ดังตฤณ : ถูกแล้วนะ แล้วก็ดูต่อว่าจิตที่ว่างๆ ที่เหมือนกับไม่มีลมหายใจ เกิดอะไรต่อ เพื่อที่จะได้ดูสังโยชน์ว่าเกิดหรือไม่เกิด ในแต่ละภาวะที่จะจรเข้ามานะ
เวลาที่ใจว่างๆ เหมือนไม่มีอะไรให้ดู จริงๆ แล้ว
มีให้ดูว่าภาวะใดภาวะหนึ่งเกิดขึ้น แม้แต่ความคิด แม้แต่แอ๊ะเดียวว่า
เราจะดูต่ออย่างไร แค่นี้ เราก็สามารถเห็นปฏิกิริยาทางใจแล้ว
ว่าเข้าไปอยู่กับความคิดนั้น แล้วเกิดสังโยชน์ เกิดความร้อยรัด
เกิดความผูกยึดผูกโยงไหม
ถ้าหากว่าผูกโยง จะคิดอยู่เรื่อยๆ ว่า
จะทำอย่างไรต่อ ที่เคยว่าง จะไม่ว่างจริง
หรือแม้กระทั่งความรู้สึกว่างยังอยู่
แต่ที่มาจดจ่อว่าจะทำอย่างไรๆ นี่ ก็จะแทรกตัวอยู่โดยที่เราไม่รู้เนื้อรู้ตัว
แต่ถ้าเราเห็นว่านั่นเป็นสังขารขันธ์ชนิดหนึ่ง ไม่ใช่ตัวเราเป็นคนคิด
เป็นสังขารขันธ์มาปรุงแต่งให้ใจเกิดอาการยึด ว่ามีความเป็นตัวเป็นตน
ตัวนี้ พอเริ่มเห็น ก็จะเข้าใจแล้ว .. เออ
เมื่อกี้สังโยชน์เกิดแล้ว
สังโยชน์เกิดขึ้นบางๆ บางจนกระทั่งว่า
เราไม่สังเกต
ต่อเมื่อเราตั้งธงไว้ก่อนว่าจะสังเกต
อันนี้แหละถึงจะเริ่มเห็นเข้าไป ลึกเข้าไป ชัดเข้าไปนะ
____________________
ดูลมหายใจสักพัก แล้วรู้สึกลมหายใจหายไป
เหลือว่าง ๆ อยู่เลยกำหนดว่าลมหายใจไม่เที่ยง
แบบนี้เข้าใจถูกไหมคะหรือควรมีวิธีดูต่ออย่างไรคะ?
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน วิธีดูสังโยชน์
- ช่วงถามตอบ
วันที่ 2 ตุลาคม 2564
ถอดคำ : เอ้
รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=Ky9F4f7oQ5o
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น