วันพุธที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

01 รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน ร่วมนั่งสมาธิ

ดังตฤณ : วันนี้ จะมีการนั่งสมาธิร่วมกัน และเป็นการถือโอกาสเปิดตัว  ‘เสียงสติ’  ซีรีส์ใหม่

 

หลายท่านที่ติดตามเพจดังตฤณ ก็คงจะคุ้นเคยกับ  เสียงสติ’ ดีแล้ว แต่ว่า หลายๆ ท่านที่เพิ่งจะมาทำความรู้จักกัน ก็อาจจะไม่คุ้นเคย อาจจะไม่ได้ รู้จักกับ  เสียงสติ’  หรือว่าจะมีความรู้พื้นฐานว่า เสียงสติ’ คืออะไร จะยังไม่ค่อยเข้าใจกัน

 

เพราะฉะนั้นช่วงเริ่มต้น ก็จะอธิบายถึงความเป็น ‘เสียงสติ’ สักนิดหนึ่ง ไม่อย่างนั้น นั่งสมาธิกันไปแล้วก็อาจจะไม่รู้ว่า เรานั่งกันเพื่ออะไร ทำไมต้องมีเสียง อือๆ-ออๆ ก้องอยู่ในหูด้วย

 

ต้องใช้หูฟังนะครับ สำหรับท่านที่เพิ่งมา ถ้าจะนั่งสมาธิร่วมกัน เพราะเป็นการใช้เทคโนโลยีทางเสียง มาช่วยทำให้สมองเรามีคลื่นสมองย่านช้าที่เด่นขึ้นมานะครับ เพราะฉะนั้น เดี๋ยวเรามาอธิบายกันว่า ทำไมถึงต้องใช้เฮดโฟนหรือว่าหูฟังนะครับ

 

หลายท่านถามว่าไม่ใช่ไม่ได้หรือ เอาแค่ลำโพงเปิดธรรมดาได้ไหม

 

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจ เอาแบบง่ายๆ ลัดๆ สั้นๆ ที่สุดนะครับ คือว่าถ้าเราปล่อยคลื่นสองคลื่น ที่มีค่าความถี่ต่างกันไปในอากาศ ผลคือจะมีการหักล้าง แล้วก็เสริมคลื่นกัน แล้วก็มาเข้าหูเรา เรียกว่าเป็นอะคูสติกบีทส์ (acoustic beats)





ซึ่งเสียงที่ออกมานั้น ไม่ได้ทำให้สมองของเราทำงานเป็นพิเศษ หรือว่าเกิดความแตกต่างอะไรขึ้นมา ถ้าเป็นเสียงที่น่ารำคาญ เราก็จะรำคาญไปเฉยๆ แต่ถ้าเป็นเสียงที่น่าฟัง ก็จะรู้สึกว่ามีความสุขที่จะได้ฟัง แต่ไม่ได้มีผลอะไรเป็นพิเศษกับสมอง เราชอบหรือไม่ชอบนี่ เป็นเรื่องของจิตใจ

 

ทีนี้ถ้าเป็น Binaural Beats (ไบเนอรัล บีทส์ : คู่คลื่นเสียงที่จูนสมอง ให้ช้าหรือเร็วขึ้นได้) นะครับ มาทำความเข้าใจกัน

 

ก่อนที่จะมาเป็น ‘เสียงสติ’ จะมีความเป็น ไบเนอรัล บีทส์ ก่อนเป็นมูลฐานนะครับ

 

ไบเนอรัล บีทส์ คืออะไร .. เขาค้นพบกันมาเป็นร้อยปีแล้วนะว่า คือคู่คลื่นเสียง ที่สามารถจูนคลื่นสมองให้ช้าลง หรือเร็วขึ้นได้ คือคลื่นสมองไม่ได้มีอยู่ย่านเดียว แต่มีหลายย่าน

 

ถ้าย่านช้า เป็นย่านที่เด่นที่สุด

ผลคือเราจะรู้สึกว่าจิตใจสงบ มีความพร้อมจะนั่งสมาธิ

แต่ถ้าหากว่าคลื่นยุ่งเหยิง คลื่นย่านเร็วเด่นนำ มีความยุ่งเหยิงไม่สมดุล

เราจะรู้สึกว่าเราฟุ้งซ่านจัด ไม่สามารถที่จะจดจ่ออยู่กับอะไรได้ ไม่สามารถจะโฟกัสกับอะไรได้

 

ทีนี้ ถ้าหากว่ามี ไบเนอรัล บีทส์ ขึ้นมา สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือว่า ที่เราฟังด้วยหูฟังนี่ เข้าหูซ้าย เป็นคลื่นเสียงหนึ่ง เข้าหูขวาเป็นอีกคลื่นเสียงหนึ่ง ค่าความต่างระหว่างคลื่นทั้งสองข้าง จะหักล้างกันแล้วเหลือแค่นี้


