วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ตื่นเช้าสัมพันธ์อย่างไรกับการปฏิบัติธรรม และต้องตื่นตีสี่ตีห้าไหม

ถาม : (08.56) การตื่นเช้าสัมพันธ์อย่างไรกับการปฏิบัติธรรม การถือศีลภาวนา หรือเกื้อกูลอย่างไร

 

ดังตฤณ : การตื่นเช้านี่ บางคนก็หัวโล่ง บางคนก็หัวยุ่ง บางคนฝันร้ายมาก็หัวยุ่ง บางคนนอนเต็มอิ่มก็หัวโล่ง แม้แต่ตัวเราเองแต่ละวันก็ไม่เหมือนกัน

 

ทีนี้สัมพันธ์อย่างไรกับการทำบุญ

 

การเจริญสติ ถ้าหากว่า เรากำลังหัวโล่งอยู่ เราจะมีแก่ใจทำบุญมากกว่าปกติตอนหัวยุ่งนะ ทีนี้ถ้าเราทำให้มันเกิดขึ้นซ้ำๆ จนกลายเป็นความเคยชิน จนกลายเป็นอัตโนมัติ อย่างของผมนี่คือ เขียนบทความทุกเช้าจนกลายเป็นอัตโนมัติ ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะลังเลสงสัยนะว่า เอ๊ะ จะเขียนเสร็จหรือเปล่า เหมือนกับผมเองตอนที่ฝึกเขียนใหม่ๆ ก็เขียนอะไรไม่เสร็จสักอย่าง เพราะรู้สึกว่ายาก รู้สึกว่าทำอย่างไรให้ได้จุดขมวดที่ใช่ ที่ดี ที่มีเอฟเฟ็กต์ (effect) กับคนอ่านอะไรอย่างนี้

 

แต่ต่อมา เราแค่ตั้งใจง่ายๆ สบายๆ ว่า ทุกเช้าเราตื่นขึ้นมา สิ่งแรกที่เราจะทำในห้านาทีแรก สิบนาทีแรก คือคิดที่จะเขียนอะไรดีๆ ก็กลายเป็นความเคยชิน ไม่เกี่ยวกับว่าจะหัวโล่งหรือหัวยุ่ง แต่เกี่ยวกับว่า ตื่นขึ้นมามีพฤติกรรมแบบเดิมๆ ที่สร้างความเชื่อซ้ำไป ทับไปทุกวันๆ ว่าเราทำได้ ก็เขียนได้มาตลอด

 

นี่เป็นการยกตัวอย่างว่าทำบุญนี่ ไม่ใช่แค่ทำอย่างที่เราเห็น เราอาจทำบุญด้วยการคิดดี แล้วเขียนอะไรดีๆ ไปก็ได้ อันนี้แค่ตัวอย่างนะ

 

เหมือนกัน กับบุญอีกทุกชนิดที่เราคิดขึ้นมาได้ ว่าเราจะทำให้เกิดขึ้นซ้ำๆ ในเวลาแบบเดิมๆ พอเข้าเวลาเดิม มันจะปลุกโหมดทำงานของเราขึ้นมาโดยอัตโนมัติ แล้วก็อย่างถ้าสมมติว่า เราตั้งใจว่าจะตื่นมาสวดมนต์อย่างมีความสุขทุกเช้า แล้วถ้าเราทำได้ เอาวันหนึ่งสุขนิดสุขหน่อย อีกวันหนึ่ง สุขมากขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะก้าวข้ามความเชื่อ กลายเป็นความชิน แล้วก็รู้สึกว่า เกิดขึ้นเป็นปกติได้อย่างนั้นแหละ

 

ถาม : (11.50) (ต่อ) อยากทราบเรื่องเวลาว่าตื่นเช้าตีสี่ตีห้า เกื้อกูลกับการปฏิบัติธรรมมากกว่าไหม

 

ดังตฤณ : อย่างเมื่อกี้ที่ผมบอก บางคนถ้าบอกว่าตื่นตีสี่ บางทีก็หัวยุ่ง ก็ไม่พร้อม เข้าใจไหม แต่บางคนนี่ตื่นตีสี่นะ เป็นเวลาที่เหมาะที่สุดเลยเพราะว่าหัวโล่ง ใจเบา ต้องดูตัวเอง

 

แล้วถ้าเราสามารถที่จะ เมื่อกี้ที่ผมยกตัวอย่างเรื่องการเขียน ก็เพื่อตรงนี้ คือทำได้ไง แล้วก็รู้สึกว่าจะทำได้มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เกี่ยวกับตีสี่หรือตีห้า เป็นเวลาที่ตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับใคร แล้วขึ้นอยู่กับว่าทำได้ซ้ำๆ หรือเปล่า อย่างนี้เข้าใจไหม

 

คือตอนเช้า อาจเหมาะกว่าตอนกลางคืนตรงที่ว่า เรายังไม่มีขยะทางอารมณ์ ยังไม่มีอะไรสุมหัว ก็เลยดูเหมาะ แต่บางคนนี่ ตื่นเช้าขึ้นมาแล้วมีความรู้สึกไม่พร้อม เพราะเป็นคนที่มีความฝันตกค้างอยู่ในหัว ขึ้นอยู่กับคน

 

หลายๆ คนตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกเต็มอิ่ม เพราะว่านอนถูกสุขลักษณะ อากาศถ่ายเทดี แล้วก็ไม่นอนผิดท่า ก็เลยตื่นมาแล้วพร้อม ต้องดูตัวเองนะ

________________

รายการดังตฤณวิสัชนา ณ ศูนย์เรียนรู้วรการ คลิปที่ 2

วันที่ 11 ตุลาคม 2563

ถอดคำ / เรียบเรียง : เอ้

รับชมคลิปเต็ม : https://www.facebook.com/watch/?v=434789157611672

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น