วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

02 ปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน จุดชนวนสมาธิด้วยพลังศรัทธา ช่วงสวดมนต์ร่วมกัน

ดังตฤณ : ขอให้ดูความรู้สึก ณ ขณะนี้นะว่า

มือที่พนมอยู่ ประกบกันอยู่อย่างนี้นะครับ

เรามีเพื่อน ที่รับรู้ความรู้สึกที่มือประกบกัน

แบบเดียวกันนี้ อยู่ประมาณ 900 กว่า เกือบพันคน

 

ถ้าหากว่าเรารู้สึกถึงฝ่ามือ ที่ประกบอยู่นี่

และทำความรู้สึกได้ว่า มีอีกหลายๆ ความรู้สึกแบบเดียวกันอยู่

ความรู้สึกของเราที่เกิดขึ้น ณ บัดนี้ จะกว้างขึ้น

จะมีความรู้สึกถึงพลัง ที่อยู่ที่ฝ่ามือ

จะมีความรู้สึกถึงความสว่าง เป็นสุข

ของจิตที่อยู่เบื้องหลังฝ่ามือที่พนม 

 

ทีนี้ ลืมตาขึ้นดูองค์พระนะครับ



ดูบริเวณที่เราเห็นว่าเป็นจุดศูนย์กลางของภาพ

ที่มีวงกลม เป็นจุดเด่นที่เราสามารถรู้สึกได้ว่ามีรัศมีออกมา

 

รูปวงกลมนี่ แทนรัศมีของพระองค์ท่าน

ซึ่งถ้าหากว่าเรารู้สึกได้ ถึงความเป็นรัศมีของพระพุทธเจ้า

แล้วหลับตาลงอีกทีหนึ่ง

 

คราวนี้หลับตาลงนะครับ 

ถ้าคุณรู้สึกถึงรัศมีขององค์พระ ขอให้น้อมระลึก 

คิดแค่นิดเดียวนะครับว่า 

 

จิตของพระพุทธเจ้าที่แท้ คือจิตที่มีความไม่ดิ้นรน 

จิตของพระพุทธเจ้าที่แท้ คือจิตที่ไม่เอาอะไรแล้วกับโลกนี้ 

จิตของพระพุทธเจ้าที่แท้ คือจิตที่ไม่มีความกระสับกระส่าย 

ไม่มีเหตุให้ต้องดิ้นรน หรือว่าเป็นทุกข์อีกต่อไป 

 

แล้วด้วยการน้อมว่ารัศมีขององค์พระ

กับการระลึกถึงจิตของพระพุทธเจ้า 

คุณจะรู้สึกราวกับว่า จิตของตัวเองมีความไม่ดิ้นรน

มีความผ่องแผ้ว สว่างไสว มีความเบาใส ยิ่งกว่าฟองสบู่แห่งธรรม 

แล้วก็สามารถที่จะแผ่ขยายกว้างออกไป 

ได้แบบที่ ไม่มีขอบเขต ไม่มีที่สิ้นสุด 

 

เมื่อเห็นอยู่ได้อย่างนี้ เมื่อรู้สึกอยู่ได้อย่างนี้ 

คุณจะทราบว่าจิต ที่มีความรู้จักแบบอย่าง

จิตที่มีความน้อมศรัทธา ในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า 

ผู้เป็นพระอรหันต์ ผู้หมดกิเลสแล้วนี่ 

ให้ความรู้สึกราวกับว่า ได้น้อมเอาดวงแก้ววิเศษ 

 ดวงแก้วแห่งการตรัสรู้ธรรม เข้ามาประดิษฐาน 

นอบน้อมเคารพ แล้วก็บูชาเทิดไว้

ด้วยใจของเราเอง ราวกับว่า

ใจของเราเอง ได้ส่วนของความศักดิ์สิทธิ์

ได้ส่วนของความสว่าง ได้ส่วนของความไม่ดิ้นรน

ได้ส่วนของความไม่เอาอะไรแล้ว มาจากพระองค์ท่าน 

 

ด้วยจิตแบบนี้

ด้วยจิตที่มีความใส ด้วยจิตมีความเบาแบบนี้ 

เวลาที่น้อมเอาไปรู้อะไรๆ ภายในร่างกาย ก็จะง่ายไปหมด 

 

ไม่ว่าจะภาวะของคอตั้งหลังตรง 

ไม่ว่าจะภาวะของลมเข้าลมออก 

ที่ผ่านเข้าผ่านออกอยู่ในท่านั่งคอตั้งหลังตรงนี้ 

 

จะดูง่าย แล้วก็ดูเหมือนกับ ไม่ใช่สมบัติของเรา 

เหมือนกับพร้อมที่เรา จะปล่อยมันออกจากความยึดมั่นถือมั่นทางใจ 

 

ลักษณะของใจแบบนี้ ลักษณะของศรัทธาแบบนี้

น้อมศรัทธาแบบนี้แหละ ที่จะมีพลัง 

แล้วก็ทำให้สมาธิของเรา เกิดความตั้งมั่นขึ้นมาโดยง่าย

 

เดี๋ยวเราจะมาฟัง เสียงสติ ร่วมกันนะครับ แล้วลองดูนะว่า

ด้วยใจที่ตั้งไว้เบื้องต้นแบบนี้ มีความใสมีความเบาแบบนี้

ฟังเสียงสติไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น

อีกประมาณ 15 นาทีเรามาพบกัน 

 

ถ้าใครยังไม่เคยฟัง ช่วงต่อไปนี้นะครับเราต้องใช้หูฟัง เพราะเรากำลังจะอาศัยเทคโนโลยีทางเสียง มาช่วยปรุงแต่ง ให้เกิดสมาธิขึ้นง่ายๆนะครับโดยให้ไปจูนคลื่นสมอง ให้มีความสมดุล ให้มีคุณภาพดีขึ้น

 

แล้วระหว่างที่ฟังไป ไม่ต้องสนใจเสียงนะ

 

แค่รู้สึกถึงท่านั่ง คอตั้งหลังตรง ที่มีลมหายใจผ่านเข้าผ่านออก ผ่านเข้าผ่านออกอยู่ เอาลมหายใจเป็นโฟร์กราวด์ เอาเสียงเป็นแบ็กกราวด์

 

ไม่ต้องไปสนใจเสียง สนใจแค่ลมหายใจเข้าออกเท่านั้นนะครับ

 

ไม่ต้องบริกรรมอะไรด้วย เพราะว่าคำบริกรรม อาจจะขัดกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับที่คนที่ ถ้าบริกรรมแบบหนักๆในหัว จะไปขัดกัน ไปยื้อกับเสียงสตินะครับ

 

ปล่อยให้ เสียงสติ ทำงานปัดเป่าความฟุ้งซ่านให้

ส่วนตัวคุณ แค่สนใจว่ากำลังหายใจเข้าหรือหายใจออกก็พอ

 

และลมหายใจ จะยาวขึ้นๆ มีคุณภาพมากขึ้นไปเองนะครับ

______________

รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน จุดชนวนสมาธิด้วยพลังศรัทธา ช่วงสวดมนต์ร่วมกัน

วันที่ 3 กรกฎาคม 2564

ถอดคำ : เอ้

รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=F-lESHiOOw0

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น