ดังตฤณ : ไม่ใช่ควรแก้ไขอย่างไรนะ แต่เป็นควรรู้ ควรทำความเข้าใจว่าจิตของเราเป็นสมาธิแล้ว
ที่เหมือนกับยังเปิดตาอยู่ เพราะจิตเริ่มไม่ปรุงแต่งจนฟุ้งซ่าน
เริ่มว่าง
แต่ถ้าเรามามีความกังวล
ความคิดก็จะกลับมาครอบงำจิตอีก ที่ถูกก็คือว่า ถ้าเปลือกตาปิด
แต่ความรู้สึกเหมือนยังตาเปิด ให้ทำความเข้าใจว่า จิตเริ่มว่างจากความฟุ้งซ่าน
และจิตที่เริ่มว่างจากความฟุ้งซ่าน
จะเปิดออกไปได้แบบสบายๆ เหมือนกับเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
คือสามารถสัมผัสพื้นที่ว่างด้านหน้าได้ อย่างนี้นะ
เราก็อาจจะลองเงี่ยหูฟังความเงียบ ทางซ้ายทางขวา คุณก็จะพบว่า
ด้วยอาการเงี่ยหูเพียงเท่านั้น พื้นที่ว่างทางด้านขวาด้านซ้าย ก็ปรากฏอีก
จะเหมือนกับเรามีดวงตาแบบที่ไม่ได้มองออกตรงๆ
อย่างเดียว แต่เป็นดวงตาที่สามารถมองไปข้างหน้า แล้วก็รับรู้ไปทางด้านข้างได้ด้วย
นี่เป็นการฝึกแผ่เมตตาชนิดหนึ่ง
ถ้าเราแค่ตั้งไว้ในใจว่า ด้วยความสามารถที่จิตแผ่ออกไป ด้านหน้า และด้านข้างได้
เราจะให้ความสุขที่ออกมาจากตัวตั้งตรงนี้ จากกลางใจนี่ แผ่ออกไปเท่าที่เราสามารถรู้สึกถึงพื้นที่ว่าง
ด้านหน้า และด้านข้างได้
เพียงเท่านั้น ก็กลายเป็นสมาธิแบบแผ่เมตตาไปแล้ว
พูดง่ายๆ ถ้ามีความเข้าใจ
เราสามารถต่อยอดจากทุกภาวะ ทุกปรากฏการณ์ทางจิต ณ ขณะนั่งสมาธิได้เสมอ
แต่ถ้าไม่เข้าใจ บางทีก็จะมีความระแวง มีความพะวง มีความรู้สึกว่า เอ๊ะ นี่ไม่ดี
นี่ไม่ใช่เกิดขึ้นมา เสร็จแล้ว ดักจิตได้ ให้ติดกับ
อย่างพอเพ่งไปในอากาศมืดๆ แล้วรู้สึกอึดอัด
ที่อึดอัดเพราะว่าเราไปจับความมืด
แต่ถ้าหากว่าเรารู้สึกว่า
สามารถมองฝ่าความมืดออกไป เป็นพื้นที่ว่างได้ แล้วใส่ใจความเบาภายใน ให้เกิดกระแสสุข
ที่แผ่ออกไปเท่ากับที่ใจสัมผัสพื้นที่รอบ พื้นที่ว่างรอบด้าน
ความมืดจะหายไป กลายเป็นความสว่างขึ้นมาแทน
แล้วพอสว่างโร่ขึ้นมา จะรู้สึกว่า แสนสุข แสนสบาย เราก็พิจารณาความแสนสุขแสนสบาย
โดยความเป็นของไม่เที่ยงในลำดับต่อไป
____________________
เมื่อหลับตาทำสมาธิ
เปลือกตาปิดแต่ความรู้สึกว่าตายังคงเปิด มองเห็นอยู่ เพ่งไปในอากาศมืดๆ
รู้สึกอึดอัด ทั้งที่ความรู้สึกจับกับลมหายใจ ควรแก้ไขอย่างไรคะ?
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน
รู้จักอนัตตาในระดับของจิต
ช่วงถาม-ตอบ
วันที่ 9 ตุลาคม 2564
ถอดคำ: เอ้
รับชมคลิป: https://www.youtube.com/watch?v=suaVDWNboYQ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น