วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ยังไม่เห็นค่ะ เราจะเห็นเป็นอย่างไร จึงเรียกได้ว่าเห็นคะ?


ดังตฤณ :  คือไม่ต้องไปพยายาม .. เพราะบางคนพอดูไปแล้วเนี่ย มันไม่รู้ว่าจะดูตรงโน้นหรือว่าดูตรงนี้ดี มันไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ

คือถ้าเข้าใจหลักการมาตั้งแต่ต้น ค่อยๆฝึกมาทุกวัน จะพบความจริงอย่างนึงว่า ภาพที่เห็นเนี่ยมันทำให้เรารู้สึกถึงลมหายใจได้อย่างเช่น ลมหายใจนี้เห็นท้องป่องออกมาเหมือนลูกโป่งที่มันโป่งออกมา แล้วเราเกิดความรู้สึกเหมือนจะท้องป่องตาม พร้อมที่จะเริ่มต้นหายใจด้วยการพองท้องออก พองท้องออก เนี่ยถือว่าเป็นสิ่งนึงนะครับที่บอกเราได้ว่า ภาพเนี่ยช่วยให้เกิดไกด์ไลน์ว่าเราจะหายใจอย่างไร

ทีนี้พอหายใจถูกแล้วเกิดความรู้สึกเป็นสุขขึ้นมา มีสุขเวทนาเกิดขึ้นเนี่ย คุณจะรู้สึกเบาตัวเบาใจ ร่างกายเนี่ยมันสงบระงับไม่กวัดแกว่าง จากนั้นมันจะค่อยๆสังเกตเห็นเข้ามาว่า แต่ละครั้งที่หายใจเข้าหายใจออกเนี่ย มันมีสุขที่ป่องออกมาแล้วก็หดตามร่างกายด้วยจริงๆนะครับ

ร่างกายเนี่ยมันผูกติดกับความเป็นสุขก็เพราะว่า ความสุขที่เป็นของหยาบที่เข้ามาถึงจิตก่อนเนี่ย คือความสุขทางกาย ความสุขทางกายเป็นอย่างไรเนี่ย จิตมันก็มีความสุขไปตามนั้น

ทีนี้พอเริ่มที่จะเห็นสภาวะละเอียดขึ้น อย่างเช่นความคิดเนี่ย ถ้าอยู่ๆเรามาจ้องความคิดเลยเนี่ย อย่างที่หลายๆคนบอกว่า เออนี่กำลังฝึกรู้ความคิดโดยความเป็นของไม่เที่ยงอยู่ แต่มันกลายเป็นคิดซ้อนคิด นั่นเพราะว่าไม่มีพื้นฐาน ไม่มีตัวความสามารถของจิตที่จะมองเห็นความคิด ซึ่งเป็นสิ่งละเอียดขึ้นมาได้

แต่ทีนี้พอเราเริ่มอาศัยลมหายใจเป็นตัวนำขึ้นมาก่อนนะครับ เป็นตัวเหนี่ยวนำความสุขขึ้นมา ความสุขตรงนั้นแหละที่ม้นเกิดขึ้นนั่นแหละ มันจะเป็นพื้นฐานให้กับมุมมอง คือจิตมันจะมีความสามารถเห็นลมหายใจเป็นสายได้ แล้วถ้าเมื่อไหร่จิตเห็นลมหายใจเป็นสาย มันก็จะเริ่มเห็นว่ามีอะไรคลุ้งๆอยู่ในหัว ไอ้ตัวนี้เนี่ยมันเป็นเหมือนกับแค่ไกด์ไลน์นะครับ อันนี้จำไว้นิดนึงนะเป็นแค่ไกด์ไลน์ไม่ใช่ว่าเราจะไปเลียนแบบนะครับ ไม่ใช่ไปพยายามทำให้เหมือนกับสิ่งที่อยู่ในแอนิเมชั่นนะครับ

มันเป็นแค่ไกด์ไลน์ให้เราเนี่ย รู้ว่าจะมองเข้ามาในตัวเองท่าไหนเท่านั้นเองนะครับ

อย่างไรที่เรียกว่าเห็นเนี่ย เอาความมั่นใจมาจากการเห็นลมหายใจก่อน ถ้าเห็นลมหายใจได้ อันนี้ได้พื้นฐานที่สุดแล้ว แล้วถ้าเห็นตัวสุขเวทนาได้รู้สึกถึงลมหายใจเข้าออกที่พาความสุขเข้ามา พาความสุขออกไป พาความทุกข์ออกไปเนี่ย แล้วเกิดความมีร่างกายและสภาพจิตใจที่มันสงบระงับไม่กวัดแกว่งขึ้นมานะ ตรงนั้นแหละพอเรารู้สึกเข้ามาในหัวเนี่ยมันเป็นของจริงแล้ว มันเป็นการเห็นความคิดขึ้นมาจริงๆ เห็นโดยความเป็นสภาวะอะไรอย่างหนึ่ง ที่บางทีมันหนาแน่นขึ้นมา มันฟุ้งยุ่งๆขึ้นมา บางทีมันเบาบางลงไปมันเจือจางลงไป มันเหมือนกับมีความโปร่งแสง มีความโปร่งใสมากขึ้น ซึ่งมันก็จะนำมาให้เห็นจิตที่มีความสงบบ้าง มีความฟุ้งซ่านบ้างไปด้วยนะครับ

----------------------------------------------------------------------

ผู้ถอดคำ                      แพร์รีส แพร์รีส
วันที่ไลฟ์                  ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ (รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน)
คำถาม                         ยังไม่เห็นค่ะ เราจะเห็นเป็นอย่างไร จึงเรียกได้ว่าเห็นคะ?
ระยะเวลาคลิป           ๓.๕๐ นาที
รับชมทางยูทูป          https://www.youtube.com/watch?v=JQgUs2LZ47g&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=22



** IG **

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น