า วาระสุดท้ายถ้าพ่อแม่คิดถึงตอนนี้ลูกเป็นไง อ่อลูกเป็นพระอยู่ แค่นี้เนี่ยนะสวรรค์แล้ว สวรรค์ทั้งเป็นแล้ว ก่อนตายเนี่ยมันมีความรู้สึกเลยว่า เออลูกของเราคือความสำเร็จในชีวิตของเราชิ้นหนึ่ง เราทำให้คนๆหนึ่งเกิดมาเป็นพระ เกิดมาเป็นพระดี แล้วแค่นึกถึงผ้าเหลืองของลูกตอนใกล้จะตายเนี่ยนะครับ จิตมันสว่างแบบ .. รับรองสว่างโพลงเลยนะครับ สว่างแบบสว่างโร่ สว่างแบบโลกเปิด แล้วตรงนั้นโอกาสที่จะขึ้นสูงเนี่ย เกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์เลย โอกาสที่บาปอื่นจะมาเบียดเบียน หรือมาเบียดบังภาพของลูกชายที่ได้บวชเนี่ย มันน้อยมาก ยกเว้นแต่จะเป็นคนที่ทำบาปทำกรรมมาหนักๆ หนักขนาดที่มันไม่สามารถเอาชนะภาพลูกอยู่ในผ้าเหลืองได้

แต่ส่วนใหญ่ คนเวลานึกถึงผ้าเหลืองก่อนตาย โอกาสที่จะเป็นมหากุศลจิตมันสูงอยู่แล้ว ทีนี้ยิ่งถ้านึกว่า นั่นคือลูกชายของเรา แล้วก็ยังบวชอยู่ดีปฏิบัติประพฤติเป็นพระที่ดี มีปฏิปทาที่สะอาดบริสุทธิ์เนี่ย นั่นยิ่งคูณเข้าไปสิบเท่าร้อยเท่านะครับ

----------------------------------------------

ผู้ถอดคำ                      แพร์รีส แพร์รีส
วันที่ไลฟ์                  ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓ (รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน)
คำถาม                         ความเชื่อของชาวบ้านที่ว่า เมื่อลูกได้บวชแล้วบิดามารดาจะได้เกาะ
                              ผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์จริงไหม?
ระยะเวลาคลิป           ๖.๐๕ นาที
รับชมทางยูทูบ                https://www.youtube.com/watch?v=FiYDpW419t0&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=5&t=0s

** IG **

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น