วันพฤหัสบดีที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2560

เกมกรรม บทที่ ๑๐ - คะแนนใหม่ (ดังตฤณ)

คุณจะไม่รู้ตัวว่าตัดสินใจถูก จนกว่าผลดีจะแสดงตัวให้เห็น

ความหมายของคะแนนใหม่

คะแนนใหม่หมายถึงกรรมในปัจจุบันซึ่งคุณมีความตั้งมั่นแล้ว คือประพฤติปฏิบัติหรือทำได้อย่างต่อเนื่องเป็นปีๆ หัวข้อนี้มุ่งเอาคะแนนใหม่ไปใช้คำนวณกับฐานคะแนนเดิมในบทที่ ๓ เพื่อรู้คร่าวๆว่าคุณเล่นเกมกรรมมาถึงไหน มีความสุขและความพร้อมจะพัฒนาตนไปสู่ความมีชีวิตที่คิดไม่ถึงมากน้อยเพียงใด เมื่อรู้ภาพใหญ่ภาพรวม ก็ไม่ต้องคำนึงถึงเหตุผลหรือรายละเอียดปลีกย่อยเป็นเรื่องๆ เพราะเมื่อชีวิตน่าพอใจ ใจก็ควรจะพอกับทุกเรื่อง (หากไม่เคยคำนวณคะแนนของตัวเองในบทที่ ๓ ไว้ ขอให้กลับไปอ่านและทำความเข้าใจเสียก่อน เนื่องจากตลอดบทนี้ต้องใช้คะแนนอันเป็นทุนเดิมมาเป็นตัวตั้งในการคำนวณ)

ความเข้าใจเรื่องคะแนนใหม่เป็นอย่างดีนั้น จะทำให้คุณถอยไปก้าวหนึ่ง แล้วมองเห็นเกมกรรมชัดเจนกว่าเดิม นั่นคือคนส่วนใหญ่ตกอยู่ภายใต้กระแสซัดพาของพลังกรรมเก่า โดยไม่ค่อยจะลงมือทำบุญให้อะไรๆดีขึ้น ได้แต่ดิ้นรนเรื่องเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง หรือถ้าจะคิดปรับปรุงชะตาชีวิตให้ดีขึ้น ก็มักนึกถึงผีสางเทวดากับเคล็ดลางต่างๆนานา ซึ่งอาจเกิดผลบวกหลอกๆให้ดีใจเล่นเดี๋ยวเดียว แต่ในระยะยาวไม่ได้มีอะไรดีขึ้นจริงเลย ทั้งนี้ก็เพราะชะตาชีวิตของคนถูกคุมอยู่ด้วยกรรม ไม่ใช่ผีสางเทวดาหรือเคล็ดลางใดๆ หากหยั่งรู้อย่างแท้จริง คุณก็จะทราบว่าแม้ผีสางเทวดาก็ตกอยู่ใต้อำนาจกรรม และเคล็ดลางใดๆจะเกิดผลกับใครก็ขึ้นอยู่กับกรรมของคนๆนั้นนำไป สรุปคือ กรรมนั่นเองมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการจัดสรรให้สิ่งต่างๆเป็นไปตามสมควรแก่เหตุผลเดิมและเหตุผลใหม่

และเช่นกัน การคำนวณคะแนนให้เห็นชัดๆในบทนี้ คงทำให้ทุกคนเข้าใจว่าเหตุใดทำดีจึงเหมือนไม่ได้ดี อันที่จริงคือได้ แต่อาจช้าไปหน่อย โดยเฉพาะในกรณีที่คุณยังมีคะแนนติดลบอยู่มากๆ

