คุณจะไม่รู้ตัวว่าตัดสินใจถูก จนกว่าผลดีจะแสดงตัวให้เห็น
ความหมายของคะแนนใหม่
คะแนนใหม่หมายถึงกรรมในปัจจุบันซึ่งคุณมีความตั้งมั่นแล้ว
คือประพฤติปฏิบัติหรือทำได้อย่างต่อเนื่องเป็นปีๆ
หัวข้อนี้มุ่งเอาคะแนนใหม่ไปใช้คำนวณกับฐานคะแนนเดิมในบทที่ ๓
เพื่อรู้คร่าวๆว่าคุณเล่นเกมกรรมมาถึงไหน
มีความสุขและความพร้อมจะพัฒนาตนไปสู่ความมีชีวิตที่คิดไม่ถึงมากน้อยเพียงใด
เมื่อรู้ภาพใหญ่ภาพรวม ก็ไม่ต้องคำนึงถึงเหตุผลหรือรายละเอียดปลีกย่อยเป็นเรื่องๆ
เพราะเมื่อชีวิตน่าพอใจ ใจก็ควรจะพอกับทุกเรื่อง
(หากไม่เคยคำนวณคะแนนของตัวเองในบทที่ ๓ ไว้
ขอให้กลับไปอ่านและทำความเข้าใจเสียก่อน เนื่องจากตลอดบทนี้ต้องใช้คะแนนอันเป็นทุนเดิมมาเป็นตัวตั้งในการคำนวณ)
ความเข้าใจเรื่องคะแนนใหม่เป็นอย่างดีนั้น
จะทำให้คุณถอยไปก้าวหนึ่ง แล้วมองเห็นเกมกรรมชัดเจนกว่าเดิม
นั่นคือคนส่วนใหญ่ตกอยู่ภายใต้กระแสซัดพาของพลังกรรมเก่า
โดยไม่ค่อยจะลงมือทำบุญให้อะไรๆดีขึ้น ได้แต่ดิ้นรนเรื่องเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง
หรือถ้าจะคิดปรับปรุงชะตาชีวิตให้ดีขึ้น
ก็มักนึกถึงผีสางเทวดากับเคล็ดลางต่างๆนานา
ซึ่งอาจเกิดผลบวกหลอกๆให้ดีใจเล่นเดี๋ยวเดียว
แต่ในระยะยาวไม่ได้มีอะไรดีขึ้นจริงเลย
ทั้งนี้ก็เพราะชะตาชีวิตของคนถูกคุมอยู่ด้วยกรรม ไม่ใช่ผีสางเทวดาหรือเคล็ดลางใดๆ
หากหยั่งรู้อย่างแท้จริง คุณก็จะทราบว่าแม้ผีสางเทวดาก็ตกอยู่ใต้อำนาจกรรม
และเคล็ดลางใดๆจะเกิดผลกับใครก็ขึ้นอยู่กับกรรมของคนๆนั้นนำไป สรุปคือ
กรรมนั่นเองมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการจัดสรรให้สิ่งต่างๆเป็นไปตามสมควรแก่เหตุผลเดิมและเหตุผลใหม่
และเช่นกัน การคำนวณคะแนนให้เห็นชัดๆในบทนี้
คงทำให้ทุกคนเข้าใจว่าเหตุใดทำดีจึงเหมือนไม่ได้ดี อันที่จริงคือได้
แต่อาจช้าไปหน่อย โดยเฉพาะในกรณีที่คุณยังมีคะแนนติดลบอยู่มากๆ
นอกจากนั้น
เมื่อคุณเห็นวิธีคำนวณคะแนนใหม่บนฐานของคะแนนเก่าแล้ว
ก็จะรู้สึกเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาประการหนึ่ง นั่นคือ ถ้าคุณไม่ทำบุญเพิ่ม
คุณก็เกือบๆจะทำบาปแล้ว เนื่องจากการใช้ชีวิตแบบได้คะแนนศูนย์นั้น
