วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

คนรอบข้างชอบคิดลบ และชอบวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นในทางไม่ดี แต่เราฟังแล้วรู้สึกไม่ชอบ และ ไม่อยากมีส่วนร่วมกับความคิดลบๆแบบนั้น ถ้าเราจะยังใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเขา เราสามารถมีวิธีจัดการกับตัวเราอย่างไรดีคะ?


ดังตฤณ :  เรื่องของการใกล้กับบุคคลที่มีความคิดเป็นลบ มีวิธีเดียวนะครับที่เราจะอยู่รอดปลอดภัย คือทำให้เขามีกำลังน้อยกว่าเราที่คิดเป็นตรงกันข้ามเขา

ถ้าเราอยู่ใต้เขา คือเป็นฝ่ายรับฟัง แล้วก็ต้องคล้อยตาม หรือถ้าเงียบ แล้วเขาก็รุกหนักเพื่อให้เราจิตตกตามเขา อันนี้เรียกว่าอยู่ใต้เขา

แต่ถ้าหากว่า เราจะอยู่เหนือเขา ไม่ใช่ด้วยการมาเกร็งกำลังภายในกัน สู้กันด้วยการใช้อำนาจการใช้วิธีข่ม แต่ต้องใช้ความคิดฝ่ายดี ความคิดในทางดีของเราค่อยๆเคลียร์ค่อยๆชะล้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่ด้วยกันทุกวันเนี่ยนะมันมีโอกาส

ก่อนอื่นตั้งจิตของเราให้เหมือนน้ำดี น้ำใส คิดว่าน้ำใสหน้าตาเป็นยังไง น้ำใส คือจิตไม่มีความคิดขุ่นมัว ไม่มีลักษณะของบาปเจือปนอยู่ อันนี้น้ำใส

แล้วเขาคือน้ำเสีย จิตของเขาเวลาที่คิดพูดถึงอะไรไม่ดี หรือมีคำหยาบคาย คำอะไรที่มันร้ายๆเนี่ยนะครับ เรามองตรงนั้นเป็นน้ำเสีย ถ้ามองได้อย่างนี้ก่อน เราจะเห็นเลยนะว่า พอคุยกัน พอต้องโต้ตอบกัน น้ำเสียของเขามาทำให้น้ำใสของเราสกปรก หรือว่าน้ำใสของเรามีปริมาณมากกว่า แล้วก็สามารถชะล้างน้ำสกปรกออกจากใจเขาได้ ออกจากตัวเขาได้

เริ่มต้นขึ้นมา เอาละตั้งท่าขึ้นมามีคำหยาบๆคายๆ มีคำติฉินนินทา มีคำที่มันว่าร้ายใครต่อใคร แล้วเราเนี่ยที่เป็นฝ่ายรับฟัง คิดเสียว่าเป็นฝ่ายถูกกระทำก็ได้ มันมีอาการอย่างไร มันเป็นไปได้สองสามแบบ

        ๑. คือ มีอาการคันแล้วก็อยากจะร่วมวิพากษ์วิจารณ์ 
    หรือว่าด่าทอไปกับเขาด้วย

๒. คือ มีอาการที่เหมือนกับเบื่อๆ ไม่อยากฟัง 
    ไม่อยากที่จะไปโต้ตอบ ไม่อยากที่จะไปร่วมวงร่วมอารมณ์
     อะไรกับเขาด้วย

๓. คือ มีความอยากจะเปลี่ยนเรื่อง ถ้ามีความอยากจะเปลี่ยนเรื่อง
    อันนี้มันเป็นจุดเริ่มต้นที่น้ำของเราเนี่ย จะอยู่เหนือกว่าน้ำของเราได้

ทีนี้การเปลี่ยนเรื่อง มันต้องมีความแยบคายนิดนึง ไม่ใช่อยู่ๆ ไปเปลี่ยนแบบหักมุม ในแบบที่เขากำลังเป็นรถมาเร็วๆวิ่งร้อยหกสิบ เราจะไปเบรกให้เปลี่ยนซ้ายหรือขวาทันที รถมันก็คว่ำมันไม่ได้นะ เขาไม่อยากเบรกหรอกถ้าเขาวิ่งมาร้อยหกสิบนะ เราต้องมีอะไรที่ทำให้เขาค่อยๆชะลอลง ความเร็วจากร้อยหกสิบลงมาเหลือร้อยห้าสิบ ร้อยยี่สิบ แปดสิบ อย่างนั้นเนี่ยมันถึงจะเริ่มพร้อมจะหันหัวรถไปทางขวา ทางซ้ายตามที่เราชักจูงไปได้

