วันอังคารที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2564

06 วิธีดูสังโยชน์ : แอนิเมชัน ทำสมาธิร่วมกัน ท่าที่๑ ท่าที่๒

ดังตฤณ : พอจิตเริ่มเป็นสมาธิจากการสวดมนต์แล้ว อย่าให้เสียเปล่า

ให้มองว่าเราเจริญสติ เจริญสมาธิ มาจนกระทั่ง

เกิดประสบการณ์ เห็นกายใจถึงขั้นไหนแล้ว

 

ก็ให้เอาประสบการณ์ขั้นนั้นแหละ ถวายให้กับพระศาสนา

ถวายให้เป็นเครื่องสืบธรรมะ ของพระพุทธเจ้า

 

เราจะเห็นแค่อานาปานสติ เห็นลมหายใจ

เห็นบ้าง ไม่เห็นบ้าง เห็นว่าเที่ยง หรือ เห็นว่าไม่เที่ยง

ก็เรียกว่าเป็นการเห็น อันเกิดจากการเจริญอานาปานสติ

 

อย่างนี้ เราก็ขอให้ธรรมะที่เกิดขึ้น

จงเป็นเครื่องสืบพระศาสนา

 

คือถ้าใครสามารถ เห็นกายใจโดยความเป็นขันธ์ 5 ได้บ้างแล้ว

ก็ขอให้สมาธิ ตอนที่มีสมาธิ รู้ว่ากายใจนี้เป็นขันธ์ 5

มาเป็นเครื่องตั้งจิต อธิษฐานว่า ขอให้ขันธ์ 5 นี้ ยกให้กับพระศาสนา

 

พระศาสนา ต้องการเป็นเครื่องสืบ เป็นเครื่องสานต่ออย่างไร

ก็ขอให้ขันธ์ 5 นี้จงดำเนินไปในทางที่สืบ

ในทางที่ สานต่อพระศาสนาแบบนั้น

 

เมื่อใจของเราเป็นสมาธิอยู่ ระลึกถึงพระพุทธเจ้าอยู่

แล้วถวายกาย ถวายใจนี้ โดยความเป็นเครื่องสืบธรรมะ

ธรรมะนี้จะปรากฏเป็นของง่าย

 

ดูง่าย ตั้งมั่นง่าย แล้วก็ไม่เป็นไปเพื่อที่จะตกรางวัลให้กับใคร

แต่เป็นการเอาความเข้าใจผิดว่า

กายนี้ ใจนี้ ขันธ์ 5 นี้ เป็นใคร คนใดคนหนึ่ง ออกไปจากจิต

 

ถ้าเราสามารถที่จะเข้าถึงในความปรารถนา

หรือว่าจิตที่ตั้งอธิษฐานไว้อย่างนี้แล้ว

เราก็มาเริ่มทำสมาธิกัน จะเห็นเลยนะครับว่า

สมาธิของเราก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว

เหมือนมีอะไรที่เป็นพลังบริสุทธิ์หนุนหลังอยู่

 

มาเริ่มกันนะ เช่นเคย เรานั่งคอตั้งหลังตรง

สำรวจดูฝ่าเท้ายังเกร็งอยู่ไหม

ถ้าไม่เกร็ง ถ้าวางราบกับพื้น เบาสบาย

ก็จะเกิดความว่างที่เท้าขึ้นมา

 

แล้วก็สำรวจไล่มาที่ฝ่ามือ

ถ้าฝ่ามือวางราบกับหน้าตัก สบาย ผ่อนคลาย

ก็จะว่างขึ้นมาอีก

 

ฝ่าเท้ากับฝ่ามือ นี่สำคัญ

ถ้าหากว่า มีความผ่อนคลาย มีความสบายแล้ว

เราจะรู้สึกว่า ท่านั่งคอตั้งหลังตรง

หรือว่าใครเอน 45 องศาอยู่ ด้วยคอตั้งหลังตรงก็ตาม

จะรู้สึกถึงอิริยาบถนั่งมาได้อย่างชัดเจน

 

คราวนี้ก็มาทำสมาธิ ถ้าหากว่าใครทำได้ดีแล้ว ก็ทำไป

แต่ถ้าหากว่า ยังรู้ตัวว่า รู้ลมหายใจ ตามลมหายใจไม่ได้ถนัด

ก็มาอาศัยท่าที่ 1 นะครับ

 

หายใจเข้า ยกมือ ให้ทำความรู้สึกว่า

มือนี่ช้อนลมหายใจ ดันเข้าไปจนสุด

จากนั้น ก็ลากลมหายใจออก

 