เป็นไปได้ยากยิ่ง ตราบใดยังอยู่ในเกม ตราบนั้นมักมีคะแนนบวกกับคะแนนลบเกิดขึ้นเสมอ
โดยเฉพาะในเกมกรรมแบบมนุษย์ที่มีแรงบีบคั้นมากมายตลอดเวลา
ถ้าคุณพบว่าคะแนนใหม่กับคะแนนเก่ามีความสัมพันธ์กันดังที่จะแสดงในบทนี้จริง
คุณก็จะเห็นด้วยว่าการจะมีชีวิตใหม่ไม่ได้หมายถึงปรับแก้เพียงจุดบอดเล็กๆแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น
เช่นถ้าอยากได้คนรักดีๆ คุณต้องปรับเปลี่ยนตัวเองหลายๆแง่หลายๆมุม
อย่างน้อยให้มีความคู่ควรกับคนดีๆที่คุณใฝ่หาเสียก่อน
ไม่ใช่แค่แต่งตัวให้ดูดีมีเสน่ห์ ไม่ใช่แค่ฝึกพูดเพราะๆเอาใจคน
ไม่ใช่แม้กระทั่งแค่ตั้งจิตคิดสัตย์ซื่อ สาบานว่าจะมีรักเดียวใจเดียว
คุณต้องมีคะแนนรวมมากพอจะดึงดูดเจ้าชายหรือเจ้าหญิงในฝันเข้ามาหา
เมื่อส่องสำรวจตรวจตราคะแนนใหม่ของตนเองในหลายแง่หลายมุม
คุณจะตระหนักว่าการเพิ่มคะแนนมิใช่เรื่องง่าย ทว่าก็ใช่จะยากเกินเอื้อม
เมื่อลงสนามแข่งจริง เกมกรรมอาจส่งแรงบีบคั้นไม่ให้พัฒนาตัวเองได้ง่ายนัก
แม้ใครเชื่อแล้วว่าตัวเองกำลังเล่นเกมกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
แต่ก็จะมีข้ออ้างกันเกือบร้อยทั้งร้อยว่า ยังทำดีไม่ได้ในตอนนี้
ต้องขอทำชั่วไปก่อน
ถ้าคิดอย่างนี้ก็ควรทราบว่าเกมกรรมกำลังส่งปัจจัยบีบคั้นมาปั่นหัวให้นึกท้อ
นี่จะนับว่าน่าเห็นใจที่เกมกรรมเล่นยากก็ได้
หรือจะสะท้อนให้เห็นว่าคุณยังไม่ใจเด็ดพอจะมีชีวิตใหม่ที่คิดไม่ถึงก็ได้
ในบทนี้จะไม่มีตัวแปรในการให้ผลดังกล่าวในบทที่ ๗
เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักเจตนา ระยะเวลาที่พากเพียรทำให้สำเร็จ ฯลฯ
เนื่องจากตัวแปรอื่นๆจะกลายเป็นตัวบวกและตัวคูณที่ก่อให้เกิดความซับซ้อนสูงเกินกว่าจะแยกแยะได้หมด
แต่บทนี้จะแสดงให้คุณเห็นภาพใหญ่อย่างคร่าวที่ใกล้เคียงความเป็นจริง และก่อให้เกิดความเข้าใจเรื่องการคานอำนาจระหว่างกรรมเก่ากับกรรมใหม่
ตลอดจนเห็นจริงเห็นจังขึ้นมาว่าตัวแปรเกี่ยวกับกรรมและผลของกรรมนั้น
มีมากไม่จำกัดอย่างไร
ก่อนเข้าเรื่องคะแนนใหม่
ขอย้ำกฎของเกมกรรมให้เป็นที่เข้าใจอีกครั้ง คือบุญกับบาปต่างจะแยกกันให้ผล
ไม่ใช่หักลบกันแล้วไม่เกิดผล จุดสำคัญคือเมื่อเกิดผลดีร้ายพร้อมกัน