นอกจากนั้น เมื่อคุณเห็นวิธีคำนวณคะแนนใหม่บนฐานของคะแนนเก่าแล้ว ก็จะรู้สึกเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาประการหนึ่ง นั่นคือ ถ้าคุณไม่ทำบุญเพิ่ม คุณก็เกือบๆจะทำบาปแล้ว เนื่องจากการใช้ชีวิตแบบได้คะแนนศูนย์นั้น เป็นไปได้ยากยิ่ง ตราบใดยังอยู่ในเกม ตราบนั้นมักมีคะแนนบวกกับคะแนนลบเกิดขึ้นเสมอ โดยเฉพาะในเกมกรรมแบบมนุษย์ที่มีแรงบีบคั้นมากมายตลอดเวลา

ถ้าคุณพบว่าคะแนนใหม่กับคะแนนเก่ามีความสัมพันธ์กันดังที่จะแสดงในบทนี้จริง คุณก็จะเห็นด้วยว่าการจะมีชีวิตใหม่ไม่ได้หมายถึงปรับแก้เพียงจุดบอดเล็กๆแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น เช่นถ้าอยากได้คนรักดีๆ คุณต้องปรับเปลี่ยนตัวเองหลายๆแง่หลายๆมุม อย่างน้อยให้มีความคู่ควรกับคนดีๆที่คุณใฝ่หาเสียก่อน ไม่ใช่แค่แต่งตัวให้ดูดีมีเสน่ห์ ไม่ใช่แค่ฝึกพูดเพราะๆเอาใจคน ไม่ใช่แม้กระทั่งแค่ตั้งจิตคิดสัตย์ซื่อ สาบานว่าจะมีรักเดียวใจเดียว คุณต้องมีคะแนนรวมมากพอจะดึงดูดเจ้าชายหรือเจ้าหญิงในฝันเข้ามาหา

เมื่อส่องสำรวจตรวจตราคะแนนใหม่ของตนเองในหลายแง่หลายมุม คุณจะตระหนักว่าการเพิ่มคะแนนมิใช่เรื่องง่าย ทว่าก็ใช่จะยากเกินเอื้อม เมื่อลงสนามแข่งจริง เกมกรรมอาจส่งแรงบีบคั้นไม่ให้พัฒนาตัวเองได้ง่ายนัก แม้ใครเชื่อแล้วว่าตัวเองกำลังเล่นเกมกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว แต่ก็จะมีข้ออ้างกันเกือบร้อยทั้งร้อยว่า ยังทำดีไม่ได้ในตอนนี้ ต้องขอทำชั่วไปก่อน ถ้าคิดอย่างนี้ก็ควรทราบว่าเกมกรรมกำลังส่งปัจจัยบีบคั้นมาปั่นหัวให้นึกท้อ นี่จะนับว่าน่าเห็นใจที่เกมกรรมเล่นยากก็ได้ หรือจะสะท้อนให้เห็นว่าคุณยังไม่ใจเด็ดพอจะมีชีวิตใหม่ที่คิดไม่ถึงก็ได้

ในบทนี้จะไม่มีตัวแปรในการให้ผลดังกล่าวในบทที่ ๗ เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักเจตนา ระยะเวลาที่พากเพียรทำให้สำเร็จ ฯลฯ เนื่องจากตัวแปรอื่นๆจะกลายเป็นตัวบวกและตัวคูณที่ก่อให้เกิดความซับซ้อนสูงเกินกว่าจะแยกแยะได้หมด แต่บทนี้จะแสดงให้คุณเห็นภาพใหญ่อย่างคร่าวที่ใกล้เคียงความเป็นจริง และก่อให้เกิดความเข้าใจเรื่องการคานอำนาจระหว่างกรรมเก่ากับกรรมใหม่ ตลอดจนเห็นจริงเห็นจังขึ้นมาว่าตัวแปรเกี่ยวกับกรรมและผลของกรรมนั้น มีมากไม่จำกัดอย่างไร

