ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากดัง
แต่ไม่มีใครยอมให้ความร่วมมือ ไม่ช่วยกันยอมรับว่าคุณดัง งั้นทำยังไงดี? เมื่อหาป๋าดันหรือแม่ยกไม่เจอ
ก็เหลือทางเดียวคือคุณต้องช่วยดันตัวเองแล้วล่ะ ใครจะหาว่าอยากดังจนหน้ามืดก็ยอม
ใครจะอยากทนเป็นคนที่ไม่มีใครจำหน้าได้ก็ช่าง คุณคนหนึ่งล่ะที่ไม่ยอม
การเป็นคนดัง คนพิเศษ ในสมัยนี้
ที่จะให้นึกถึงก่อนเพื่อน คือดารา นักร้อง
และถ้ายิ่งเป็นได้ทั้งดาราและนักร้องที่ประสบความสำเร็จ
ก็ยิ่งดังแบบถึงใจพระเดชพระคุณชาวโลกเข้าไปใหญ่
ดาราเป็นพวกที่มีรัศมีฉายจับตา
ฝรั่งเรียกว่า "คาริสม่า" (charisma) เป็นที่ทราบกันว่าแก่นของรัศมีที่ดึงดูดสายตาและความสนใจจากคนอื่นได้
อยู่ที่ความเชื่อมั่นในตนเอง เป็นความเชื่อมั่นชนิดสูงเกินมนุษย์ธรรมดา
กระทั่งพลังความเป็นตัวตนเข้มข้นพอจะก่อกระแสแม่เหล็กเบี่ยงเบนความสนใจใครต่อใครให้หันเหจากสิ่งอื่นมาจดจ่อกับตัวตนของเขาหรือเธอได้
พูดให้ฟังง่ายที่สุด
อัตตาของคุณยิ่งโตขึ้นเท่าไหร่ แนวโน้มคือคาริสม่าของคุณจะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
แต่นั่นก็เป็นข้อถกเถียงกันระหว่างคนทำวิจัย เพราะบางคนอัตตาโต
มั่นใจในตนเองระดับฮิตเลอร์เรียกพี่ ก็ไม่ได้น่าสนใจ ไม่ได้สะดุตาชวนมองเสมอไป
บางครั้งคุณก็รู้สึกว่าตัวตนของคุณเข้มข้น
ดึงดูดความสนใจชาวบ้านขึ้นมาได้เป็นครั้งเป็นคราวเหมือนกัน
อย่างถ้าชนะเลิศในเกมการแข่งขัน หรือง่ายกว่านั้นเช่นตื่นเช้าไหนสดชื่นเป็นพิเศษ
พลังความสดชื่นนั้นก็ก่อให้เกิดกระแสความเชื่อมั่นในตน
เดินโฉบไปทางไหนก็เหมือนมีอำนาจชักจูงสายตาให้มาสนใจคุณได้ เป็นต้น
แต่คนธรรมดาจะมีคาริสม่าแบบกระเส็นกระสาย
กะปริบกะปรอย เอาแน่เอานอนไม่ได้ ส่วนดาราจะมีคาริสม่าฉายแรง
เหมือนมั่นใจในตัวเองอยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกว่าปรากฏตัวทีไร
คนก็ให้ความสนใจข้าพเจ้าทุกที บ่อยเข้าก็ปักใจมั่นอยู่กับภาพที่ตนเป็นโคตรเพชร
โคตรแม่เหล็กถาวร
พลังเข้มข้นในตัวจะตกแต่งให้กิริยาท่าที
แววตา น้ำเสียง ตลอดจนรายละเอียดทั้งหมดดูตั้งมั่น มีความเป็นตัวของตัวเอง
ไม่โอนเอนตามใครง่ายๆ ทุกคนต้องหันมาสนใจและพยายามเอาตามข้าพเจ้าแต่ผู้เดียว
หัวใครก็ไม่น่าเห็นเท่าหัวของข้าพเจ้าเลย
นอกจากพลังความเชื่อมั่น อันเป็นคาริสม่าแล้ว
รูปร่างหน้าตาก็เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ได้เปรียบชาวบ้าน
ต่อให้ใครมีกระแสดึงดูดสายตามาจับ แต่รูปร่างหน้าตาดูตลก เตี้ยล่ำดำกร้าน
คนจับตามองก็อาจจ้องไปขำไป นินทาไปด้วย
ต่างกับพวกหน้าตาชวนฝันแล้วมีความมั่นใจด้วย นั่นแหละแจ้งเกิดในวงการมายากับเขาได้
สรุปคือถ้าคุณอยากดังด้วยการเป็นดาราดัง
ก่อนเกิดก็จำเป็นต้องกดปุ่มเลือกกันนิดหนึ่ง ต้องสวยสุดหล่อสุดกันหน่อย
หรือถ้าจะขี้ริ้วก็ขี้ริ้วบันลือโลก ชนิดเห็นแล้วขำขี้แตกไปเลย
นั่นแหละถึงจะเป็นดาราได้อีกแบบ
แต่ถ้าสำรวจตัวเอง
ยอมรับแล้วว่ารูปก็ไม่หล่อ พ่อแม่ไม่ค่อยให้กำลังใจ คิดการใหญ่ไม่เคยสำเร็จ
แต่รวบรวมเบ็ดเสร็จแล้วยังอยากดังอยู่ดี อย่างนี้จะทำอย่างไร?