ความรู้สึกของคุณจะไม่ดีเสียทีเดียว และไม่แย่ไปเสียหมด
การแสดงคะแนนใหม่จึงถูกจัดหมวดหมู่ที่เข้ากันได้
และทำให้คุณรู้สึกว่ากรรมในหมวดหมู่เดียวกันคานน้ำหนักกันได้จริงๆ
คะแนนการใช้หนี้
หนี้บุญคุณกับหนี้บาปเวรจัดอยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน
เพราะต่างก็เป็นหนี้ ซึ่งถ้าไม่ชดใช้ก็จะโดนเกมกรรมตามทวงเรื่อยไป
หนี้บุญคุณพ่อแม่
- ๕ คะแนน สำหรับการขัดขวางพ่อแม่ไม่ให้ได้เห็นถูกเห็นชอบ
เช่นโน้มน้าวให้เปลี่ยนศาสนา เลิกศรัทธาพระพุทธเจ้า เลิกศรัทธากรรมวิบาก
เลิกทำทานรักษาศีล
- ๓ คะแนน สำหรับการทำให้พ่อแม่เป็นทุกข์ทางกาย
เช่นทิ้งพ่อแม่โดยไม่สนใจว่าจะอดตายอยู่ที่ไหน ทุบตีพ่อแม่
ใช้พ่อแม่ทำงานหาเงินให้ตนแม้แก่ชราแล้ว
- ๒ คะแนน สำหรับการทำให้พ่อแม่เป็นทุกข์ทางใจอย่างเดียว
เช่นพูดให้เจ็บช้ำน้ำใจ หรือโกรธกันแล้วตัดการติดต่อ ปฏิเสธไม่พบกันอีกแม้ท่านร้องขอ
๐ คะแนน สำหรับการไม่รู้ว่าพ่อแม่อยู่ที่ไหนมาตั้งแต่เกิด
+ ๒ คะแนน สำหรับการทำให้พ่อแม่เป็นสุขทางใจอย่างเดียวได้
+ ๓ คะแนน
สำหรับการทำให้พ่อแม่เป็นสุขทางใจและเลี้ยงดูกายท่านให้สบายได้
+ ๕ คะแนน สำหรับการเปลี่ยนท่านจากความเห็นผิดให้เห็นชอบ
ศรัทธาพระพุทธเจ้า ศรัทธากรรมวิบาก มีความตั้งมั่นในทานและศีลได้
หนี้บาปเวร
- ๕ คะแนน สำหรับการเหยียบย่ำทำลายพุทธศาสนา
โน้มน้าวให้ผู้นับถือศาสนาพุทธเลิกนับถือเสียหรือเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่น
โดยการโจมตีว่าพุทธเป็นศาสนาที่สอนผิด
- ๓ คะแนน สำหรับการฆ่ามนุษย์ด้วยโทสะและอาการแห่งการผูกเวร
- ๒ คะแนน สำหรับการหาทางทำร้ายศัตรูให้บาดเจ็บทางกาย
หรืออย่างน้อยต้องพูดทิ่มตำกันให้เจ็บใจอย่างรุนแรง
- ๑ คะแนน สำหรับการผูกใจเจ็บกับทุกคนที่ทำให้ไม่พอใจ
หรือการพูดทิ่มแทงกันให้ขุ่นเคืองไม่พอใจกลับคืน
๐ คะแนน สำหรับคนที่ไม่เจอใครทำให้รู้สึกเป็นศัตรูหรือทำกันและกันให้เจ็บใจเลย
+ ๑ คะแนน สำหรับการให้อภัยทุกคนที่ทำให้คุณไม่พอใจได้
โดยไม่คิดผูกเวรด้วยการโต้ตอบแบบศัตรู แม้ยังมีความโกรธอยู่ในใจ
+ ๒ คะแนน สำหรับการให้อภัยทุกคนที่ทำให้คุณไม่พอใจได้
