วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2563

เกลียดลูกคนแรก รักลูกคนที่สอง เพราะอะไร


ดังตฤณ : คำถามข้อนี้ บางทีถ้าไม่เกิดกับตัวเอง จะไม่เข้าใจนะ แล้วพอได้ยินคนอื่นพูดอะไรในสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจ บางทีก็เกิดความรู้สึก ทำไมอย่างนี้ เป็นแม่ที่ไม่ดี เป็นพ่อที่ใช้ไม่ได้ อะไรแบบนี้
คือถ้าไม่เกิดกับตัว บางทีไม่สามารถที่จะไปเข้าใจว่า ทำไมเขาถึงรู้สึกอย่างนั้นนะ

แล้วอันนี้นี่บอกเลยว่าเป็นเรื่องจริงนะครับ แล้วเกิดขึ้นกับคนไม่น้อย คนไม่กล้าพูดกัน สารภาพความจริงทางใจกันน่ะ ว่าทำไมฉันรู้สึกอย่างนี้ไม่รู้ เพราะรู้ว่าถ้าขืนพูด หรือเปิดเผยหรือพูดออกไปคนก็ด่า อะไรแบบนี้

ทีนี้มันมีอย่างนี้ ยกตัวอย่างเลยนะ ที่ชัดๆ อย่างกรณีพระเจ้าอชาตศัตรู ก็มีบันทึกไว้ในพระไตรปิฎกนะครับว่า เคยเป็นศัตรูกับพ่อตัวเองมาก่อน อย่างนี้ แต่ในชาติที่เกิดเป็นพระเจ้าอชาตศัตรูนี่ คือขึ้นต้นมามีความรู้สึกดีๆ กัน เป็นลูกที่รักพ่อ และพ่อก็รักลูก แต่เป็นศัตรูในแบบที่จะต้องมาล้างผลาญกันในเวลาที่ลูกโตขึ้นแล้ว เพราะว่าพอลูกโตขึ้น ไปได้อาจารย์ไม่ดี พระเจ้าอชาตศัตรู มีพระเทวทัตเป็นคนสอน แล้วก็เสี้ยมสอนในแบบที่จะให้ช่วงชิงราชสมบัติอะไรแบบนี้

ก็เลยกลายเป็นว่า ออกแนวที่ว่าเป็นศัตรูในแบบที่ล้างผลาญชีวิตกัน ทั้งๆที่เกิดมานี่ ตอนแรกๆ ก็ยังรู้สึกดีต่อกันอยู่

ทีนี้จะมีพ่อแม่ลูก อีกบางประเภทนะครับ ที่ไม่รู้ว่าเงื่อนไขปัจจัยมาจากไหน คือดูไม่สมเหตุสมผล แต่เห็นหน้าลูกแล้วไม่ชอบ เห็นหน้าลูกแล้วรู้สึกรังเกียจ หรือว่าเกิดความรู้สึก พออกพอใจเฉพาะลูกบางคน

อย่างตัวคำถามนี่ กับอีกคนทำใจอย่างไรก็ทำไม่ได้ จะพยายามทำตัวเป็นแม่ก็แล้ว แกล้งฝืนที่จะรักก็แล้ว มันฝืนไม่ได้ มันรู้สึกไม่ดี อันนี้เป็นสัญญาณบอก เป็นเครื่องหมายบอกว่า เรากับเขามีความผูกพันที่เหนียวแน่นในเชิงลบต่อกัน ความผูกพันที่เหนียวแน่นนั้น กระชากให้มาเป็นพ่อแม่ลูกกัน แล้วก็จะต้องเกิดความรู้สึกไม่ดีแบบเกลียดขี้หน้ากัน หรือว่าอยู่ใกล้ชิดกันกับรากของความเกลียดนั้นต่อไป