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าโลกนี้ไม่มีใครฉายรัศมีจับตาได้ด้วยความอ่อนแอ
คุณต้องฝึกให้ตัวเองเข้มแข็ง เป็นตัวของตัวเอง
กล้าคิดกล้าทำอะไรดีๆแตกต่างจากคนอื่นโดยไม่ต้องถามใครให้แน่ใจเสียก่อน
ว่าจะเอาดีไหม เริ่มเมื่อไหร่ ใครจะว่าทำตัวแปลกหรือเปล่า
ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพ
สมมุติว่าผู้คนเยอะแยะนั่งอยู่ที่ป้ายรถเมล์ เห็นคนตาบอดกำลังจะข้ามถนน
โบกไม้เท้าขอทางข้ามจากรถราเก้ๆกังๆ ทุกคนนั่งดูกันหมดว่าจะข้ามสำเร็จไหม จะมีใครอาจหาญลุกขึ้นมาพาคนตาบอดไปสู่จุดหมายอีกฝั่ง
แล้วมีคุณคนเดียวเดินอาดๆไปพาเขาข้าม แน่นอนคุณย่อมเป็นจุดรวมสายตา
รัศมีที่ฉายออกมาคือฉันลุกก่อน ตัดสินใจก่อน โดดเด่นเป็นที่ชื่นชมของใครๆ
อันที่จริง
กระแสความเป็นคนพิเศษฉายตั้งแต่ตอนที่คุณทําอะไรต่างจากคนอื่น
เพียงแต่พิเศษนั้นมีทั้งดีเป็นพิเศษกับแย่เป็นพิเศษ เช่น
คนส่วนใหญ่พอโกรธแล้วจะอยากแสดงอารมณ์ร้าย ใครกระโชกโฮกฮากได้ถมึงทึงน่ากลัวกว่า
ก็น่าลำพองกระหยิ่มใจเป็นพิเศษ อย่างนี้เรียกแย่เป็นพิเศษ
แต่แค่คุณฉุกคิดว่าโกรธแล้วทําไมต้องทำหน้าบึ้ง
ทำไมต้องอยากตะคอก ทำไมต้องเหมือนคนอื่น เปลี่ยนให้ต่างจากคนทั้งโลกไม่ได้หรือ? และแล้วคุณก็เลือกที่จะเป็นพวกโกรธแล้วเลือกที่จะไม่ขู่กันด้วยกิริยา
ไม่ทำตากร้าวจ้องกันแทบถลน อดทนเปลี่ยนคำหยาบในหัวให้เป็นคำสุภาพไม่ระคายโสตกัน
เท่านี้คุณได้ชื่อว่า "แน่" แล้ว ทำดีที่ใครๆทำได้ยากแล้ว
เมื่อกระแสของคุณเข้มข้นมากเข้า
เชื้อของความเป็นคนดังจะเริ่มส่องประกาย คือสุกสว่างโดดเด่นแตกต่างจากชาวบ้านได้
สมนัยกับที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าจะเป็นคนมีชื่อเสียงหอมหวนเป็นที่ร่ำลือได้
ก่อนอื่นต้องอาศัย "ฐานกรรม" ที่สำคัญ คือเป็นผู้มีความบริสุทธิ์ในศีล
หักห้ามใจในสิ่งที่ชาวโลกทั้งหลายเขาหักห้ามกันยากนั่นเองครับ
ดังตฤณ
จากบทความ "ทำยังไงดี?"
นิตยสาร Miracle of Life ฉบับ เดือนกันยายน ๕๓
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น