โดยไม่คิดผูกเวรด้วยการโต้ตอบแบบศัตรู กับทั้งไม่มีความโกรธ
แต่กลับเยือกเย็นด้วยความปรารถนาดีจริงใจกับเขา
+ ๓ คะแนน
สำหรับการให้ความช่วยเหลือคนที่ทำร้ายคุณก่อนด้วยความบริสุทธิ์ใจ
+ ๕ คะแนน สำหรับการให้อภัย มีเมตตา
และสามารถเปลี่ยนศัตรูเป็นมิ่งมิตรด้วยการทำตัวเป็นเหตุให้เขาเปลี่ยนจากความเห็นผิดให้เห็นชอบ
ศรัทธาพระพุทธเจ้า ศรัทธากรรมวิบาก มีความตั้งมั่นในทานและศีลได้
คำนวณคะแนนเปรียบเทียบกับทุนเก่า
สำหรับผู้ที่มีทุนเก่าเป็น –๑๐
แปลว่าถ้าคุณได้คะแนนเต็มจากการใช้หนี้บุญคุณเป็นบวก ๕ และได้คะแนนเต็มจากการใช้หนี้บาปเวรอีกบวก ๕
จะเกิดปริมาณความสุขในระดับพอดีกับทุกข์ แม้ชีวิตจะยังโน้มเอียงเป็นทุกข์สำหรับคุณ
แต่คุณจะไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจอีกต่อไป ทว่าถ้าคุณตั้งหน้าตั้งตาทำคะแนนลบต่อ
ชีวิตคุณจะยิ่งตกต่ำจมดินเข้าไปใหญ่ ประมาณไม่ถูกว่าจะสาหัสสากรรจ์เพียงใด
กล่าวได้ว่าชีวิตมนุษย์ครั้งนี้ของคุณเป็นการ ‘ขึ้นมา’ เพียงเพื่อจะ ‘ลงต่ำ’
หนักกว่าเดิม
สำหรับผู้ที่มีทุนเก่าเป็น ๐
แปลว่าถ้าคุณเพิ่มคะแนนเพียงสองสามข้อ ชีวิตก็เป็นสุขขึ้นอย่างรู้สึกได้บ้างแล้ว
แต่หากเป็นตรงข้าม คุณเพิ่มคะแนนลบเพียงสองสามข้อ ชีวิตก็เป็นทุกข์กว่าที่ควร
ถ้าลบแค่ ๒ คะแนนอาจอยู่ในระดับหงุดหงิด แต่หากลบ ๓ คะแนนขึ้นไป
คุณจะว้าวุ่นและโกรธง่ายหายยาก และถ้าลบ ๕ คะแนนขึ้นไป
คุณจะรู้สึกเหมือนสูญเสียชีวิตเก่า มีชีวิตใหม่ที่เต็มไปด้วยบาดแผลทางใจ
เยียวยายาก
สำหรับผู้ที่มีทุนเก่าเป็น +๑๐ ซึ่งสมบูรณ์พูนสุขอย่างยิ่ง
แปลว่าต้องเพิ่มคะแนนบวกให้ได้เกิน ๕ คะแนน
คุณถึงจะรู้สึกเป็นสุขขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่โดยทั่วไป หากคุณเป็นพวกบวก ๑๐
แนวโน้มคือคุณจะมาเพิ่มคะแนนให้กับตนเองด้วยการใช้หนี้บุญคุณ
และไม่เพิ่มหนี้บาปให้ตนเองมากนักอยู่แล้ว
คะแนนของทานและศีล
ทานกับศีลถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน
เพราะต่างก็เป็นการสละออก คือสละความตระหนี่ และสละพฤติกรรมสกปรก
สำหรับการให้ทานนั้นจะเรียก ‘มหาทาน’ ก็ต่อเมื่อเป็นทานที่ยิ่งใหญ่
ได้ประโยชน์ไพศาลกับตนและคนหมู่มาก แต่สำหรับการรักษาศีลนั้น อย่างไรก็เรียก
