ดังตฤณ : อย่าไปมัวแต่พะวงนะ
คือจะมีช่วงที่สมองจะยื้อกัน ระหว่างตอนแรก สมองจะอยู่ที่ส่วนหน้า
เพราะว่าเราคิดมาก คิดหนักนะครับ
แต่พอฟังเสียงสติไป
ก็จะพยายามเอาไปที่ส่วนครึ่งหลัง ทีนี้ช่วงระหว่างที่ยังยักแย่ยักยัน
ยังยื้อกันอยู่ ระหว่างส่วนหน้ากับส่วนหลัง ก็อาจเกิดอาการแบบที่คุณว่า
แต่พอยต์ก็คือ เมื่อมีความสมดุลดีแล้ว ทั้งส่วนหน้าส่วนหลัง ก็จะรู้สึกสบาย
แต่ทีนี้จริงๆ
ผมมักจะให้ดูเฉพาะตรงส่วนหลัง จะได้เข้าใจง่ายๆ นะว่ามาส่วนหลังในแบบที่ทำให้ relax
ทำให้เกิดความรู้สึกว่า เราไม่ได้คิดมากแล้ว จะไม่หนักๆ หน้าผากแล้วนะ
จริงๆ
เรื่องการทำงานของสมองนี่ซับซ้อนมากนะ แต่ว่าผมมาอธิบายง่ายๆ นะครับว่า เสียงสติ
ทำให้สมองส่วนหลังทำงานดีขึ้นนะ แล้วสมองส่วนหน้าทำงานน้อยลง
ตอนคุณเป็นสมาธินี่นะ
สมองส่วนหน้าจะทำงานเปรียบเทียบแล้วก็เหมือนกับรถยนต์ที่เดินรอบเบา คือเดินอยู่นะ
แต่เดินไปในทางที่จะพาไปในทิศทางที่เราต้องการนะครับ
แต่สมองส่วนหลัง
เปรียบเทียบก็เหมือนเราอยู่ในห้องโดยสารเย็นๆ สบายๆ
แค่รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับทิวทัศน์รอบด้านนะครับ ไม่ได้คิดมาก
ไม่ได้เดินเครื่องร้อนแรง
__________________
คำถามเต็ม : รู้ลมได้เร็วขึ้น หายใจได้ยาวขึ้น มีบางช่วงหลุดไปบ้าง อมยิ้มบางขณะ มีแสงสว่างเล็กน้อย มีพลังแผ่ออกไปเล้กน้อย ขนลุกเล็กน้อยที่แขนและศรีษะ ช่วงท้ายของเสียงสติ รู้สึกร่างกายอุ่นขึ้น มีอาการหน่วง มึน ที่ศรีษะ ไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไรค่ะ หลังจากออกจากสมาธิสักพักหัวค่อยๆโล่งขึ้น
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน
ตอน จุดชนวนสมาธิด้วยพลังศรัทธา ช่วงเกริ่นนำ
วันที่ 3 กรกฎาคม 2564
ถอดคำ : เอ้
รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=2NdndEvuT2Y
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น