ก่อนเข้าเรื่องคะแนนใหม่ ขอย้ำกฎของเกมกรรมให้เป็นที่เข้าใจอีกครั้ง คือบุญกับบาปต่างจะแยกกันให้ผล ไม่ใช่หักลบกันแล้วไม่เกิดผล จุดสำคัญคือเมื่อเกิดผลดีร้ายพร้อมกัน ความรู้สึกของคุณจะไม่ดีเสียทีเดียว และไม่แย่ไปเสียหมด การแสดงคะแนนใหม่จึงถูกจัดหมวดหมู่ที่เข้ากันได้ และทำให้คุณรู้สึกว่ากรรมในหมวดหมู่เดียวกันคานน้ำหนักกันได้จริงๆ


คะแนนการใช้หนี้



หนี้บุญคุณกับหนี้บาปเวรจัดอยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน เพราะต่างก็เป็นหนี้ ซึ่งถ้าไม่ชดใช้ก็จะโดนเกมกรรมตามทวงเรื่อยไป


หนี้บุญคุณพ่อแม่

- ๕ คะแนน สำหรับการขัดขวางพ่อแม่ไม่ให้ได้เห็นถูกเห็นชอบ เช่นโน้มน้าวให้เปลี่ยนศาสนา เลิกศรัทธาพระพุทธเจ้า เลิกศรัทธากรรมวิบาก เลิกทำทานรักษาศีล

- ๓ คะแนน สำหรับการทำให้พ่อแม่เป็นทุกข์ทางกาย เช่นทิ้งพ่อแม่โดยไม่สนใจว่าจะอดตายอยู่ที่ไหน ทุบตีพ่อแม่ ใช้พ่อแม่ทำงานหาเงินให้ตนแม้แก่ชราแล้ว

- ๒ คะแนน สำหรับการทำให้พ่อแม่เป็นทุกข์ทางใจอย่างเดียว เช่นพูดให้เจ็บช้ำน้ำใจ หรือโกรธกันแล้วตัดการติดต่อ ปฏิเสธไม่พบกันอีกแม้ท่านร้องขอ

๐ คะแนน สำหรับการไม่รู้ว่าพ่อแม่อยู่ที่ไหนมาตั้งแต่เกิด

+ ๒ คะแนน สำหรับการทำให้พ่อแม่เป็นสุขทางใจอย่างเดียวได้

+ ๓ คะแนน สำหรับการทำให้พ่อแม่เป็นสุขทางใจและเลี้ยงดูกายท่านให้สบายได้

+ ๕ คะแนน สำหรับการเปลี่ยนท่านจากความเห็นผิดให้เห็นชอบ ศรัทธาพระพุทธเจ้า ศรัทธากรรมวิบาก มีความตั้งมั่นในทานและศีลได้


หนี้บาปเวร

- ๕ คะแนน สำหรับการเหยียบย่ำทำลายพุทธศาสนา โน้มน้าวให้ผู้นับถือศาสนาพุทธเลิกนับถือเสียหรือเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่น โดยการโจมตีว่าพุทธเป็นศาสนาที่สอนผิด

- ๓ คะแนน สำหรับการฆ่ามนุษย์ด้วยโทสะและอาการแห่งการผูกเวร

- ๒ คะแนน สำหรับการหาทางทำร้ายศัตรูให้บาดเจ็บทางกาย หรืออย่างน้อยต้องพูดทิ่มตำกันให้เจ็บใจอย่างรุนแรง

- ๑ คะแนน สำหรับการผูกใจเจ็บกับทุกคนที่ทำให้ไม่พอใจ หรือการพูดทิ่มแทงกันให้ขุ่นเคืองไม่พอใจกลับคืน

๐ คะแนน สำหรับคนที่ไม่เจอใครทำให้รู้สึกเป็นศัตรูหรือทำกันและกันให้เจ็บใจเลย

+ ๑ คะแนน สำหรับการให้อภัยทุกคนที่ทำให้คุณไม่พอใจได้ โดยไม่คิดผูกเวรด้วยการโต้ตอบแบบศัตรู แม้ยังมีความโกรธอยู่ในใจ

+ ๒ คะแนน สำหรับการให้อภัยทุกคนที่ทำให้คุณไม่พอใจได้ โดยไม่คิดผูกเวรด้วยการโต้ตอบแบบศัตรู กับทั้งไม่มีความโกรธ แต่กลับเยือกเย็นด้วยความปรารถนาดีจริงใจกับเขา