‘มหาทาน’ โดยไม่จำเป็นต้องตกแต่งด้วยปัจจัยยิ่งใหญ่อลังการแต่อย่างใด
เนื่องจากเพียงถือศีลให้สะอาดทุกข้อ คุณย่อมได้ชื่อว่าไม่เบียดเบียนตน
ไม่เบียดเบียนคนอื่น ทำโลกส่วนที่ได้รับผลกระทบจากชีวิตคุณให้เย็นลงอย่างไพบูลย์อยู่แล้ว
ทาน
- ๕ คะแนน
สำหรับการขัดขวางผู้อื่นมิให้ให้ธรรมทานแก่สาธารณชนเป็นประจำ
- ๓ คะแนน
สำหรับการขัดขวางหรือบั่นทอนกำลังใจผู้คิดถวายสังฆทาน
- ๒ คะแนน สำหรับการมีส่วนเกิน ให้ได้แต่ไม่ให้
ทั้งที่มีผู้สมควรได้รับอ้อนวอนขอ
- ๑ คะแนน สำหรับการมีส่วนเกิน ให้ได้แต่ไม่ให้
ทั้งที่พบเห็นผู้สมควรได้รับ
+ ๑ คะแนน สำหรับการให้ส่วนเกินของคุณตามที่คนอื่นขอ
+ ๒ คะแนน
สำหรับการหมั่นออกไปหาผู้รับถึงที่เพื่อเป็นฝ่ายยื่นเสนอก่อนถูกขอ
+ ๓ คะแนน สำหรับการถวายทานน้อยใหญ่แด่สงฆ์เป็นประจำ
+ ๕ คะแนน
สำหรับการให้ธรรมะที่ถูกต้องเป็นทานแก่สาธารณชนเป็นประจำ
(หมายเหตุ –
ถ้าพบว่านิสัยของตนเองตรงกับทานข้อใดก็เลือกให้หมด และนำมาหักลบหักล้างกันได้
เช่นคุณได้บวก ๒ คะแนนสำหรับการหมั่นออกไปหาเด็กอนาถาและคนชราไร้ญาติถึงที่
เพื่อเป็นฝ่ายยื่นเสนอก่อนถูกขอ แต่ขณะเดียวกันคุณไม่ชอบทำบุญกับพระ
เพราะเห็นเป็นเรื่องสูญเปล่า ไม่มองเป็นการช่วยสืบทอดพระศาสนา
จึงขัดขวางห้ามปรามคนที่บ้านไม่ให้ทำบุญไปด้วย อย่างนี้ก็ติดลบ ๓ คะแนน
สรุปคือได้คะแนนรวมจากข้อนิสัยในการทำทานเป็นลบ ๑ คะแนน เป็นต้น)
ศีล ๕
- ๑ คะแนน สำหรับการเป็นมือสังหารสัตว์น้อยใหญ่
- ๑ คะแนน สำหรับการเป็นขโมย
- ๑ คะแนน สำหรับการเป็นชู้ และ/หรือ
การแอบเอาลูกสาวที่อยู่ในการเลี้ยงดูปกครองของผู้อื่นมาร่วมหลับนอนโดยไม่ได้รับการยินยอม
- ๑ คะแนน สำหรับการเป็นนักโกหก
- ๑ คะแนน สำหรับการเป็นพวกขี้เหล้าเมายา และ/หรือ
เสพยาบ้ายาอีเป็นประจำ
+ ๑ คะแนน สำหรับการเป็นผู้เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
+ ๑ คะแนน สำหรับการเป็นผู้เว้นขาดจากการลักขโมย
+ ๑ คะแนน สำหรับการเป็นผู้เว้นขาดจากการประพฤติผิดในกาม
+ ๑ คะแนน สำหรับการเป็นผู้เว้นขาดจากการโกหก
+ ๑ คะแนน
สำหรับการเป็นผู้เว้นขาดจากการกินเหล้าและเสพยามึนเมา
