หมอบี : ถ้าถามผม โดยปกติธรรมชาติแล้ว
เรื่องความฝัน ผมจะค่อนข้างให้ค่าน้อยมาก
ตามหลักการ พระพุทธองค์ ก็มีการพูดถึงเรื่องนี้เหมือนกันว่า
มูลเหตุของความฝัน จะมีสิ่งที่เป็นผลจริงๆ
น้อยมากๆ
น้อย จนถึงแทบไม่มีเลย
เลยไม่อยากไปให้ค่ากับความฝันมาก
เพราะจะยิ่งทำให้เราเป็นทุกข์โดยเปล่าประโยชน์
ฝันอาจเกิดจากหลายกรณี
เช่น เราทานอาหารมากไป จิตกำลังฟุ้งซ่าน ใดๆ
ก็ตาม
เอาง่ายๆ ว่า ความจริงที่เกิดขึ้นจากความฝันว่า
มีคุณแม่มา คุณแม่เป็นอย่างนั้นอย่างนี้
ต้องบอกได้ว่า แทบจะไม่มีความจริงอยู่เลย
เพราะฉะนั้น อยากให้ตั้งจิตไว้ให้ถูกต้อง
และต่อให้เป็นเรื่องจริง สมมติว่าเป็นเรื่องจริงที่คุณแม่มา
แล้วก็มีความทุกข์ทรมาน ไม่ดี หรืออะไรก็ตาม
การที่เราคิดว่ามีความปรารถนาที่จะช่วยคุณแม่
ยิ่งต้องทำให้เรามีกำลังพอ ถึงจะไปช่วยคุณแม่ได้
ถ้าเรายังว่ายน้ำไม่ได้เลย แล้วคุณแม่จมน้ำอยู่
เราลงไปด้วยก็จะจมทั้งคู่
ฉะนั้น เราต้องรักษากายรักษาใจเรา
ให้เป็นปกติสุข
มีปัญญา เกิดแสงสว่าง โดยการที่
เรามีบุญ มีบารมีพอที่จะแผ่เมตตา
อุทิศส่วนกุศลได้
เราถึงจะเป็นคนที่ว่ายน้ำได้ ช่วยคุณแม่ได้
ฉะนั้น ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม คือ จะไม่ใช่เรื่องจริง
เป็นอุปาทาน เป็นอะไร ซึ่งผมยืนยันแล้วกันนะครับว่า จะเป็นเรื่องนั้นเสียเกือบ 100%
อีก 10 % หรือ 5%
ที่เหลืออาจมีมูลเหตุความเป็นจริงบ้าง เรายิ่งควรต้องรักษากาย
รักษาใจเราให้มีกำลังไว้ ที่จะช่วยคุณแม่ได้ดีด้วยซ้ำ ไม่อยากให้สาระกับมันมากครับ
ดังตฤณ : ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริง หรือเรื่องไม่จริง
อย่างไรก็ไม่ควรร้องไห้
ถ้าอยากจะช่วยคุณแม่ ต้องช่วยด้วยรอยยิ้ม
แล้วก็ช่วยด้วยกำลังของจิตที่มีความผ่องใส
_____________________
ฝันถึงคุณแม่ที่จากไป 30 กว่าปี มายืนที่หน้าบ้าน เราดีใจที่เห็นท่านจึงก้มลงกราบเท้าท่าน
แต่ปรากฎว่าขาข้างหนึ่งของท่านขาดไป
ทำให้เราร้องไห้จนตื่นขึ้นมาและร้องไห้แบบเสียสติ รู้สึกเสียใจมากๆ
และในความฝันนั้นท่านบอกว่าท่านจะไปวัด เช้าวันนั้นพอตั้งสติได้
รีบไปตักบาตรอุทิศให้คุณแม่ ฝันอย่างนี้สื่อถึงอะไรคะ ทุกวันนี้ยังคาใจและสงสารคุณแม่มากๆค่ะ
ต้องทำอย่างไรคะที่จะช่วยคุณแม่ได้?
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน
ตอน รู้จักขันธ์ ๕ จากสมาธิจิต
- ช่วง คุยกับหมอบี
วันที่ ๑๗
กรกฎาคม ๒๕๖๔
ถอดคำ : เอ้
รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=hs9C3lJZPUI
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น