วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2564

Q02ถ้ารู้ลมพร้อมอิริยาบถไม่ได้เป็นอัตโนมัติ ควรฝึกไปรู้ หรือแค่ดูลมหายใจไปก่อน

ดังตฤณ : นี่แหละคือความเข้าใจที่สำคัญมากนะ

 

อานาปานสติที่พระพุทธเจ้าสอนนี่ ผมต้องอาศัยประสบการณ์ของตัวเองเปรียบเทียบกับคนอื่นอยู่เป็น สิบๆ ปีถึงเข้าใจนะว่า ทำไมท่านถึงต้องย้ำว่าต้องอานาปานสติเท่านั้น ที่เป็นศูนย์กลางกรรมฐานทั้งปวง

 

ก็เพราะว่าถ้าคุณทำได้ถูก แล้วมีความก้าวหน้า มีพัฒนาการไปเรื่อยๆ จนกระทั่งจิตเป็นสมาธิ รู้สึกถึงลมหายใจได้ด้วยความเคยชิน

จะเข้ามาในกายนี้ได้เอง

 

กาย จะปรากฏ เป็นเครื่องรองรับ เป็นฐานที่ตั้งของลมหายใจอยู่แล้วนะครับ ถ้าหากว่าเราแค่มีสติ รู้ลมหายใจได้ จุดเริ่มต้นที่ผมย้ำว่า ก่อนที่จะรู้ลมหายใจเรานั่งคอตั้งหลังตรง จะสำคัญที่ตรงนี้

 

เพราะว่าพอนั่งคอตั้งหลังตรง จะรู้สึกถึงอิริยาบถ อันเป็นที่ตั้งของลมหายใจนี้ก่อน ไม่ใช่ว่าไปเพ่งลมหายใจก่อน

 

พอนั่งสมาธิอย่างถูกต้อง เรานั่งคอตั้งหลังตรง หรือใครจะเอน ก็เอนแบบคอตั้งหลังตรง แล้วรู้ลมหายใจไปเรื่อยๆ ในที่สุดแล้วจะกลายเป็นความเคยชินของจิต ที่จะเห็นลมหายใจควบคู่กับ ท่านั่ง ท่านอน ท่ายืน ท่าเดิน โดยที่ไม่ต้องฝืนบังคับ

 

ขอแค่คุณมีสติ ที่มีกำลังมากขึ้นเรื่อยๆ จะมีสมาธิในแบบที่จะรู้ลมอย่างเดียว

 

แล้วก็พอรู้ลมอย่างเดียวได้ จะกลายเป็นลุกลามงอกเงยมาว่า อิริยาบถปัจจุบันเป็นอย่างไรอยู่ แล้วที่เป็นอิริยาบถแบบนี้ มีความสบายทั่วเนื้อทั่วตัว หรือว่ามีความอึดอัดที่ส่วนใด

 

จะเป็นอัตโนมัติ เกือบจะอัตโนมัติทั้งหมดอยู่แล้ว แค่เราไปขยี้มัน ด้วยสติในแต่ละขณะในชีวิตประจำวัน หรือในระหว่างทำสมาธิ เดินจงกรมก็ตาม สภาวะที่กำลังปรากฏ ว่าหายใจเข้า หายใจออก ในท่าทางของกายนี้ จะปรากฏแน่ๆ ในที่สุด จะปรากฏเอง ปรากฏเป็นอัตโนมัติ ไม่ต้องฝืน

 

ก็อยากให้ฝึกอานาปานสติอย่างเข้าใจนะครับ

 

ย้ำอีกทีหนึ่ง เริ่มต้นขึ้นมา นั่งคอตั้งหลังตรง แล้วก็เห็นว่ากายนี้เป็นที่ตั้งของลมหายใจเข้าออกอยู่

 

ในที่สุดจะพามาถึงจุดที่ เห็นทั้งลมและกายควบคู่กันแน่นอนนะ

 

แล้วระหว่างวัน จะสังเกตด้วยก็ได้ อย่างเช่น คุณนั่งประชุมอยู่ คุณนั่งคุยกับคนอื่นอยู่ คุยจนเกิดสมาธิ คือตั้งใจที่จะเอาทอปปิกนั้นๆ มาเป็นวิตักกะ เป็นวิจาระ แล้วพอเป็นสมาธิถึงจุดหนึ่ง แค่เราระลึกถึงว่า ขณะนี้ เรานั่งอยู่ในท่าทางไหน หรือยืนคุยอยู่ในท่าทางไหน

 

ก็จะมีทั้งลมหายใจ ทั้งสภาวะทางกาย ปรากฏขึ้นพร้อมกันไปเอง เพราะว่าสมาธิของเราที่ฝึกมา ฝึกมาในแนวที่จะรู้ลมหายใจ ควบคู่ไปกับกายตั้งแต่แรก

 

แล้วพอมีสมาธิจากเรื่องอื่นในชีวิตประจำวันมา ก็จะกลายเป็นสมาธิ ที่กลับเข้ามาหาลมหายใจ และสภาวะทางกายเอง โดยไม่ต้องฝืนบังคับนะครับ

 

___________________

ถ้าเรายังไม่ได้รู้ลมพร้อมกับอิริยาบถได้โดยอัตโนมัติ เราควรเอามาฝึกมาทำให้เกิดอยู่เรื่อยๆหรือไม่คะ หรือจริงๆไม่ต้องไปบังคับให้มันเกิด แค่รู้ลมไปเรื่อยๆ เห็นนิมิตกายเป็นถุงลมไปเรื่อยๆ แล้วใจมันจะไปรู้เอง?

รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน พร้อมรู้ว่าไม่มีตัวตน

- ช่วงถาม ตอบ

วันที่ 16 ตุลาคม 2564

ถอดคำ : เอ้

รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=QqyxK9T3DsU

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น