(หมายเหตุ –
ถ้าพบว่านิสัยของตนเองตรงกับศีลข้อใดก็เลือกให้หมด และนำมาหักลบหักล้างกันได้
แต่อย่าเพิ่งนำไปหักลบกับคะแนนของทาน
คุณต้องคำนวณให้ได้ผลสุดท้ายของทานกับศีลคนละชุด แล้วจึงค่อยนำมารวมกันเมื่อจะคำนวณเปรียบเทียบกับทุนเก่า
เช่นได้คะแนนทานเป็น – ๑ แล้วคะแนนศีลเป็นบวก ๒
ก็แปลว่าคุณมีคะแนนในหมวดทานและศีลเป็น +๑ เป็นต้น
อันที่จริงเรื่องของศีลนั้นละเอียดอ่อนซับซ้อนมาก ต้องจำแนกแยกแยะกันอย่างลึกซึ้ง
แต่ภาพคร่าวๆแค่ ‘ขาว’ กับ ‘ดำ’ ดังที่ยกมาให้เลือกเพียงเท่านี้
อย่างน้อยจะทำให้คุณมองตัวเองออก ว่าสว่างมากกว่ามืด หรือกะดำกะด่าง
หรือมืดทึบจนน่าเป็นห่วง)
คำนวณคะแนนเปรียบเทียบกับทุนเก่า
สำหรับผู้ที่มีทุนเก่าเป็น –๑๐
แปลว่าถ้าคำนวณหักลบหักล้างนิสัยด้านทานและศีลของคุณแล้วมีค่าเป็นบวก ๑๐ ขึ้นไป
แม้ชีวิตจะยังโน้มเอียงเป็นทุกข์สำหรับคุณ
แต่คุณจะไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจอีกต่อไป
ทว่าถ้าคุณเต็มไปด้วยความตระหนี่เข้าขั้นหวงแหนได้กระทั่งกองขยะ
หรือตั้งหน้าตั้งตาละเมิดศีลเป็นอาจิณ ชีวิตคุณจะยิ่งตกต่ำจมดินเข้าไปใหญ่
ค่อนข้างแน่นอนว่าคุณมีความมืดรออยู่ข้างหน้าถ้าต้องตายไปเดี๋ยวนี้
สำหรับผู้ที่มีทุนเก่าเป็น ๐
แปลว่าถ้าคุณเพิ่มคะแนนเพียงสองสามข้อ ชีวิตก็เป็นสุขขึ้นอย่างรู้สึกได้บ้างแล้ว
แต่หากเป็นตรงข้าม คุณเพิ่มคะแนนลบเพียงสองสามข้อ ชีวิตก็เป็นทุกข์กว่าที่ควร
ถ้าลบแค่ ๒ คะแนนอาจอยู่ในระดับจิตใจพร่ามัว เห็นผิดเป็นชอบเล็กๆน้อยๆ แต่หากลบ ๕
คะแนนขึ้นไป คุณจะเริ่มเห็นกงจักรเป็นดอกบัว ใครห้ามใครเตือนได้ยาก
สำหรับผู้ที่มีทุนเก่าเป็น +๑๐
ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเคยเล่นเกมกรรมได้เก่งเข้าขั้นอัจฉริยะ
มีความเข้ากันได้กับทานและศีลอยู่แล้ว แปลว่าถ้าศรัทธาและเต็มใจเพิ่มคะแนนบวกแม้แต่คะแนนเดียว
คุณจะรู้สึกถึงความเข้ากันได้ เป็นตัวของตัวเอง กับทั้งเห็นผลดีบางอย่างปรากฏชัด
นั่นเป็นวิธีที่บุญเก่าบอกคุณว่ามาถูกทางแล้ว
ทำเช่นนั้นควรแก่การปลาบปลื้มยินดีแล้ว
แต่หากยิ่งทำมากแล้วเกิดเรื่องดีใหม่ๆน้อยลงก็อย่าแปลกใจ เพราะเป็นการบอกกล่าวจากเกมกรรม
