ดังตฤณ : อันนี้ก็เป็นนานาจิตตังนะครับ
พูดกันเยอะมากบอกว่า สมัยนี้มรรคผลไม่มีแล้ว ใครไปคิด ใครไปหวังมันใฝ่สูงเกินไป เกินเอื้อมอะไรแบบนั้น
เอาเป็นว่าอย่างนี้แล้วกัน เพราะพระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ได้ให้พยายามคิดถึงนิพพาน
คิดถึงการบรรลุมรรคผลอยู่ทุกวันทุกเวลาในขณะที่เจริญสติปฏิบัติธรรม ตรงข้ามนะครับท่านให้รู้อยู่แค่ปัจจุบันตรงนั้น
ถ้าคุณสามารถรู้อยู่กับปัจจุบันได้
ถ้าสามารถเห็นเปรียบเทียบได้ว่า เออตอนหายใจยาวมันเป็นสุขอย่างไร แล้วหายใจสั้นลง
มันเป็นทุกข์ได้แค่ไหน
ถ้าเปรียบเทียบได้อย่างนี้
ก็ขอให้เชื่อเถิดว่า คุณมีอุปกรณ์ในการทำให้จิตเห็นความไม่เที่ยงของสภาวะทางกายใจ
แล้วใครก็ตามที่เห็นความไม่เที่ยงของสภาวะทางกายใจได้เรื่อยๆ
จนกระทั่งรู้สึกขึ้นมาเป็นจริงเป็นจังว่า กายนี้ใจนี้ มันเป็นแค่สภาวะชั่วคราว
เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัยชั่วขณะ แล้วมันก็หายไปเป็นขณะๆ
อย่างนี้นะครับมีสิทธิ์หลุดพ้นแล้วล่ะชัวร์ๆ
ไม่ว่าจะเกิดชาติไหนภพไหน
ถ้าหากว่ามีความสามารถจะรู้ถึงความไม่เที่ยงของสภาวะทางกายใจได้นะครับ
มันไม่ใช่การหวังสูงเกินเอื้อมนะครับ ตรงกันข้ามเป็นการหวังได้หวังดีมีสิทธิ์เต็มที่ที่จะได้หลุดพ้นกัน
เพราะว่าพระพุทธเจ้าท่านเป็นผู้ยืนยันเอง
พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้เลยนะครับว่า
ใครก็ตามที่สามารถเห็นกายใจนี้ โดยความเป็นธาตุ ๔ ขันธ์ ๕ อายตนะ ๖ ชาตินี้ไม่มีวันตายก่อนได้โสดา
ท่านตรัสไว้อย่างนี้ ลองไปดูในพระไตรปิฎกนะครับ มีการตรัสยืนยันไว้
--------------------------------------------
ผู้ถอดคำ แพร์รีส แพร์รีส
วันที่ไลฟ์ ๓๐
พฤษภาคม ๒๕๖๓ (รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน)
คำถาม มีคนบอกว่าอย่าไปคิดว่าจะหลุดพ้น
พระพุทธเจ้าท่านสร้างบารมี
มาแล้วกี่กัป กี่อสงไขย รู้สึกงง เพราะเห็นเป็นคนทำบุญช่วยสืบทอด
พระพุทธศาสนาอยู่เหมือนกัน
หรือเราจะใฝ่สูงเกินไปคะ?
ระยะเวลาคลิป ๒.๑๕ นาที
รับชมทางยูทูบ https://www.youtube.com/watch?v=oiJjVsfO0sY&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=27** IG **
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น