ดังตฤณ : จริงๆแล้วมันไม่มีถูกไม่มีผิดที่เราจะไปรู้เข้าที่ตรงไหนนะครับ
การเจริญสติเพื่อที่จะเห็นกายใจ โดยความเป็นของไม่เที่ยงไม่ใช่ตัวตนเนี่ย
จะรู้เข้าไปที่ไหนเนี่ยมันถูกหมด ถ้าหากอยู่ในขอบเขตของกายใจนี้นะครับ
ไม่ได้คิดฟุ้งซ่าน ไม่ได้จินตนาการไปถึงอนาคตหรือว่าอดีต สติอยู่กับปัจจุบันเนี่ยมันเข้าข่ายหมด
เข้ามาอยู่ในทิศทางที่ใช่หมด
แต่หากว่าเรามีความเข้าใจว่า
การเห็นเท้าเห็นเท้ากระทบไปทำไม เห็นเพื่อที่จะให้เท้ากระทบเนี่ย
จังหวะกระทบช้าหรือเร็วเนี่ย มันเป็นศูนย์กลางสติ มันเป็นศูนย์กลางการรับรู้ให้เรามีสติอยู่กับเนื้อกับตัวได้นานๆโดยไม่วอกแวกไปไหน
มีความชัดเจนว่า
ถ้าหากเท้ากระทบหายไปจากใจหมายความว่าสติเราขาดไปฟุ้งซ่านเรื่องอื่นนะครับ
หรือถ้าหากว่าเท้าหายไป
แต่กลับมาอยู่กับลมหายใจได้ อันนี้ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่ถูกต้อง
อยู่ในทิศทางที่ใช่อยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ากลับมาอยู่กับลมหายใจแล้วมันมีความเห็นว่า
เดี๋ยวสั้นบ้างยาวบ้าง เดี๋ยวมีความสุข เดี๋ยวมีความทุกข์ เดี๋ยวฟุ้งซ่าน
เดี๋ยวสงบได้เนี่ย ไอ้นี่มันก็จะพาให้เกิดความเข้าใจว่ากายใจนี้ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนนะครับ
แล้วพ้นอุปาทานได้เหมือนกัน แค่สังเกตอย่างนี้แหละ หลุดจากเท้ามาอยู่กับลม
แล้วอยู่กับลมได้นานไหม เห็นความไม่เที่ยงได้ไหม หลุดจากลมกลับไปอยู่ที่เท้าอีก
แล้วเกิดความรู้สึกไหมว่า เท้าที่มันเป็นศูนย์กลางกระทบ กระทบ
กระทบอยู่เนี่ยนะครับ มันพาให้เห็นกายใจโดยความเป็นของไม่เที่ยงได้
--------------------------------------------------------------------
ผู้ถอดคำ แพร์รีส แพร์รีส
วันที่ไลฟ์ ๑
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ (รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน)
คำถาม ปกติเวลาเดินออกกำลังกาย
รู้สึกที่ปลายเท้า แต่ช่วงนี้เริ่มรู้
ที่ลมหายใจแล้ว ถูกต้องหรือไม่คะ?
ระยะเวลาคลิป ๒.๒๗ นาที
รับชมทางยูทูป https://www.youtube.com/watch?v=6_o3cn-pU-Q&list=PLmDLNhxScsWPHpIdf0LAQiQM1j9ZebEMx&index=19
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น