ว่าการทำดีที่ดีที่สุดไม่ควรหวังผล
แล้วผลจะรวบยอดงอกเงยยิ่งใหญ่ในเวลาที่คุณไม่คาดฝันไปเอง
คะแนนการหยุดเล่นเกมกรรม
ดังกล่าวแล้วในบทที่ ๙ ว่าด้วยวิธีหยุดเล่นเกมกรรม
คือเพียงเห็นโทษภัยของเกม และปลงใจหยุดเล่นเกม อะไรดีๆก็ยกขบวนตามมาอยู่แล้ว
ฉะนั้นคะแนนของการทำความเข้าใจและตกลงใจหยุดเล่นเกมกรรมจึงอาจจะสูงกระโดดเหนือข้ออื่นๆมาก
เพราะอย่างน้อยที่สุดอาการทางใจที่เริ่มปล่อยวางบ้างจะมีผลเป็นสุขทันที
ละลายทุกข์ที่มีอยู่ได้ครอบจักรวาลด้วย
๐ คะแนน สำหรับการเป็นผู้ ‘ยังไม่เห็นโทษ’ ของเกมกรรม
แม้จะได้พบและศึกษาพุทธศาสนาด้วยความเลื่อมใสบ้างแล้ว
ก็ยังอยากเล่นเกมแห่งความอาลัยในกามต่อไปเรื่อยๆ เพราะเห็นว่าอะไรๆดีอยู่แล้ว
+ ๑ คะแนน สำหรับการเป็นผู้ ‘ยังไม่เห็นโทษ’ ของเกมกรรม
แม้จะได้พบและศึกษาพุทธศาสนาด้วยความเลื่อมใสบ้างแล้ว
ก็ยังอยากเล่นเกมแห่งความอาลัยในกามต่อไป
แต่ทำบุญตั้งความปรารถนาว่าขอให้ได้บรรลุมรรคผลนิพพานในชาติใดชาติหนึ่งอันไม่เป็นที่รู้เบื้องหน้า
+ ๒ คะแนน สำหรับการเป็นผู้ ‘เห็นโทษ’
ของเกมกรรมแล้วด้วยความเข้าใจจริงๆ แต่ยังมีความกลับไปกลับมา
มีความอาลัยยึดติดอยู่กับเกมกรรม โดยเฉพาะเหยื่อล่อคือกาม
และไม่ลงมือศึกษาวิธีหยุดเล่นเกมให้จริงจัง
ทว่าขณะเดียวกันก็เริ่มยินดีฟังผู้รู้แจกแจงเรื่องมรรคผล เรื่องการปฏิบัติธรรมบ้าง
ไม่ถึงกับเมินหนีหรือปิดหูปิดตาไม่รับรู้ใดๆ
+ ๓ คะแนน สำหรับการเป็นผู้ ‘เห็นโทษ’ ของเกมกรรม
และเริ่มศึกษาวิธีหยุดเล่นเกมอย่างจริงจัง
แต่ยังเจริญสติรู้เข้ามาในขอบเขตกายใจไม่สม่ำเสมอ สลับกันระหว่างท้อถอยกับฮึกเหิม
ยังไม่เกิดผลเห็นชัดนัก
+ ๔ คะแนน สำหรับการเป็นผู้ ‘เห็นโทษ’ ของเกมกรรม
ศึกษาวิธีหยุดเล่นเกมและเริ่มลงมือปฏิบัติตน เจริญสติและระงับกาม
ได้ผลเป็นความแหนงหน่ายคลายความยินดีในเกมกรรมบ้าง
ลิ้มรสปีติสุขและโสมนัสอันเกิดจากความปล่อยวางกิเลสหยาบๆได้บ้าง
แต่จิตยังไม่ตั้งมั่น ไม่เห็นกายใจโดยความเป็นสภาวะไม่เที่ยง ไม่น่ายึดถือว่าเป็นตัวเป็นตน
+ ๖ คะแนน สำหรับการเป็นผู้ ‘เห็นโทษ’ ของเกมกรรม
เจริญสติและระงับกามได้ผลบ้างแล้ว มีจิตตั้งมั่น
เห็นกายใจโดยความเป็นสภาวะไม่เที่ยง ไม่น่ายึดถือว่าเป็นตัวเป็นตนบ้างแล้ว
