ดังตฤณ : คิดเสียว่าเป็นแรงดันชนิดหนึ่งนะครับ แรงดันจากภายใน อย่าไปสนใจว่า โยกจากอะไร แต่ให้สนใจว่า โยกมาก โยกน้อย แล้วค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นนิ่งหรือเปล่า สังเกตความไม่เที่ยง จะมีประโยชน์กว่าไปตั้งคำถามว่าเกิดจากอะไร เพราะเกิดจากอะไรนี่ สารพัดเลยนะ มีเหตุได้สารพัด แต่ว่าสังเกตความไม่เที่ยง แล้วได้ข้อสรุปว่าความไม่เที่ยง บอกเราว่าสิ่งนั้น เช่นอาการโยกนี้ เป็นแค่ของชั่วคราว ไม่ได้น่ายึดมั่นถือมั่น
พอจิตมีสติเต็มกำลังแล้ว
ทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังปรากฏ แม้กระทั่งอาการโยกไหว จิตจะบอกตัวเองได้เลย
ออกมาจากสัญชาติญาณภายในว่า ที่โยก โยกเพราะอะไร
บางคนโยกเพราะว่าเป็น
ออโตเมติกของร่างกายที่ไม่พร้อมจะนิ่ง บางคนเห็นเป็นธาตุ เพราะธาตุลมมีอาการพัดไหว
แล้วก็บันดาลให้ธาตุดิน ธาตุน้ำโยกไหวไป บางคนเห็นได้ละเอียดลึกซึ้งขนาดนี้
แต่บางคนก็อาจบอกตัวเองว่าเป็นนิสัย
อยู่นิ่งไม่ได้ แล้วใจก็มีอาการดิ้น มีอาการดิ้นอยู่ลึกๆ
ร่างกายก็เลยโยกตามอาการดิ้นที่ยังเหลืออยู่ ตกค้างอย่างนั้นนะครับ
จะเหตุอะไร
ไม่ได้สำคัญ เข้าใจไปแล้วก็ไม่ได้เป็นคำตอบที่จะทำให้บรรลุมรรคผล
ตัวที่จะทำให้เราบรรลุมรรคผล คือตัวที่จิตมีความคุ้นมีความเชี่ยวชาญ
ชำนาญที่จะเห็นว่า สภาวะที่เราเห็นไปแล้วนั้น กำลังเปลี่ยนไปไม่ใช่ตัวของเรา
ตัวนี้ ที่ในที่สุดจะไปจุดชนวนมรรคผลขึ้นมานะครับ สนใจตรงนี้ดีกว่า
_____________________
ดับทุกอย่างทั้งความคิดกับความรู้แล้วจะดับตัวยึดยังไงครับเพราะเราไม่มีความรู้ไม่มีความคิดแต่เห็นว่ามีตัวไปตั้งยึด
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน
ปีติสุขอันเป็นทิพย์
- ช่วงตอบคำถาม
วันที่ 7 สิงหาคม 2564
ถอดคำ : เอ้
รับชมคลิป
: https://www.youtube.com/watch?v=boL-JJ9gJaI
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น