+ ๓ คะแนน สำหรับการให้ความช่วยเหลือคนที่ทำร้ายคุณก่อนด้วยความบริสุทธิ์ใจ

+ ๕ คะแนน สำหรับการให้อภัย มีเมตตา และสามารถเปลี่ยนศัตรูเป็นมิ่งมิตรด้วยการทำตัวเป็นเหตุให้เขาเปลี่ยนจากความเห็นผิดให้เห็นชอบ ศรัทธาพระพุทธเจ้า ศรัทธากรรมวิบาก มีความตั้งมั่นในทานและศีลได้


คำนวณคะแนนเปรียบเทียบกับทุนเก่า



สำหรับผู้ที่มีทุนเก่าเป็น –๑๐ แปลว่าถ้าคุณได้คะแนนเต็มจากการใช้หนี้บุญคุณเป็นบวก ๕  และได้คะแนนเต็มจากการใช้หนี้บาปเวรอีกบวก ๕ จะเกิดปริมาณความสุขในระดับพอดีกับทุกข์ แม้ชีวิตจะยังโน้มเอียงเป็นทุกข์สำหรับคุณ แต่คุณจะไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจอีกต่อไป ทว่าถ้าคุณตั้งหน้าตั้งตาทำคะแนนลบต่อ ชีวิตคุณจะยิ่งตกต่ำจมดินเข้าไปใหญ่ ประมาณไม่ถูกว่าจะสาหัสสากรรจ์เพียงใด กล่าวได้ว่าชีวิตมนุษย์ครั้งนี้ของคุณเป็นการ ‘ขึ้นมา’ เพียงเพื่อจะ ‘ลงต่ำ’ หนักกว่าเดิม

สำหรับผู้ที่มีทุนเก่าเป็น ๐ แปลว่าถ้าคุณเพิ่มคะแนนเพียงสองสามข้อ ชีวิตก็เป็นสุขขึ้นอย่างรู้สึกได้บ้างแล้ว แต่หากเป็นตรงข้าม คุณเพิ่มคะแนนลบเพียงสองสามข้อ ชีวิตก็เป็นทุกข์กว่าที่ควร ถ้าลบแค่ ๒ คะแนนอาจอยู่ในระดับหงุดหงิด แต่หากลบ ๓ คะแนนขึ้นไป คุณจะว้าวุ่นและโกรธง่ายหายยาก และถ้าลบ ๕ คะแนนขึ้นไป คุณจะรู้สึกเหมือนสูญเสียชีวิตเก่า มีชีวิตใหม่ที่เต็มไปด้วยบาดแผลทางใจ เยียวยายาก

สำหรับผู้ที่มีทุนเก่าเป็น +๑๐ ซึ่งสมบูรณ์พูนสุขอย่างยิ่ง แปลว่าต้องเพิ่มคะแนนบวกให้ได้เกิน ๕ คะแนน คุณถึงจะรู้สึกเป็นสุขขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่โดยทั่วไป หากคุณเป็นพวกบวก ๑๐ แนวโน้มคือคุณจะมาเพิ่มคะแนนให้กับตนเองด้วยการใช้หนี้บุญคุณ และไม่เพิ่มหนี้บาปให้ตนเองมากนักอยู่แล้ว


คะแนนของทานและศีล



ทานกับศีลถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน เพราะต่างก็เป็นการสละออก คือสละความตระหนี่ และสละพฤติกรรมสกปรก สำหรับการให้ทานนั้นจะเรียก ‘มหาทาน’ ก็ต่อเมื่อเป็นทานที่ยิ่งใหญ่ ได้ประโยชน์ไพศาลกับตนและคนหมู่มาก แต่สำหรับการรักษาศีลนั้น อย่างไรก็เรียก ‘มหาทาน’ โดยไม่จำเป็นต้องตกแต่งด้วยปัจจัยยิ่งใหญ่อลังการแต่อย่างใด เนื่องจากเพียงถือศีลให้สะอาดทุกข้อ คุณย่อมได้ชื่อว่าไม่เบียดเบียนตน ไม่เบียดเบียนคนอื่น ทำโลกส่วนที่ได้รับผลกระทบจากชีวิตคุณให้เย็นลงอย่างไพบูลย์อยู่แล้ว


