วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2563

รู้กายแต่ยังไม่เห็นกายดับ กายดับคืออะไร ดับจากจิตรู้กายเรา หรือดับจากกายเป็นของเรา ดูที่จิต หรือดูที่กาย หรือดูทั้งจิตทั้งกาย กำลังงงค่ะ และดูซ้ำไปมาจนเห็นความไม่เที่ยง


ดังตฤณ :  เอาเป็นอย่างนี้นะ คืออย่างที่ผมให้ดูในคลิปที่พระพุทธเจ้าสอนมาตามลำดับเนี่ยนะ ถ้าจะเห็นกายดับได้ มันต้องมีจิตที่เรียกว่า นิ่ง สว่าง แล้วก็เห็นกายทั้งกายเป็นวัตถุได้แล้วนะครับ มันไม่ใช่จิตนึกๆคิดๆแบบนี้นะที่จะเห็นกายเกิดดับได้นะครับ

อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสในนวสีวถิกาบรรพ เป็นวิปัสสนาขั้นสูงสุดทางกายานุปัสสนาเลยนะ ไม่ใช่สิ่งที่จะมาคิดๆนึกๆ หรือใช้สติธรรมดาแบบที่ดูลมหายใจเข้าออกได้ นะครับ

แต่ถ้าหากว่าทำมาตามลำดับ ก็จะได้เห็นความคืบหน้าไปตามลำดับ เช่น เราเห็นลมหายใจเป็นของเกิดดับได้ ไม่ใช่ตัวของเราได้ มันก็จะมาเริ่มเห็นว่า อิริยาบถอันเป็นที่ตั้งของลมหายใจเนี่ย มันก็ต้องเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เปลี่ยนอิริยาบถไปเป็นต่างๆนั้นมีแรงกดดันให้ต้องเคลื่อนไป

แล้วก็มันจะเริ่มพัฒนามาเห็นรายละเอียดแยกย่อยของอิริยาบถต่างๆ จิตมันจะเริ่มตั้งมั่นขึ้น มีสัมปชัญญะมากขึ้น ตรงนั้นเนี่ย เราจะเริ่มเห็นอวัยวะภายในได้ คือถ้ายังเข้ามาเห็นอวัยวะภายในไม่ได้ มันไม่มีทางที่จะไปเห็นกายเกิดดับได้ตามสภาพธรรมชาติของจริงนะครับ

การที่พระพุทธเจ้าสอนมาตามลำดับ ให้ดูกายโดยความเป็นธาตุ ดิน น้ำ ไฟ ลม เห็นว่าธาตุดินก็เช่น ตับ ไต ไส้ พุง กระดูก ตรงนี้ท่านไม่ได้ให้คิดเอานะครับ แต่ให้เห็นจริงๆจากสมาธิ จากจิตที่มันไต่มาตามลำดับแล้ว

แล้วจากนั้น พอมันเริ่มเห็นว่า ตับ ไต ไส้ พุง เป็นของโสโครก เป็นของไม่น่าเอา เป็นของที่ไม่ใช่สิ่งที่จิตอยากจะไปเกลือกกลั้วด้วย จิตก็จะแยกออกมาเป็นต่างหาก

ตอนที่จิตแยกออกมาเป็นต่างหาก แล้วสามารถรับรู้ได้เหมือนเดิมความจริงแบบไม่สะทกสะท้านว่า เออกายนี้เป็นของโสโครกยิ่งกว่าส้วม ตั้งแต่หัวจรดเท้าเนี่ย มันจะดีดตัวออกไม่เอานะครับ

แล้ว ณ เวลานั้นแหละ ที่ใจไม่เอาจริงๆเนี่ย ไม่เอากายจริงๆ มันจะเริ่มเห็นธรรมชาติของกายแสดง คือจิตเนี่ยมันจะใหญ่กว่ากายมาก จะสว่าง จะนิ่ง เป็นสมาธิ มีความเสถียร มีกำลังเหลือเฟือที่จะมองเห็นกายเป็นของเล็ก แล้วก็กายนั้นน่ะ มันก็จะเริ่มแสดงธรรมชาติความจริงของมันออกมาให้เห็นว่า เนี่ยที่มันตั้งอยู่เนี่ย อีกแป๊บนึงนะมันจะต้องดับไป มันจะต้องทำลายไป เนี่ยความดับที่ผมว่าเนี่ย คือความดับในนวสีวถิกาที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้นะครับ

พอดับไป เดี๋ยวมันก็กลับมาเกิดให้ดูอีก ธรรมชาติของนิมิตที่มาตามเส้นทางการเห็นความไม่เที่ยงเนี่ย อะไรดับไปแล้ว มันจะเกิดให้เห็นอีก แล้วพอเกิดให้เห็นแล้ว ก็จะดับไปอีก ตัวนี้ที่เป็นการเห็นจริงๆจากจิต ไม่ใช่ความคิดนะครับ

คือทำไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าเราหมดสิทธิ์ที่จะไปถึงความเป็นโสดา ความเป็นโสดาเนี่ย พระพุทธเจ้าตรัสว่า เอาแค่ศีลบริสุทธิ์ แล้วก็สมาธิพอประมาณ ปัญญาพอประมาณ ก็มีสิทธิ์ได้แล้วนะครับ

แต่ถ้าใครมาตามทาง ตามลำดับได้ จนกระทั่งสามารถเห็นกายเกิดดับ เนี่ยพวกนี้จะไปไว คือจะตุ๊ยๆๆไปแล้วก็จบเลยนะครับ ส่วนถ้าเอาแบบมีสมาธิพอประมาณ เห็นแบบแตะๆต้องๆเนี่ย เป็นผู้มีสิทธิ์แต่ว่าไม่ถึงที่สุด

--------------------------------------

ผู้ถอดคำ                      แพร์รีส แพร์รีส
วันที่ไลฟ์                  ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๓ (รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน)
คำถาม                         รู้กายแต่ยังไม่เห็นกายดับ กายดับคืออะไร ดับจากจิตรู้กายเรา 
                              หรือดับจากกายเป็นของเรา ดูที่จิต หรือดูที่กาย หรือดูทั้งจิตทั้งกาย 
                              กำลังงงค่ะ และดูซ้ำไปมาจนเห็นความไม่เที่ยง
ระยะเวลาคลิป           ๔.๓๕ นาที
รับชมทางยูทูบ              https://www.youtube.com/watch?v=KVcWWEAST_o&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=2

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น