ง่ายๆเลยคือ ขึ้นต้นมาเนี่ย คุยกับเขาในแบบที่เขาอยากจะคุย แต่ว่าคุยในแบบที่แทรกแง่ดี มีมุมมองอะไรที่เป็นคติ มีมุมมองอะไรที่ทำให้เกิดความรู้สึกชะงักจากสภาพอันเป็นอกุศลดำมืด ตรงนี้ฟังแล้วเหมือนจะยาก

แต่ถ้าหากว่าเราค่อยๆคิดนะ เรื่องเฉพาะหน้าเนี่ย ยกตัวอย่างเช่น เขากำลังอยากจะด่าใครสักคนนึง นินทาว่าเจ้านายเขาเนี่ยมันชั่วอย่างนั้นชั่วอย่างนี้  ใช้ลูกน้องแบบไม่เห็นอกเห็นใจเลย ก็อาจจะบอกว่า เออเนี่ยเราก็เคยสำนึกเหมือนกันนะ เราก็เคยสำนึกผิด พูดถึงตัวเองนะอย่าไปพูดถึงเขานะ คือบอกว่า แต่ก่อนเนี่ย ฉันก็เคยเป็นแบบนี้เหมือนกัน เหมือนกับเห็นคนอื่นเป็นเบี้ยล่าง อยากรังแกคนอื่น .. อะไรแบบนี้

แล้วก็พูดถึงความรู้สึกผิดของเรา แล้วก็พูดถึงการกลับตัวกลับใจอะไรของเราเนี่ย ซึ่งมันเป็นไปในทางกุศล นี่เรียกว่าเป็นการเชื่อมโยง เอาอกุศลเข้ามาแล้วหักเหเบี่ยงเบนให้มันกลายเป็นกุศล ตอนที่พูดถึงความสำนึกผิด ตอนที่พูดถึงความรู้สึกว่า เออเราจะระวังไม่ไปเป็นอย่างนั้น เนี่ยเป็นกุศลแล้ว เป็นสติแล้วนะครับ

จากนั้นก็ค่อยๆหันเหทิศทาง แล้วก็เปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่นแบบแยบยล อย่างนี้ถ้าทำบ่อยๆได้ แล้วก็ประสบความสำเร็จในการที่จะหันหัวเรื่องได้เนี่ยนะครับ มันจะกลายเป็นเราเอาน้ำดีของเราฝ่ายเราเข้าไปท่วมทับน้ำเสียของเขา แล้วเราจะรู้สึกได้เลยว่าน้ำดีของเรายังอยู่ แล้วน้ำของเขาก็ใสสะอาดขึ้น คือมันจะเห็นเลยนะ สภาพจิตใจ หรือว่าความรู้สึกนึกคิดอะไรที่มันออกมาหลังจากที่เราสามารถเปลี่ยนจิตของเขาให้เป็นกุศลเนี่ย ทุกอย่างมันต่างไปตั้งแต่การสนทนาที่อยู่ระหว่างกัน เห็นหน้ากัน มันเห็นเลยว่าหน้าเขาผ่องขึ้น หรือว่าคำพูดวิธีคิด วิธีที่จะเพ่งโทษคนอื่นมันกลายเป็นอะไรที่มีความดีงามมากขึ้นนะครับ

-----------------------------------------

ผู้ถอดคำ                      แพร์รีส แพร์รีส
วันที่ไลฟ์                  ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓ (รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน)
คำถาม                         คนรอบข้างชอบคิดลบ และชอบวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นในทางไม่ดี 
                              แต่เราฟังแล้วรู้สึกไม่ชอบ และไม่อยากมีส่วนร่วมกับความคิดลบๆ
                              แบบนั้น ถ้าเราจะยังใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเขา 
                              เราสามารถมีวิธีจัดการกับตัวเราอย่างไรดีคะ?
ระยะเวลาคลิป           ๗.๐๐ นาที
รับชมทางยูทูบ                https://www.youtube.com/watch?v=Yxow86hVvBo&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=7&t=0s


** IG **

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น