วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2564

07 จากสมถะสู่วิปัสสนา : กลุ่ม 3 นิ่งรู้แต่ไม่เห็นลมสว่าง และ 4 ไม่นิ่ง ฟุ้งซ่าน

 

สำหรับกลุ่มที่สาม ที่บอกว่านิ่งรู้ แต่ไม่เห็นลมสว่างเลย

 

กลุ่มนี้สติพอใช้ได้นะครับ แต่มีเหตุปัจจัยที่ทำให้มีความแปรปรวนง่าย ถ้าหากว่าจะไปลงรายละเอียด ก็เยอะเกินไป เพราะเป็นไปได้หมดแหละ

 

อย่างเช่นคุณทำมือไกด์ลมหายใจถูกต้อง แต่ใจไปจ้องอยู่กับฝ่ามือมากเกินไป ไปกังวลอยู่กับท่าทางมากเกินไป หรือบางคนไปจ้องลมหายใจมากเกินไป ก็เป็นตัวที่ทำให้รู้ แต่ไม่เห็นลมสว่างได้นะ 

 

พูดง่ายๆ ว่า ความฟุ้งซ่าน พร้อมจะเอาไปกิน ความฟุ้งซ่านเหมือนกับเป็นศัตรู คอยจ้องดักว่า คุณเผลอเมื่อไร เอาไปกินเมื่อนั้น จะรู้สึกว่ากำลังไม่ค่อยมีเท่าไหร่

 

สำหรับกลุ่มสุดท้าย (กลุ่ม 4) ที่ผมอยากจะบอกว่า นี่ไม่ใช่การพูดให้กำลังใจ แต่เป็นการพูดถึงเหตุปัจจัยตามจริงนะครับ 

 

ถ้าคุณไม่รู้สึกนิ่งเลย ไม่รู้สึกว่าตัวเองสามารถเห็นลมหายใจได้เลย ขอให้สำรวจดูในชีวิตประจำวันนะ ว่ายังถูกห่อหุ้มอยู่ด้วยเรื่องราวรบกวนจิตใจภายนอกได้มาก

 

คือพูดถึงความฟุ้งซ่านนี่ เราต้องนึกถึงนะครับ จิตที่ถูกห่อหุ้มด้วยคลื่นรบกวน หรือว่าเครื่องรบกวน ที่พร้อมจะมาขยี้ขยำจิต ให้ยูยี่

 

ถ้าจิตใจยุ่งๆ มั่วๆ หรือเสพติดความบันเทิงทั้งวัน หรือแอบที่จะสาปแช่งใคร หรือว่าด่าใครออกปาก แบบตรงไปตรงมา จิตจะขาดกำลัง 

ถึงแม้ได้อุบายวิธีทำสมาธิ ให้เป็นวิธีไหนก็ตาม ในที่สุดแล้ว จิตก็จะไม่มีความพร้อม ไม่มีกำลัง ไม่มีความสดชื่น ไม่มีความเป็นกุศลมากพอที่จะส่องสว่างขึ้นมา

 

พอเราเข้าใจถึงเหตุปัจจัย แล้วก็ตกลงกับตัวเองใหม่ว่า ถ้าจะเอาดีทางสมาธิ ถ้าจะคิดมีความก้าวหน้าทางการเจริญสติ 

 

คุณจะเริ่มเห็นแวว คุณจะเริ่มเห็นแนวทาง ว่าต้องทำอย่างไรกับชีวิตของตัวเอง ต้องจัดการอย่างไรกับวิธีคิดของตัวเองนะครับ

 

ไม่ใช่แค่เรื่องของอุบายสมาธิ ไม่ใช่แค่การมานั่งสมาธิด้วยกันอย่างนี้ แล้วคุณจะคาดหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น โดยเรื่องที่เป็นลบๆ ทั้งหลาย เหตุปัจจัยที่ลบๆ ทั้งหลายคุณจะคงไว้ คุณยังรักษาไว้หวงแหนไว้ ทำไม่ได้นะ

 

จิตของคนเรา ก็จิตอันนี้แหละที่ไหลไปเรื่อยๆ ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามเหตุปัจจัยนะครับ

 

การนั่งสมาธิแค่วันละ 10 นาที ครึ่งชั่วโมง จะไปสู้อะไรกับการที่ปล่อยใจให้ว้าวุ่น ปล่อยใจให้เหม่อลอย ปล่อยใจให้ไหลไปกับโลก ตลอดอีก 

23 ชั่วโมงที่เหลือของวัน 

 

พอได้เข้าใจนะครับว่า 4 กลุ่มมีความหมายอย่างไร และตัวเองอยู่ที่กลุ่มไหน

 

กลุ่มที่อยู่บนๆ ไม่ได้หมายความว่า เป็นเครื่องประกันนะว่าคุณจะไม่ตก แล้วกลุ่มที่บอกว่าเหมือนกับอยู่ข้างล่าง ก็ไม่ได้ประกันว่านี่คือความ 

ไม่มีคุณภาพ แต่ขึ้นอยู่กับการตกลงใจ ขึ้นอยู่กับวิธีเลือก ว่าถ้าอยากเอาดีจริงๆ คุณจะต้องจัดการกับชีวิตของตัวเองอย่างไร

 

ผมให้ไว้เป็นนิวรณ์ นะครับ ที่เป็นตัวแบ่งระดับทั้ง 4 ถ้าหากว่า 

ลองไปเสิร์ชหา แล้วอ่านให้มากขึ้นก็ได้ นิวรณ์ 5 จะมีกาม มีพยาบาทมีฟุ้งซ่าน มีหดหู่แล้วก็มีขี้สงสัยนะครับ ถ้าหากว่าเราจัดการกับสิ่งที่เป็นเครื่องขวางได้ทางก็จะโล่งขึ้น 

________________________

รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน จากสมถะสู่วิปัสสนา

- กลุ่ม 3 และ 4

วันที่ 22 สิงหาคม 2564

ถอดคำ : เอ้

รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=vTSvt-iuHRA

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น