วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ดูลมหายใจก่อนหลับ .. เหมือนการรับรู้กำลังค่อยๆหมดไป เหมือนตาย สามารถใช้โอกาสนี้ ซ้อมตายได้ไหม?

 ดังตฤณ :  คำถามคือ “ดูลมหายใจก่อนนอนหลับ แล้วเห็นลมหายใจท้ายๆก่อนจะหลับ

ระหว่างยังมีสติเหลืออยู่บางๆกับการเข้าสู่ภวังค์การหลับ” อันนี้ดีนะ เห็นแบบนี้ดี แต่พอตกใจสะดุ้งตื่นอันนี้ไม่ดีแล้ว

(ทวนคำถาม) “รู้สึกเหมือนกับการรับรู้ค่อยๆหมดไปเหมือนจะตายเลย ควรเจริญสติต่ออย่างไร สามารถใช้โอกาสนี้เป็นการซ้อมตายได้มั้ย”

มันก็ดีนะ แต่ลักษณะจิตของคุณในเวลานี้ มันยังไปจดจ่ออยู่กับว่ากลัวตาย คือถ้าไปจดจ่ออยู่ตรงนี้ แล้วยึดอาการกลัวตายไว้ในอาการหลับที่มันครึ่งหลับครึ่งตื่นยังสติไม่เต็ม มันอาจจะกลายเป็นปมให้นอนผวาได้ เพราะฉะนั้นไม่แนะนำให้ใช้ที่ตรงจุดนี้มาเจริญเป็นมรณานุสสตินะครับ

อยากให้ทำแบบนี้มากกว่า ให้พิจารณาว่า การมีสติในการย่างเข้าสู่นิทรารมณ์ หรือว่ามีสติก่อนนอนหลับ เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าสรรเสริญ ถ้ามีสติก่อนหลับขอให้เป็นสติจริงๆเถอะ มันจะทำให้ไม่ฝันร้าย ไม่ฝันลามก ไม่ฝันในแบบที่จะกระสับกระส่าย หรือว่าตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกว่านอนไม่เต็มอิ่ม

มันจะมีสติในแบบที่รวม เป็นแหล่งรวมเอาตัวกุศลธรรมที่เราสะสมมาในระหว่างวันมาทำความชุ่มชื่นให้กับการหลับ หลับอย่างมีสตินะครับ

ถ้าหลับอย่างถูกต้องจิตมันจะแผ่ออกแบบเมตตา ถ้าระหว่างวันเราไม่ผิดศีล แล้วมีแก่ใจช่วยคนโน้นคนนี้ ไม่คิดเล็กคิดน้อย มีสติก่อนหลับด้วย คุณจะพบเลยว่ามันกลายเป็นจุดรวมความสุข มันจะเป็นจุดตัดของความสุข ใจมันจะถอนจากความห่วงความพะวงเรื่องการงาน เรื่องชีวิต ไม่ว่าวันก่อนหรือวันหน้าที่จะมาถึง มันจะตัดออกหมดเลย เหลือแต่สติที่อยู่กับจิตที่มีลักษณะแผ่ผายผ่องแผ้ว

ทีนี้มาพิจารณาดู คุณบอกว่าพอจะย่างเข้าสู่นิทรารมณ์ ย่างเข้าสู่การหลับใหลเข้าจริงๆมันมีความสะดุ้ง นั่นเพราะว่าจิตยังไม่มีอาการเคยชิน ควรสร้างความเคยชินใหม่ บอกตัวเองไว้ล่วงหน้าว่า เมื่อใดที่จิตกำลังคาบลูกคาบดอก อยู่ในช่วงคาบเกี่ยวย่างเข้าสู่นิทรารมณ์ เราจะเห็นว่าจิตถึงตอนนั้นควรเป็นจิตที่ปล่อยได้วางได้ บอกตัวเองอย่างนี้ ซ้อมบอกตัวเองอย่างนี้ไว้ล่วงหน้า มันจะทำให้นิวรณ์หรือว่าความฉุกใจว่า นี่เรากำลังหลับ นี่เรากำลังจะขาดสติ มันจะได้ไม่เกิดขึ้น มันจะได้ไม่ก่อตัวขึ้นมารบกวนสติขณะกำลังย่างเข้าสู่นิทรารมณ์ เห็นมั้ยองศาของจิตในเรื่องของจิต มันเหมือนคนอยู่ในป่ารก ถ้าเราไม่รู้ช่องทาง บางทีเลี้ยวผิดแค่นิดเดียวองศาเดียว มันเตลิดเข้าป่าต่อ

แต่ถ้าหากว่าเรารู้อยู่ว่า ทิศนี้นะองศานี้นะเป๊ะๆเลยเนี่ย จะตรงดิ่งไปสู่ทุ่งโล่ง ออกจากป่ารกได้ แบบนี้มันก็จะเดินไปด้วยความมั่นใจ แล้วก็ถึงจุดนั้นเราจะรู้ว่า มันออกสู่ที่โล่งได้ วิธีนี้เป็นวิธีทำใจแบบเดียวกันกับการนั่งสมาธิการเข้าสมาธิ