ทีนี้ถ้าเรามองเข้ามา สัญญาณบอกว่าเคยมีกรรมไม่ดีต่อกันนี่ มันอยู่ตรงนี้ ความรู้สึกแย่ ความรู้สึกไม่ดี อย่าฝืนที่จะแสดงความรัก ความเอ็นดู อย่าฝืนที่จะพูดจ๊ะ จ๋า หรือว่าทำเป็นเหมือนกับเรารักเท่าเทียมกับลูกคนอื่น
แต่ให้สร้างเหตุปัจจัยที่จะทำให้รู้สึกดีกับลูกจริงๆ นะ โดยมองว่า ชาติก่อนมันล้างไม่หมดแน่ๆ ชาตินี้ต้องมาเป็นพ่อแม่ลูกกัน แล้วก็รู้สึกไม่ดีต่อกัน เราจะไม่เอาความรู้สึกนี้อีกแล้ว พยายามคิดนะ คุณในฐานะที่ให้กำเนิดลูกนี่ จะอยู่ในฐานะที่เลือกได้มากกว่าเขานะ ว่าจะให้ความสัมพันธ์ หรือว่าให้ความรู้สึก เป็นไปในทิศทางไหนต่อนะครับ

ถ้าหากว่า เราตั้งต้นคิดการบุญขึ้นมา แล้วให้เขาช่วยคิด พยายามทำให้สำเร็จร่วมกัน นี่ก็จะกลายเป็นค่อยๆ มีเชื้อของความรู้สึกเย็น เชื้อของความรู้สึกสว่าง เชื้อของความรู้สึกดีเข้ามาแทนที่ของเดิมนะครับ

ยกตัวอย่างเช่น สังเกตเขาว่าเขาเป็นคนแบบไหน ถนัดในทางบุญแบบใด ถ้าถนัดเอาแค่สวดมนต์ โอเคก็ชวนกันสวดมนต์ หรือถ้าเขาชอบให้ทาน กับคนทั่วไปนะ ก็พาไปตามสถานสงเคราะห์ต่างๆ หรือว่าถ้าเขาเข้าทางพระได้ ยังไม่ได้มีความเกลียดชัง หรือว่ามีอคติอะไรกับพระสงฆ์องค์เจ้า ก็ชวนไปทำบุญ ชวนในแบบที่ว่า เดี๋ยวเราไปทำบุญกัน ลูกคิดซิว่าเราจะเอาอะไรไปถวายดี หรือว่าไปช่วยคนนี่ คิดซิ เอาอะไรไปช่วยเขาดี ทำให้เขานี่มีชีวิตที่ดีขึ้น แล้วอย่างทำบุญอย่างอื่น ประเภทที่จะเหมือนกับสังเกตว่า เขาชอบอะไร ถนัดอะไร แล้วคุณเป็นตัวตั้งตัวตี เป็นต้นคิดที่จะให้เขาช่วยให้ความตั้งใจทำบุญของคุณ แผนการทำบุญของคุณประสบความสำเร็จ

ขอให้เกิดการทำบุญร่วมกันเถอะ คิดร่วมกัน พูดร่วมกัน แล้วทำให้สำเร็จร่วมกัน คุณจะค่อยๆ รู้สึกดี จากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสาม จากสามเป็นสี่ มากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมันสามารถล้างความรู้สึกที่ตกค้างอยู่ข้ามภพข้ามชาติ ให้หมดเกลี้ยงไปได้นะครับ

จำไว้นะ เขาจะไม่มีทางเป็นฝ่ายเริ่มต้น คุณเท่านั้นที่มีสิทธิ์เป็นฝ่ายตั้งต้นที่จะออกจากวงจรแห่งความเกลียดชัง หรือว่าแห่งความรังเกียจกันนะ!
_________

รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน ทะเลาะด่าทอพ่อแม่บาปแค่ไหน?
วันที่ 6 มิ.ย. 63
คำถามเต็ม : ทำไมหนูถึงเกลียดลูกตัวเอง คะหมายถึงลูกชายคนแรก เขาทำอะไรก็ไม่ถูกใจ ส่วนลูกคนที่2เราชมเขาน่ารักมากมาย
ถอดความ : เอ้
รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=p5MPtEO2QLA

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น