อย่างสมมติว่า 205 Hz เข้าด้านขวา 200 Hz เข้าด้านซ้าย จะเหลือ 5 Hz (ห้าเฮิร์ทซ์) นะ

 

คลื่นความถี่ห้าเฮิร์ทซ์ ไปดังในสมองเรา สมองเราจะเป็นคนได้ยินนะ จะไม่ใช่เสียงแบบที่ผสมกันในอากาศ

 

ทีนี้ถ้า 5 Hz นี้ดังอยู่ในสมองนานๆ เข้า คลื่นสมองย่านที่ประมาณ 5 Hz ก็จะเด่นนำขึ้นมา

 

พูดง่ายๆ ว่าตัวคลื่นเสียงที่เป็น ไบเนอรัล บีทส์ ไปเหนี่ยวนำ ไปกลืนให้คลื่นสมองของเรา ที่อยู่ในย่านเดียวกัน ประมาณเดียวกัน เด่นนำขึ้นมา

 

ซึ่ง 5 Hz จะเป็นย่านที่เราคิดน้อย หรือบางทีเกิดความรู้สึกเหมือนไม่ได้คิดเลย

 

ตอนไม่คิดเลยนี่ คนเราจะรู้สึกว่าจิตใจสงบ มีความสุข มีความสบาย และสามารถที่จะเข้าสมาธิได้ นึกว่าเป็นเรื่องความเก่ง นึกว่าเป็นเรื่องที่เหมือนกับ โก้เก๋กว่ามนุษย์อื่นทั่วไปที่เขายังฟุ้งซ่านจัด ไม่สามารถสงบได้

 

แต่จริงๆแล้ว ก็แค่ คลื่นสมองที่ได้ดุล แล้วย่านช้าเด่นนำขึ้นมา นี่ในแง่มุมมองของนักวิทยาศาสตร์นะครับ

 

ตัวไบเนอรัล บีทส์ จะไปกระตุ้นการทำงานของส่วนอวัยวะที่ก้านสมองนะครับ ซึ่งมีหน้าที่รับเสียง ถ้าเป็นอะคูสติก บีทส์ ตัวอวัยวะส่วนนี้ จะไม่ทำงานนะ

 

แต่เมื่อ ไบเนอรัล บีทส์ ไปกระตุ้นให้อวัยวะส่วนนี้ ตรงก้านสมอง ทำงานแล้วนี่ ระบบการทำงานเกี่ยวกับคลื่นสมองอะไรต่างๆนี่ แล้วก็เกี่ยวกับตัวสมองเองนี่ จะแตกต่างไปในแง่ที่พูดง่ายๆว่า ถ้ามีย่านเสียงที่ดังขึ้นในสมอง เป็นย่านช้า แล้วก็ effective .. ต้อง effective ด้วยนะกับสมอง จะทำให้คลื่นย่านช้าเด่นนำขึ้นมา

 

อันนี้ เป็นหลักการคร่าวๆ ของไบเนอรัล บีทส์ นะครับ เขาค้นพบกันมานานแล้ว

 

สำหรับ ‘เสียงสติ’ .. เปรียบเทียบคือ ‘เสียงสติ’ โดยมูลฐานคอนเซ็ปต์ก็คือ ไบเนอรัล บีทส์ นะครับ แต่ว่าจะแตกต่างจาก ไบเนอรัล บีทส์ ทั่วไปคือมีซาวด์ดีไซน์ (sound design) เข้ามาด้วย

 

ซึ่งตรงนี้ จะทำให้ถ้าใครเข้าใจเกี่ยวกับการสร้าง ไบเนอรัล บีทส์ ก็จะเข้าใจนะ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะออกแบบให้ ไบเนอรัล บีทส์ มีจุดประสงค์อะไร ทำงานกับสมองอย่างไร

 

ตัว ‘เสียงสติ’ นี่โดยซาวด์ดีไซน์ที่ผมออกแบบ จะแตกต่างจาก ไบเนอรัล บีทส์ทั่วไปตรงที่ จะ effective กับการทำงานของระบบทางเดินหายใจเป็นอันดับแรกเลย

 

แล้วสำหรับซีรีส์สอง จะมีเป้าหมายขึ้นมาอีกเป้าหนึ่ง คือทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า ในทางพุทธศาสนา จะมีศัพท์อยู่คำหนึ่งเรียกว่า จิตตวิเวก

 

คือตอนที่ฟังนี่ เริ่มต้นขึ้นมา เราจะรู้สึกรำคาญเสียง หรือว่าจะไม่คุ้นกับเสียงอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าสมองถูกจูนแล้ว จะมีความรู้สึกว่า

จิต มีความไม่ดิ้นรน

จิต จะเหมือนกับไม่เอาอะไร

จิต เหมือนกับจะว่างจากความฟุ้งซ่าน

จิต ว่างจากความอยาก

จิต ว่างจากอาการทะเยอทะยาน อยากได้อยากดี อยากมีอยากเป็นนะ

 

