วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2564

08.1 เหลือแต่ตัวรู้สังขารขันธ์ : รวมฟีดแบคหลังโพลที่ 1

- บางวันก็สว่าง บางวันก็มืด ขึ้นอยู่กับการรักษาศีลและความฟุ้งซ่านในแต่ละวันค่ะ

ดังตฤณ : เป็นคอมเมนท์ก่อนนั่งสมาธินะ เป็นโพลชุดแรกนะ

ถูกต้องเลยนะ ถ้าหากว่า การพูดการจา วิธีคิดของคุณเป็นไปในแบบที่ มีสติ อยู่ในกรอบของศีล คุณจะเห็นได้ชัดว่า สะท้อนออกเดี๋ยวนี้เลย ไม่ต้องรอชาติหน้านะ

 

เวลาทำสมาธิ จะเวิร์ค จะได้ผล จะประสบความสำเร็จได้ง่ายนะ แต่ถ้าหากว่าวันไหน ปล่อยให้ความคิด คำพูด พล่านไป พร่าเลือนไป แบบนี้ สมาธิก็จะพร่าเลือนตามไปด้วย

 

- ดีขึ้นค่ะ ลมหายใจเสมอกัน รู้ถึงกายด้วยค่ะ

ดังตฤณ : คือหลังจากทำท่าที่สองแบบใหม่นะครับ ถ้าทำถูก จะเกิดปีติ สุขขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพราะว่าเอาง่ายๆ เลย เนื้อตัวจะผ่อนคลายสบาย แล้วลมหายใจยาวขึ้น แบบที่ไม่อึดอัด ไม่เครียด ไม่เกร็งนะ

 

- รู้สึกถึงลม_กาย นั่งมีความคิดแทรกเป็นระยะค่ะ

ดังตฤณ : พอรู้ว่า กายชั้นหนึ่ง เลเยอร์หนึ่ง ลมหายใจก็อีกเลเยอร์หนึ่ง ความคิดก็อีกเลเยอร์หนึ่ง จริงๆ มีประโยชน์ คือถึงแม้ว่าจะยังไม่เกิดปีติ ไม่เกิดสุข ไม่เกิดสมาธิอะไรขึ้นมา แต่เกิดปัญญา สามารถเห็นว่าจริงๆ แล้ว ลมหายใจก็อย่างหนึ่ง ร่างกายก็อย่างหนึ่ง แล้วความฟุ้งซ่านก็อย่างหนึ่ง

 

แค่นี้ก็มีความมั่นใจขึ้นมาได้แล้วว่า เราสามารถเห็นกายใจโดยความเป็นขันธ์ 5 ได้ เป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่ทิศทางที่ถูกต้องแน่นอน

 

- รู้สึกเหมือนมี ? เป็นคนไปดู ไปรู้อาการ,ลม

ดังตฤณ : ตัวนั้นแหละ ที่เรียกว่า จิต ตัวที่รู้ ตัวที่ดู คือจิตนะครับ

 

- ปกตินั่งขัดสมาธิค่ะ วันนี้ มานั่งเก้าอี้ รู้สึกว่ามันนั่งสบายกว่า ยกแขนหายใจโล่งได้ดีกว่า จริงๆ ค่ะ แต่พอทำนานๆ เข้า ก็รู้สึกไม่อยากยกแขนกำกับ อยากจะตามดูแต่ลมหายใจอย่างเดียวค่ะ  

ดังตฤณ : ถ้าหากว่าเราต้องการประมาณนี้นะ


สำหรับภาพง่ายๆ คร่าวๆ ที่เรามาทำความเข้าใจร่วมกัน ไม่ใช่เห็นแบบนี้เป๊ะนะ แต่ประมาณนี้ว่า ร่างกายเหมือนกับถุงลม ที่โป่งออกได้ แล้วก็ยุบเข้ามาได้

 

อย่างอื่น จะท่าทาง จะหยุด หรือจะยกก็ตาม ไม่มีความหมาย เราต้องการสิ่งนี้เป็น แก่นสารนะครับ ในเบื้องต้นของการทำสมาธิแบบอานาปานสติ