ทาน

- ๕ คะแนน สำหรับการขัดขวางผู้อื่นมิให้ให้ธรรมทานแก่สาธารณชนเป็นประจำ

- ๓ คะแนน สำหรับการขัดขวางหรือบั่นทอนกำลังใจผู้คิดถวายสังฆทาน

- ๒ คะแนน สำหรับการมีส่วนเกิน ให้ได้แต่ไม่ให้ ทั้งที่มีผู้สมควรได้รับอ้อนวอนขอ

- ๑ คะแนน สำหรับการมีส่วนเกิน ให้ได้แต่ไม่ให้ ทั้งที่พบเห็นผู้สมควรได้รับ

+ ๑ คะแนน สำหรับการให้ส่วนเกินของคุณตามที่คนอื่นขอ

+ ๒ คะแนน สำหรับการหมั่นออกไปหาผู้รับถึงที่เพื่อเป็นฝ่ายยื่นเสนอก่อนถูกขอ

+ ๓ คะแนน สำหรับการถวายทานน้อยใหญ่แด่สงฆ์เป็นประจำ

+ ๕ คะแนน สำหรับการให้ธรรมะที่ถูกต้องเป็นทานแก่สาธารณชนเป็นประจำ



(หมายเหตุ – ถ้าพบว่านิสัยของตนเองตรงกับทานข้อใดก็เลือกให้หมด และนำมาหักลบหักล้างกันได้ เช่นคุณได้บวก ๒ คะแนนสำหรับการหมั่นออกไปหาเด็กอนาถาและคนชราไร้ญาติถึงที่ เพื่อเป็นฝ่ายยื่นเสนอก่อนถูกขอ แต่ขณะเดียวกันคุณไม่ชอบทำบุญกับพระ เพราะเห็นเป็นเรื่องสูญเปล่า ไม่มองเป็นการช่วยสืบทอดพระศาสนา จึงขัดขวางห้ามปรามคนที่บ้านไม่ให้ทำบุญไปด้วย อย่างนี้ก็ติดลบ ๓ คะแนน สรุปคือได้คะแนนรวมจากข้อนิสัยในการทำทานเป็นลบ ๑ คะแนน เป็นต้น)


ศีล ๕

- ๑ คะแนน สำหรับการเป็นมือสังหารสัตว์น้อยใหญ่

- ๑ คะแนน สำหรับการเป็นขโมย

- ๑ คะแนน สำหรับการเป็นชู้ และ/หรือ การแอบเอาลูกสาวที่อยู่ในการเลี้ยงดูปกครองของผู้อื่นมาร่วมหลับนอนโดยไม่ได้รับการยินยอม

- ๑ คะแนน สำหรับการเป็นนักโกหก

- ๑ คะแนน สำหรับการเป็นพวกขี้เหล้าเมายา และ/หรือ เสพยาบ้ายาอีเป็นประจำ

+ ๑ คะแนน สำหรับการเป็นผู้เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต

+ ๑ คะแนน สำหรับการเป็นผู้เว้นขาดจากการลักขโมย

+ ๑ คะแนน สำหรับการเป็นผู้เว้นขาดจากการประพฤติผิดในกาม

+ ๑ คะแนน สำหรับการเป็นผู้เว้นขาดจากการโกหก

+ ๑ คะแนน สำหรับการเป็นผู้เว้นขาดจากการกินเหล้าและเสพยามึนเมา



(หมายเหตุ – ถ้าพบว่านิสัยของตนเองตรงกับศีลข้อใดก็เลือกให้หมด และนำมาหักลบหักล้างกันได้ แต่อย่าเพิ่งนำไปหักลบกับคะแนนของทาน คุณต้องคำนวณให้ได้ผลสุดท้ายของทานกับศีลคนละชุด แล้วจึงค่อยนำมารวมกันเมื่อจะคำนวณเปรียบเทียบกับทุนเก่า เช่นได้คะแนนทานเป็น – ๑ แล้วคะแนนศีลเป็นบวก ๒ ก็แปลว่าคุณมีคะแนนในหมวดทานและศีลเป็น +๑ เป็นต้น อันที่จริงเรื่องของศีลนั้นละเอียดอ่อนซับซ้อนมาก ต้องจำแนกแยกแยะกันอย่างลึกซึ้ง แต่ภาพคร่าวๆแค่ ‘ขาว’ กับ ‘ดำ’ ดังที่ยกมาให้เลือกเพียงเท่านี้ อย่างน้อยจะทำให้คุณมองตัวเองออก ว่าสว่างมากกว่ามืด หรือกะดำกะด่าง หรือมืดทึบจนน่าเป็นห่วง)


คำนวณคะแนนเปรียบเทียบกับทุนเก่า



สำหรับผู้ที่มีทุนเก่าเป็น –๑๐ แปลว่าถ้าคำนวณหักลบหักล้างนิสัยด้านทานและศีลของคุณแล้วมีค่าเป็นบวก ๑๐ ขึ้นไป แม้ชีวิตจะยังโน้มเอียงเป็นทุกข์สำหรับคุณ แต่คุณจะไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจอีกต่อไป ทว่าถ้าคุณเต็มไปด้วยความตระหนี่เข้าขั้นหวงแหนได้กระทั่งกองขยะ หรือตั้งหน้าตั้งตาละเมิดศีลเป็นอาจิณ ชีวิตคุณจะยิ่งตกต่ำจมดินเข้าไปใหญ่ ค่อนข้างแน่นอนว่าคุณมีความมืดรออยู่ข้างหน้าถ้าต้องตายไปเดี๋ยวนี้

สำหรับผู้ที่มีทุนเก่าเป็น ๐ แปลว่าถ้าคุณเพิ่มคะแนนเพียงสองสามข้อ ชีวิตก็เป็นสุขขึ้นอย่างรู้สึกได้บ้างแล้ว แต่หากเป็นตรงข้าม คุณเพิ่มคะแนนลบเพียงสองสามข้อ ชีวิตก็เป็นทุกข์กว่าที่ควร ถ้าลบแค่ ๒ คะแนนอาจอยู่ในระดับจิตใจพร่ามัว เห็นผิดเป็นชอบเล็กๆน้อยๆ แต่หากลบ ๕ คะแนนขึ้นไป คุณจะเริ่มเห็นกงจักรเป็นดอกบัว ใครห้ามใครเตือนได้ยาก

สำหรับผู้ที่มีทุนเก่าเป็น +๑๐ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเคยเล่นเกมกรรมได้เก่งเข้าขั้นอัจฉริยะ มีความเข้ากันได้กับทานและศีลอยู่แล้ว แปลว่าถ้าศรัทธาและเต็มใจเพิ่มคะแนนบวกแม้แต่คะแนนเดียว คุณจะรู้สึกถึงความเข้ากันได้ เป็นตัวของตัวเอง กับทั้งเห็นผลดีบางอย่างปรากฏชัด นั่นเป็นวิธีที่บุญเก่าบอกคุณว่ามาถูกทางแล้ว ทำเช่นนั้นควรแก่การปลาบปลื้มยินดีแล้ว แต่หากยิ่งทำมากแล้วเกิดเรื่องดีใหม่ๆน้อยลงก็อย่าแปลกใจ เพราะเป็นการบอกกล่าวจากเกมกรรม ว่าการทำดีที่ดีที่สุดไม่ควรหวังผล แล้วผลจะรวบยอดงอกเงยยิ่งใหญ่ในเวลาที่คุณไม่คาดฝันไปเอง