แต่ยังไม่มีความเด็ดขาดแบบโสดาบันบุคคล
+ ๑๑ คะแนน สำหรับการเป็นผู้บรรลุมรรคผล
เป็นโสดาบันบุคคลผู้ ‘เห็นความจริง’ อันสูงสุดเหนือเกมกรรม คือเห็นนิพพานแล้ว
ไม่สงสัยในพระพุทธเจ้าและวิธีดำเนินเพื่อเข้าถึงมรรคผลนิพพานแล้ว
ปิดทางไปสู่ทุคติได้เด็ดขาดแล้ว สำหรับ ๑๑ คะแนนพิเศษเหมือนโบนัสใหญ่ข้อนี้
ได้มาเพราะโสดาบันบุคคลมีแต่ขึ้นกับขึ้น
ความเป็นโสดาบันประกันว่าชีวิตที่เหลือจะไม่ดูดายในการทำบุญ
ไม่หลงตกต่ำเกินไปเพราะบุญใหญ่มีกำลังให้สำนึกผิดได้เร็ว
คำนวณคะแนนเปรียบเทียบกับทุนเก่า
สำหรับผู้ที่มีทุนเก่าเป็น –๑๐
แปลว่าถ้าคุณบรรลุมรรคผลเป็นโสดาบันบุคคล ได้คะแนนเป็นบวก ๑๑ ชีวิตคุณจะเปลี่ยนจากทุกข์เป็นสุข
คือใจเป็นสุขแม้ยังต้องเสวยทุกข์ทางกายอยู่
และมีแนวโน้มจะสุขยิ่งๆขึ้นทั้งกายทั้งใจด้วยอำนาจโสดาปัตติผล
แม้ตายเดี๋ยวนี้ก็เที่ยงที่จะมีความสว่างรออยู่เบื้องหน้า
หากไม่บรรลุมรรคผลขั้นสูงขึ้นก็เที่ยงที่จะได้บรรลุอรหัตตผลในกาลต่อไปภายในไม่เกิน
๗ ชาติเป็นอย่างช้า
สำหรับผู้ที่มีทุนเก่าเป็น ๐
แปลว่าถ้าคุณเพิ่มคะแนนจากการตัดสินใจยุติเกมสัก ๒-๓
คะแนนก็น่าจะอิ่มเอิบขึ้นเล็กน้อย แต่หากได้สัก ๔ คะแนน
ชีวิตจะเป็นสุขขึ้นอย่างชัดเจนมาก
สำหรับผู้ที่มีทุนเก่าเป็น +๑๐
ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามีปัจจัยพร้อมจะหยุดเล่นเกมกว่าใคร
แต่ขณะเดียวกันก็มีปัจจัยดีๆให้ยึดติดอาลัยเกินคนอื่นด้วย
คุณจะมีความสุขแบบผิวๆไม่แจ่มชัดแม้ได้คะแนนมากถึงบวก ๔
แต่คุณจะเริ่มหยุดอาลัยหากคะแนนดีดขึ้นไปถึง ๖
และแน่นอนคุณจะรู้สึกเป็นสุขเกินพรรณนาหากได้บรรลุมรรคผลเป็นโสดาบันบุคคล เนื่องจากสุขทางกายยังไม่หายไปไหน
สุขทางใจอันพ้นคำบรรยายก็แถมพ่วงเข้ามาอีก
คุณจะเป็นผู้สามารถยืนยันกับชาวโลกได้น่าเชื่อถือกว่าใคร
ว่ารสอันเหนือรสทั้งปวงคือนิพพาน
ไม่มีรสอื่นใดหวานชื่นและแสนมหัศจรรย์เกินไปกว่านี้อีกแล้ว
ในบทสุดท้ายข้างหน้า จะแสดงให้คุณเห็นภาพรวมทั้งหมดของตนเอง
ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
อ่านต่อบทที่ ๑๑ (บทสุดท้าย) >>
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น