ให้เวลา 5 นาทีนะ แล้วเราจะมาต่อกัน

ด้วยความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่องการดูสังโยชน์กันนะครับ

 

(ทำสมาธิร่วมกันโดยการใช้ฝ่ามือไกด์ ท่าที่หนึ่ง 5 นาที)

 

ตอนนี้ เราน่าจะได้วิตักกะ วิจาระ มา

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับท่านที่ทำสมาธิมาเรื่อยๆ

เจริญอานาปานสติมาเรื่อยๆ

 

เป้าประสงค์ของเราจริงๆ ก็คือ

เห็นแบบง่ายๆ ย่อส่วนตัดส่วนของรายละเอียดกายอื่นๆ ทั้งหมดไป

เหลือแค่ว่า มีอาการโป่งขึ้นมา แล้วก็มีอาการยุบลงไป

 มีลมหายใจเข้า มีลมหายใจออก จากถุงลมนี้

 

เป้าหมายเราจะเอาตรงนี้

เอาความรู้สึกในใจ เอานิมิตในใจ ให้เห็นเป็นแบบนี้

 

แต่ที่จะเห็นได้คงเส้นคงวา มีความยั่งยืนก็คือ

ต้องมีปีติ ต้องมีความสุขมาหล่อเลี้ยง

ซึ่งเราก็จะอาศัยท่าที่ 2 นะครับ

 

ถ้าเป็นอย่างง่าย เราจะเอาฝ่ามือ ดันจากแนวท้องขึ้นมาถึงแนวอก

ให้ท้องป่องขึ้นนิดหนึ่ง แล้วยกแขนชูขึ้นสูงนะครับ แล้วก็ลากวางลงมา

 

ตอนชูขึ้นสูงที่สุด ก็ให้ค้างไว้นิดหนึ่ง .. สำคัญนะ

พอค้างไว้ ก็คือกักลมไว้ชั่วขณะ

แล้วพอลากลมออกนะครับ เอาฝ่ามือลงมาวางบนหน้าตัก

ก็ให้ทำความรู้สึกว่า ฝ่ามือวางบนหน้าตักอย่างสบาย อย่างผ่อนคลาย

 

ถ้าหากว่าใครทำอย่างง่ายได้ ก็อาจทำแบบที่เต็มรูป

คือพอรูดขึ้นมาให้ท้องป่อง แล้วก็วาดแขนออก

อันนี้จะทำให้ร่างกายผ่อนพักจริงๆ

แล้วก็เกิดความรู้สึกมีปีติ มีสุข

เหมือนตอนที่คุณอยากยืดอก สูดลมหายใจเข้าให้เต็มปอดนั่นแหละ

 

แล้วเวลาวาดแขน เพื่อที่จะไม่ให้เมื่อย

ก็คือวาดไปสบายๆ วาดไปโดยที่ ไม่ให้ส่วนใดส่วนหนึ่งเกร็ง

 

ห้านาทีนะครับ .. จะใช้ท่าที่สองแบบง่าย หรือแบบดั้งเดิมก็ได้

 

หรือถ้าหากว่า ใครรู้สึกว่าตัวเองเห็นร่างกาย

ปรากฏเป็นนิมิตถุงลมโป่งพอง แล้วก็ยุบแฟบเข้าไป มีลมหายใจเข้าออก

จะไม่ต้องใช้ท่าทางเลย ก็ยังได้

 

ท่าทาง เป็นไปเพื่อส่งเสริมให้จิต

ได้เห็นกายโดยความเป็นนิมิตลมหายใจเข้าออกเท่านั้นเอง

 

แล้วเดี๋ยวเราจะมาต่อยอดกันเป็นวิปัสสนานะ .. ตอนนี้ยังเป็นสมถะอยู่นะ

 

(ทำสมาธิร่วมกันโดยการใช้ฝ่ามือไกด์ ท่าที่สอง 5 นาที)

 

พอมาถึงตรงนี้ สำหรับส่วนใหญ่เลย ที่เจริญอานาปานสติมาด้วยกัน

ก็อย่างที่ท่านตอบโพลไปแล้ว

น่าจะมาถึงจุดที่จิตของคุณเริ่มเงียบลง

เริ่มเงียบเสียงจากความฟุ้งซ่านนะ

____________________

รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน วิธีดูสังโยชน์

- ช่วงแอนิเมชัน ทำสมาธิร่วมกัน ท่าที่๑+ท่าที่๒

วันที่ 2 ตุลาคม 2564

ถอดคำ : เอ้

รับชมคลิป :

https://www.youtube.com/watch?v=Otirn8Nd8-Q

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น