บางคนจิตกำลังจะรวมอยู่ แล้วก็เกิดความหวั่นไหวขึ้นมาว่านี่เกิดอะไรขึ้น เพราะประสบการณ์ของการเข้าสมาธิ ถ้าเป็นครั้งแรกๆ มันแตกต่างจากจิตที่มันยู่ยี่คิดๆนึกๆแบบปกติอย่างนี้นะครับ มันก็เลยเกิดความกลัวว่า นี่กำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเรา

แต่ถ้าตั้งใจไว้ล่วงหน้าว่า ตอนจิตจะรวมมันจะมีอาการแปลก มันจะมีอาการเหมือนกับรวมฮวบลง ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ แล้วก็มีแต่การอยู่กับจิต มีสติอยู่กับลักษณะที่มันกำลังรวมเข้าสมาธิอยู่อย่างนั้นโดยไม่ไปทำอะไรกับมัน ไม่ไปยุ่งเกี่ยว แค่ให้ความจดจ่อ จดจ่อแบบเนียนๆนิ่งๆบางๆ ไม่ใส่แรงเข้าไป มันก็รวมเป็นสมาธิขึ้นมาได้ เหมือนกันอันนี้เนี่ย พอเรามีสติช่วงคาบลูกคาบดอกระหว่างคิดฟุ้งซ่านกับเริ่มเข้าสู่การหลับใหล ถ้าอยู่กับตรงนั้น แต่เอาความรู้สึกแตะอยู่บางๆว่า นี่กำลังจะหลับแล้วก็ปล่อยให้มันดำเนินต่อไปตามวิถี ในที่สุดสติมันก็มากกว่าความสะดุ้งผวานะครับ

และถึงจุดนั้น ถ้าหากว่าทุกคืนคุณสามารถย่างเข้าสู่นิทรารมณ์ได้ด้วยสติที่มันเนียน ที่มันนิ่ง ที่มันไปเรื่อยๆแบบสบายๆเนี่ยนะ คุณจะเห็นอาการของจิตแบบหนึ่งว่า จิตที่มันมีสติอยู่กับความรู้สึกดีๆ มันจะกว้าง มันจะแผ่ มันจะเปิดออก มันจะไม่ปิดเข้าเหมือนกับจิตคนหลับแบบไม่รู้สติทั่วไป ตรงนั้นแค่คุณอยู่กับใจว่า เราจะคิดดี ไม่ทำร้าย เราจะอยู่กับความรู้สึกอยากอนุเคราะห์สิ่งมีชีวิตเพื่อนร่วมทุกข์ ใจที่หลับไปพร้อมกับความคิดประมาณนั้น คือไม่ใช่คิดเยอะอย่างนี้นะ แต่คิดประมาณว่าเราจะคิดดี เราจะรู้สึกดี เราจะมีความอยากอนุเคราะห์ เอาแค่ความรู้สึกแค่มันอยากช่วย เหมือนอยากจะช่วยคน เหมือนอยากจะเป็นความปลอดภัยให้กับคนทั้งโลก เอาความรู้สึกนั้นความรู้สึกเดียวเป็นตัวที่ทำให้สงบหลับลงไป จิตมันจะรวมแล้วก็แผ่ออกมาเอง

ในเวลาหลับเนี่ย คุณจะรู้ด้วยประสบการณ์ตรงของคุณเองว่า มันสามารถเป็นสมาธิได้ เป็นสมาธิในแบบ .. คือมันหลับไปแล้วนะ แต่ว่าจิตเนี่ย บางทีช่วงแรกๆจะเหมือนกับแผ่ออก เราก็มีส่วนหนึ่งภาคหนึ่งที่อยู่กับความรู้สึกยิ้มๆแบบนั้น เป็นความรู้สึกที่ดีนะ มันก็จะหลับแบบในอาการแผ่เมตตา แล้วก็ไม่มีอาการฝันร้าย ไม่มีอาการลามก ไม่มีอาการที่จะมาถูกอะไรภายนอกเข้ามาครอบงำได้ จิตจะมีรัศมีที่สามารถปกป้องตัวเองได้ มันเหมือนกับมีสติ หลับอย่างมีสติ รู้ว่ากำลังหลับอยู่ แล้วก็ไม่มีภาพนิมิตเลอะเลือนเลอะเทอะขึ้นมา คือถ้าจะหลับลึกลงไป มันก็จะมีช่วงจังหวะที่หลับไปในแบบที่ ถ้าฝันก็จะเป็นฝันดี มีภาพอะไรที่ชัดเจน นี่ก็เป็นหลักการในการนอนนะครับ

----------------------------------------

๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๓

รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน ทำไงดี กลัวคิดไม่ดีก่อนตาย

คำถาม
: ดูลมหายใจก่อนนอนหลับ แล้วเห็นลมหายใจท้ายๆก่อนจะหลับ ระหว่างการมีสติและการเข้าสู่ภวังค์การหลับ ทำให้ตกใจสะดุ้งตื่น รู้สึกเหมือนการรับรู้กำลังค่อยๆหมดไป เหมือนตาย ควรเจริญต่ออย่างไร และสามารถใช้โอกาสนี้เป็นการซ้อมตายได้ไหม?

ระยะเวลาคลิป    ๘.๕๔    นาที
รับชมทางยูทูบ    https://www.youtube.com/watch?v=AgrG5EzOCMY&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=3

ผู้ถอดคำ  แพร์รีส แพร์รีส


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น