ดังตฤณ : คือตอนตายเนี่ยคุณจะเห็นว่ามันคือการรวมแสง
มันคือการรวมเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นกองบุญกองกุศลที่คุณทำมาทั้งชีวิตเนี่ยมางัดข้อกับความไม่รู้
งัดข้อกับความตายงัดข้อกับความมืดที่มันจะเกิดขึ้นในลำดับต่อไป
ถ้าหากว่ากองบุญของคุณมีแสงสว่างเจิดจ้า
ความมืดมันจะหายไป ความกลัวมันจะไม่มี แล้วถ้าหากว่าแสงสว่างที่คุณรวมมาทั้งชีวิตนั้น
เป็นแสงประเภทที่ส่องเข้ามาในกายนี้ใจนี้
เห็นว่ากายนี้ใจนี้เป็นเพียงนิมิตชั่วคราว มันเกิดมาไม่ถึงร้อยปีในนิมิตเนี้ย
แล้วในที่สุดมันก็จะต้องแตกดับไปเป็นความว่างเปล่าจากนิมิตที่มีรูปร่างหน้าตาแบบนี้
ชื่อเสียงนามสกุลแบบนี้ ความรู้สึกแบบนี้ อิริยาบทแบบนี้
ทุกอย่างมันจะเป็นแค่นิมิตที่ผ่านไปอีกครั้งนึง
ถ้าหากว่าระหว่างมีชีวิตเราสะสมความเห็นในทิศทางเช่นนี้ได้
ตอนตายคุณจะรู้สึกเลยว่าไม่มีอะไรต้องทำ เพราะทุกอย่างทำมาไว้ให้ตัวเองหมดแล้ว เตรียมมาไว้หมดแล้ว
มันจะเห็นเองว่านิมิตที่กำลังจะดับดิ้นสิ้นใจไปมันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของความไม่เที่ยงที่มันเกิดขึ้นอยู่แล้วตลอดเวลา
เป็นส่วนหนึ่งของความไม่ใช่ตัวตนที่มันปรากฏอยู่แล้วทุกหนทุกแห่ง
ความรู้สึกว่าใจเป็นอิสระจากการดิ้นรนเพื่อตัวตนเนี่ยแหละ
ตัวนั้นแหละที่มันจะพาคุณไปตายดีสุดๆ ตายดีในที่นี้เนี่ยไม่ใช่ตายไปเป็นเทวดานางฟ้าอย่างเดียวนะครับ
ตายไปแบบที่จะสามารถปิดอบายได้แน่นอน
หรือถ้าจับพลัดจับผลูมีวาสนาเก่ามาส่งเสริมเกื้อกูลก็อาจจะตายแบบพระอรหันต์ขีณาสพผู้สิ้นทุกข์สิ้นกิเลสอย่างสิ้นเชิงเลยก็ได้
--------------------------------------------------------------------------
ผู้ถอดคำ แพร์รีส แพร์รีส
วันที่ไลฟ์ ๑
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ (รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน)
คำถาม นิมิตควบคุมไม่ได้
แล้วตอนตายทำยังไงคะ?
ระยะเวลาคลิป ๒.๓๔ นาที
รับชมทางยูทูป https://www.youtube.com/watch?v=zZW3Yi-iqEg&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=3** IG **
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น