คะแนนการหยุดเล่นเกมกรรม



ดังกล่าวแล้วในบทที่ ๙ ว่าด้วยวิธีหยุดเล่นเกมกรรม คือเพียงเห็นโทษภัยของเกม และปลงใจหยุดเล่นเกม อะไรดีๆก็ยกขบวนตามมาอยู่แล้ว ฉะนั้นคะแนนของการทำความเข้าใจและตกลงใจหยุดเล่นเกมกรรมจึงอาจจะสูงกระโดดเหนือข้ออื่นๆมาก เพราะอย่างน้อยที่สุดอาการทางใจที่เริ่มปล่อยวางบ้างจะมีผลเป็นสุขทันที ละลายทุกข์ที่มีอยู่ได้ครอบจักรวาลด้วย



๐ คะแนน สำหรับการเป็นผู้ ‘ยังไม่เห็นโทษ’ ของเกมกรรม แม้จะได้พบและศึกษาพุทธศาสนาด้วยความเลื่อมใสบ้างแล้ว ก็ยังอยากเล่นเกมแห่งความอาลัยในกามต่อไปเรื่อยๆ เพราะเห็นว่าอะไรๆดีอยู่แล้ว

+ ๑ คะแนน สำหรับการเป็นผู้ ‘ยังไม่เห็นโทษ’ ของเกมกรรม แม้จะได้พบและศึกษาพุทธศาสนาด้วยความเลื่อมใสบ้างแล้ว ก็ยังอยากเล่นเกมแห่งความอาลัยในกามต่อไป แต่ทำบุญตั้งความปรารถนาว่าขอให้ได้บรรลุมรรคผลนิพพานในชาติใดชาติหนึ่งอันไม่เป็นที่รู้เบื้องหน้า

+ ๒ คะแนน สำหรับการเป็นผู้ ‘เห็นโทษ’ ของเกมกรรมแล้วด้วยความเข้าใจจริงๆ แต่ยังมีความกลับไปกลับมา มีความอาลัยยึดติดอยู่กับเกมกรรม โดยเฉพาะเหยื่อล่อคือกาม และไม่ลงมือศึกษาวิธีหยุดเล่นเกมให้จริงจัง ทว่าขณะเดียวกันก็เริ่มยินดีฟังผู้รู้แจกแจงเรื่องมรรคผล เรื่องการปฏิบัติธรรมบ้าง ไม่ถึงกับเมินหนีหรือปิดหูปิดตาไม่รับรู้ใดๆ

+ ๓ คะแนน สำหรับการเป็นผู้ ‘เห็นโทษ’ ของเกมกรรม และเริ่มศึกษาวิธีหยุดเล่นเกมอย่างจริงจัง แต่ยังเจริญสติรู้เข้ามาในขอบเขตกายใจไม่สม่ำเสมอ สลับกันระหว่างท้อถอยกับฮึกเหิม ยังไม่เกิดผลเห็นชัดนัก

+ ๔ คะแนน สำหรับการเป็นผู้ ‘เห็นโทษ’ ของเกมกรรม ศึกษาวิธีหยุดเล่นเกมและเริ่มลงมือปฏิบัติตน เจริญสติและระงับกาม ได้ผลเป็นความแหนงหน่ายคลายความยินดีในเกมกรรมบ้าง ลิ้มรสปีติสุขและโสมนัสอันเกิดจากความปล่อยวางกิเลสหยาบๆได้บ้าง แต่จิตยังไม่ตั้งมั่น ไม่เห็นกายใจโดยความเป็นสภาวะไม่เที่ยง ไม่น่ายึดถือว่าเป็นตัวเป็นตน

+ ๖ คะแนน สำหรับการเป็นผู้ ‘เห็นโทษ’ ของเกมกรรม เจริญสติและระงับกามได้ผลบ้างแล้ว มีจิตตั้งมั่น เห็นกายใจโดยความเป็นสภาวะไม่เที่ยง ไม่น่ายึดถือว่าเป็นตัวเป็นตนบ้างแล้ว แต่ยังไม่มีความเด็ดขาดแบบโสดาบันบุคคล

