วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2564

Q06รู้สึกร่างกายไม่ใช่ตัวเรา รู้สึกกลัว

ดังตฤณ : การเห็นรูป เห็นกายโดยความเป็นรูปขันธ์

เกิดความรู้สึกอย่างนี้แหละ

เสร็จแล้ว พอเกิดความกลัวขึ้นมา นั่นคือ สังขารขันธ์ เกิดขึ้นตามมา

แต่เราไม่รู้ ไม่ได้ทำความเข้าใจไว้ก่อนว่า

นี่เรียกว่า รูปขันธ์ นี่เรียกว่า สังขารขันธ์

 

แต่ต่อจากนี้ คุณรู้แล้ว

 

ตอนที่รู้สึกตัวเองอยู่ในก้อนอะไรก้อนหนึ่ง ที่หนาๆ

มีระยางค์ มีหัว มีหาง

เราไม่เคยออกแบบ เราไม่เคยสมยอมเลยว่า จะมาอยู่ในร่างแบบนี้

แต่ก็มามีร่างแบบนี้ผุดขึ้นมากักขังเรา

ราวกับว่า อยู่ๆ ตื่นขึ้นมา มีสติขึ้นมา กลางฝัน

ฝันที่ เดิมทึกทักว่ามีตัวเราเป็นนั่นเป็นนี่แน่ๆ

ตอนนี้กลายเป็นว่ามีสติว่า นี่กำลังฝัน

แล้วร่างนี้ นิมิตแบบนี้ มาจากไหนก็ไม่รู้

ตอนนี้รู้แล้วว่า เป็นนิมิตฝัน

 

รูปขันธ์นี่ เป็นนิมิตฝันชนิดหนึ่ง

แต่เป็นนิมิตฝันประเภทที่ ฝันค้าง

ค้างอยู่เรื่อยๆ ค้างคา ไม่ใช่คาใจ

ไม่ใช่ค้างแบบยังไม่ได้ตามฝัน

แต่ค้างคา อยู่ในอะไรที่เหมือนจับต้องได้

แล้วจับต้องได้ไปเรื่อยๆ

แต่ที่แท้แล้ว จะเปลี่ยนหน้าเปลี่ยนตาไป

โดยที่เราไม่ทันรู้ตัว

 

ทีนี้ พอคุณเห็นโดยความเป็นรูปขันธ์แบบนั้นแล้ว

แล้วเกิดขึ้นมาเองนะ ความกลัวนี่

ก็ให้รู้ต่อ ว่า เรากำลังรู้รูปขันธ์

แล้วสังขารขันธ์ชนิดมืด ชนิดที่เป็นอกุศล

หรือเกิดอาการกลัว ขึ้นครอบงำจิต จิตหด

 

นี่ก็เป็นกองขันธ์อีกกองหนึ่ง อีกประเภทหนึ่ง

เรียกว่าสังขารขันธ์

 

พอเห็นสังขารขันธ์ โดยความเป็นสังขารขันธ์

ไม่เห็นว่าเป็นความกลัวของเรา

จะพบว่า อาการมืด อาการบีบจิต จะเกิดขึ้นเดี๋ยวเดียว

แล้วก็สลายตัวไป กลายเป็นความรู้สึกว่างๆ ขึ้นมาแทน

 

ถ้าคุณยังมีสติเท่าทันอีกว่า สังขารขันธ์ชนิดมืดผ่านไป

คลี่คลาย กลายเป็นสังขารขันธ์ชนิดสว่าง

ชนิดที่รู้สึกใจว่างๆ สบายๆ ไม่ได้เป็นสุข ไม่ได้เป็นทุกข์

อย่างนี้ เรียกว่า เห็นความไม่เที่ยง

เห็นเหตุปัจจัยของสังขารขันธ์ เป็นปัญญาแบบพุทธ

 

แล้วยิ่งถ้าหากว่า คุณสามารถเห็นกาย โดยความเป็นรูปขันธ์

และ เห็นการปรุงแต่งทางใจ กลัว หรือว่าไม่กลัวก็ตาม

สักแต่เป็นสังขารขันธ์ ไปเรื่อยๆ

นี่นับว่าเป็นการประสบความสำเร็จ

ในการเห็นกายใจเป็นขันธ์ 5 เห็นกายใจโดยความเป็นรูปนามได้

 

ตัวนี้แหละ ที่จะทำให้เราเกิดความเข้าใจ

มีสัมมาทิฏฐิในแบบที่จะพัฒนาต่อ เห็นขันธ์ 5 ได้

ลองดูว่าจะพัฒนาต่อ เป็นการเห็นสังโยชน์ต่อได้ไหม

 

ลองดูย้อนกลับไป

ตอนที่แล้ว พูดถึงตัวที่แอดวานซ์กว่าขันธ์ 5 ขึ้นมา ก็คือเห็นสังโยชน์

และถ้าหากว่ายังไม่เคยดูตามกันมาก่อน

ก็ลองย้อนกลับไปดู ตั้งแต่ ep. แรก

ที่พูดถึงการหายใจให้เป็น

 

เพราะว่าอย่างเห็นภาวะอะไร

ที่ดูเหมือนกับเป็นประสบการณ์ที่ใหญ่ๆ ทางธรรม

ใครๆ ก็เห็นได้กันทั้งนั้น พูดกันจริงๆ นะ

 

แต่ที่จะเห็นได้เรื่อยๆ ที่จะเห็นได้

โดยที่มีพัฒนาการในทางขาขึ้นไปเรื่อยๆ นี่

ต้องมีตัวรองรับที่แรงพอ

 

ถ้าเราได้อานาปานสติ เป็นเครื่องพยุง เป็นหัวหมู่ทลวงฟัน

เป็นเครื่องชักจูงลากพา ให้เกิดความก้าวหน้า ต่อๆ ไป

แล้วก็ขึ้นสูงไปเรื่อยๆ

 

เราจะเห็นเลยว่า การมีวิธีทำสมาธิ ที่ใช่

แล้วก็ที่จะทำให้เห็นกายใจได้เรื่อยๆ นี่

สำคัญขนาดไหนนะครับ

___________________

วันหนึ่งตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในร่างหนาๆ โดยที่รู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กนิดเดียว แล้วรู้สึกว่าร่างกายทั้งตัวไม่ใช่ของตัวเอง.... หากไม่มีแขน หรือไม่มีขา ก็ไม่ใช่ของแปลก แต่รู้สึกกลัว กับความรู้สึกแบบนี้ แต่สักพัก ความรู้สึกนี้ก็หายไป รู้สึกแบบนี้ มันคืออะไรครับ?

รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน พร้อมรู้ว่าไม่มีตัวตน

- ช่วงถาม ตอบ

วันที่ 16 ตุลาคม 2564

ถอดคำ : เอ้

รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=IWFBvEWcYZQ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น