 

ถ้าหากว่าเห็นอย่างนี้ได้ โอเคหมด ใช้ได้หมดนะ

 

ที่ทำเสียงสติมาก็ดี หรือท่าใช้มือไกด์ก็ตาม เราต้องการสิ่งนี้ (เห็นร่างกายเป็นถุงลม) เป็นหลัก

 

- เวลาทำท่าที่หนึ่ง และท่าที่สองไปสักพัก มักจะมีน้ำตาซึมออกมาแทบทุกครั้ง แต่ยังรู้สึกสบาย รู้ลมได้ต่อเนื่องตลอดทั้งสายครับ ส่วนความสว่างที่เกิดขึ้น ไม่ได้สว่างขาวผ่องใส แต่เป็นแสงนวลๆเหมือนสีเปลือกไข่ครับ

ดังตฤณ : จัดเข้าข่ายที่เราได้ดูกันในแอนิเมชันนะครับ คือจะสว่างเรืองๆ ออกมา นวลๆ เกินกายออกมาหน่อยๆ แต่ยังไม่ถึงขั้นสว่างจ้า

 

แต่ก็มีประโยชน์มากแล้ว เพราะว่า ถ้าสว่างนวลแบบนี้ โดยมากแล้วถ้านานพอ ทำให้มีความเป็นอย่างนี้ไปได้นานพอ ไม่นานจิตจะเงียบ คุณจะรู้สึกถึงจิตที่เงียบ เงียบจากความฟุ้งซ่าน เงียบจากความรู้สึกว่าจะเอาอะไรให้ตัวให้ตน

 

จะมีความตั้งอกตั้งใจดูลมหายใจด้วยความรู้สึกเป็นสุข และมีความพอใจอยู่แค่นี้ ไม่ได้ต้องการอะไรอย่างอื่นแล้ว เรียกว่ามีปีติ มีสุขขึ้นมาอ่อนๆ แล้ว ถ้าหากว่ามาถึงขั้นนี้ได้

 

- พลังงานความร้อนในร่างกายมากขึ้น.. ค่ะ

ดังตฤณ : นั่นเป็นการปรับธาตุให้อุ่นขึ้นนะ ถ้าคุณรู้สึกว่ามีสมาธิ รู้สึกว่า ตัวอุ่นแบบดีๆ คือรู้สึกดีนี่ ความอุ่นนั้น จริงๆ แล้วก็นับว่าเป็นความอุ่นที่มีประโยชน์นะครับ เพราะแสดงถึงพลังงาน แสดงถึงความกระตือรือล้น แสดงถึงความพร้อมที่จะดำเนินจิตไปบนเส้นทางของการพิจารณาธรรม

 

- สาธุค่ะ วันนี้ทำสมาธิแล้วรู้สึกตัวเบา ใจเบามากเลยค่ะ หลังจากไม่สามารถทำสมาธิตามอาจารย์ได้ใน 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาเพราะปอดติดเชื้อรา และไม่สามารถหายใจลึกๆยาวๆได้ ดีใจมากค่ะที่วันนี้กลับมาทำสมาธิได้แล้ว

ดังตฤณ : ดีใจด้วยนะครับ คุณดีใจผมก็ดีใจนะ เพราะว่ายิ่งเราทำกันได้มากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีการสืบทอดแก่นของพระศาสนาเพิ่มขึ้นเท่านั้น

 

ใครจะติดขัดอะไร หรือว่าหลงสะดุดอะไรไปบ้าง แต่อย่างน้อยกลับเข้าทางได้ เป็นเรื่องน่ายินดีทั้งสิ้นนะครับ

____________________

รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน เหลือแต่ตัวรู้สังขารขันธ์

- ช่วงรวมฟีดแบค ช่วงโพลที่ 1

วันที่ 25 กันยายน 2564

ถอดคำ : เอ้

รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=JUyCQBIWSIU&t=143s

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น