+ ๑๑ คะแนน สำหรับการเป็นผู้บรรลุมรรคผล เป็นโสดาบันบุคคลผู้ ‘เห็นความจริง’ อันสูงสุดเหนือเกมกรรม คือเห็นนิพพานแล้ว ไม่สงสัยในพระพุทธเจ้าและวิธีดำเนินเพื่อเข้าถึงมรรคผลนิพพานแล้ว ปิดทางไปสู่ทุคติได้เด็ดขาดแล้ว สำหรับ ๑๑ คะแนนพิเศษเหมือนโบนัสใหญ่ข้อนี้ ได้มาเพราะโสดาบันบุคคลมีแต่ขึ้นกับขึ้น ความเป็นโสดาบันประกันว่าชีวิตที่เหลือจะไม่ดูดายในการทำบุญ ไม่หลงตกต่ำเกินไปเพราะบุญใหญ่มีกำลังให้สำนึกผิดได้เร็ว


คำนวณคะแนนเปรียบเทียบกับทุนเก่า



สำหรับผู้ที่มีทุนเก่าเป็น –๑๐ แปลว่าถ้าคุณบรรลุมรรคผลเป็นโสดาบันบุคคล ได้คะแนนเป็นบวก ๑๑ ชีวิตคุณจะเปลี่ยนจากทุกข์เป็นสุข คือใจเป็นสุขแม้ยังต้องเสวยทุกข์ทางกายอยู่ และมีแนวโน้มจะสุขยิ่งๆขึ้นทั้งกายทั้งใจด้วยอำนาจโสดาปัตติผล แม้ตายเดี๋ยวนี้ก็เที่ยงที่จะมีความสว่างรออยู่เบื้องหน้า หากไม่บรรลุมรรคผลขั้นสูงขึ้นก็เที่ยงที่จะได้บรรลุอรหัตตผลในกาลต่อไปภายในไม่เกิน ๗ ชาติเป็นอย่างช้า

สำหรับผู้ที่มีทุนเก่าเป็น ๐ แปลว่าถ้าคุณเพิ่มคะแนนจากการตัดสินใจยุติเกมสัก ๒-๓ คะแนนก็น่าจะอิ่มเอิบขึ้นเล็กน้อย แต่หากได้สัก ๔ คะแนน ชีวิตจะเป็นสุขขึ้นอย่างชัดเจนมาก

สำหรับผู้ที่มีทุนเก่าเป็น +๑๐ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามีปัจจัยพร้อมจะหยุดเล่นเกมกว่าใคร แต่ขณะเดียวกันก็มีปัจจัยดีๆให้ยึดติดอาลัยเกินคนอื่นด้วย คุณจะมีความสุขแบบผิวๆไม่แจ่มชัดแม้ได้คะแนนมากถึงบวก ๔ แต่คุณจะเริ่มหยุดอาลัยหากคะแนนดีดขึ้นไปถึง ๖ และแน่นอนคุณจะรู้สึกเป็นสุขเกินพรรณนาหากได้บรรลุมรรคผลเป็นโสดาบันบุคคล เนื่องจากสุขทางกายยังไม่หายไปไหน สุขทางใจอันพ้นคำบรรยายก็แถมพ่วงเข้ามาอีก คุณจะเป็นผู้สามารถยืนยันกับชาวโลกได้น่าเชื่อถือกว่าใคร ว่ารสอันเหนือรสทั้งปวงคือนิพพาน ไม่มีรสอื่นใดหวานชื่นและแสนมหัศจรรย์เกินไปกว่านี้อีกแล้ว




ในบทสุดท้ายข้างหน้า จะแสดงให้คุณเห็นภาพรวมทั้งหมดของตนเอง ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

อ่านต่อบทที่ ๑๑ (บทสุดท้าย) >>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น