ซึ่ง จิตตวิเวก มีความสำคัญมาก

ที่ว่าเรา จะเข้าสมาธิได้หรือไม่ได้

จะเข้าสมาธิเก่งหรือไม่เก่ง

จะมีสิทธิ์เข้าสมาธิ ถึงฌาน หรือไม่ถึงฌาน

ที่เป็นซาวด์ ดีไซด์ คือจะมีเป้าหมาย เป็นการที่ไปปรุงแต่งเสียงให้เกิดเป้าหมายอะไรแบบหนึ่ง ที่เราต้องการขึ้นมา

 

นี่คือ ‘เสียงสติ’ .. ความเป็น ‘เสียงสติ’

 

พูดง่ายเอามาประยุกต์ใช้กับการเจริญสตินะ

 

โดยตัวของ ‘เสียงสติ’ เอง ไม่ได้ทำให้เกิดสัมมาทิฏฐิ ไม่ทำให้เกิดความเข้าใจขึ้นมาเองว่ากายนี้ใจนี้ไม่เที่ยงไม่ใช่ตัวตน

 

แต่ ‘เสียงสติ’ จะเปรียบเหมือนกับทะเล เหมือนกับถ้ำที่เย็นๆ มีความวิเวก ที่มีความสบาย หรือว่าเหมือนกับบ้านร้างเรือนว่าง ที่เข้าไปแล้วจะเกิดความรู้สึกสงบอกสงบใจ ไม่วุ่นวาย ไม่ดิ้นรน

 

หลังจากที่ได้เกิดจิตตวิเวกแล้ว พอได้พิจารณา น้อมเอาจิตตวิเวกนั้นเข้ามาพิจารณาความเป็นกาย ความเป็นใจ โดยความเป็นของไม่เที่ยง ไม่ใช่ของเดิม ไม่ใช่ตัวเดิม ไม่ใช่ตัวตน จะรู้สึกว่าง่าย จะรู้สึกว่าอิน จะรู้สึกว่า เกิดความรู้ขึ้นมาจริงๆ และเต็มใจรับรู้ว่ากายนี้ใจนี้ไม่เที่ยงจริงๆ ไม่ใช่ตัวตนจริงๆ โดยอาศัยอานาปานสติ เป็นแกน

 

พูดง่ายๆ ว่า พอเราเริ่มฟัง ‘เสียงสติ’ ร่วมกัน ถ้าเป็นไปตามเป้าหมายที่กะเก็งไว้ก็คือว่า คุณจะเกิดความสงบ เกิดความรู้สึกว่าใจ มีความไม่ดิ้นรน แล้วสามารถที่จะรับรู้ความเป็นจริงเกี่ยวกับลมหายใจ และภาวะในอิริยาบถปัจจุบันนี้ได้ง่ายๆ

 

พูดง่ายๆนะ พอจิตไม่ดิ้นรน พอจิตมีความวิเวก จิตมีความรู้สึกว่า สามารถรู้อะไรได้ตรงตามจริง ไม่มีความอยากห่อหุ้ม ไม่มีความฟุ้งซ่านมากลุ้มรุม  พอฟัง พอพูด พอคุยกัน เกี่ยวกับเรื่องความไม่เที่ยงของกาย เช่นลมหายใจเข้าออก แสดงความไม่เที่ยงอยู่ตลอดเวลา จะเห็นขึ้นมาชัดๆ เห็นเป็นนิมิตเลยนะ ว่าลมหายใจรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร

 

นี่คือจุดประสงค์ตั้งแต่เริ่มต้นเลยนะที่ออกแบบ ‘เสียงสติ’ มา แต่ว่าตัวซีรีส์ 2 จะมีความเด่นขึ้นมา ในการพุ่งเป้าไปหาเรื่องของจิตตวิเวกด้วย

 

อันนี้บอกไว้ล่วงหน้า คือตั้งแต่นาทีแรก อาจจะเอาฟังยากซักนิดหนึ่งสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้น แต่ถ้าผ่านนาทีแรกไปได้จะเริ่มรู้สึกง่าย

 

คนที่เคยคุ้นกับ‘เสียงสติ’ ดีแล้ว ก็จะรู้สึกสบายๆ ตั้งแต่วินาทีแรกแหละ แต่นี่บอกไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะได้ฟังกันนะ คือ เราจะต้องผ่านนาทีแรกไป อาจฟังยากสักนิดหนึ่ง แต่พอผ่านนาทีแรกไปแล้ว จะรู้สึกสบายขึ้น

____________________

รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน ร่วมนั่งสมาธิ

วันที่ 15 พฤษภาคม 2564

ถอดคำ : เอ้

รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=0WrfxTYDvAI

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น