วันพุธที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

13 เคยฝึกกสิณสีแต่เลิกไปแล้ว ควรกลับไปฝึกใหม่ไหม

ผู้ถาม : ผมเคยฝึกกสิณ แต่ไม่รู้ว่าเป็นกสิณ ตั้งแต่เด็กมาก

แล้วทีนี้พอโตขึ้นมาก็รู้สึกว่าจะไปทางดูจิตมากกว่า แล้วก็เลยไม่ได้กลับไปฝึกกสิณสีแล้ว แต่ก็อยากลองกลับมาฝึกเพื่อเอาฐานสมาธิให้แน่น แต่ก็เหมือน ร่องจิตจะไม่ได้ไปทางนั้นแล้วครับ

ผมควรกลับไปฝึก กสิณสี ไหมครับ หรือควรไปตามร่องจิตปัจจุบันครับ

 

ดังตฤณ : ถ้าเอาง่ายๆ เลยนะ สมาธิไม่ว่าจะเป็นสมาธิแบบไหน จะมีประโยชน์ตรงที่ว่า ช่วยให้จิตของเรามีความตั้งมั่น

แต่ถ้าเราเจริญสติมา แล้วเห็นกายเห็นใจ อย่างชัดเจนจากพื้นฐานสมาธิตรงนั้นนี่ ก็จะไปควบคู่กันได้ ไม่จำเป็นต้องมาเกี่ยงว่า เราควรจะกลับไป ฝึกสมาธิแบบเก่าดีไหม

 

เราตั้งนโนบายทางใจไว้อย่างนี้ ว่าทั้งสมาธิทั้งเจริญสตินี่ไปด้วยกัน ไม่ได้ขัดกัน ถ้าจิตของเรามีความตั้งมั่นเป็นสมาธิได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนแนวใด จะมีประโยชน์หมด

 

ขออย่างเดียว คุณมีความเข้าใจแบบที่เรียกว่าเป็นสัมมาทิฏฐิ ว่าจุดสุดยอด เป้าหมายที่เราต้องการสูงสุดในชีวิตนี่ เราจะเจริญสติเพื่อเห็นกายเห็นใจ ว่าแสดงความไม่เที่ยงอยู่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง แสดงความไม่ใช่ตัวตนอยู่ตลอดเวลา แต่เราไม่เคยเห็น เรามาเห็นตอนที่จิตเริ่มมีคุณภาพ เริ่มมีสมาธิ

 

ยิ่งเราเจริญสติไปได้มากขึ้นเท่าไหร่ ตัวสมาธิตัวคุณภาพของจิต ก็จะยิ่งดีเป็นเงาตามตัวนะ คือเกื้อกูลกัน เหมือนกับ มือถูมือ เท้าถูเท้า ที่พระพุทธเจ้าเปรียบเทียบไว้นะครับ ผมตอบคำถามไหมครับ

 

ผู้ถาม : ค่อนข้างตอบในบางส่วนครับ คือตอนนี้ผมไปเน้นดูจิตแล้ว จะกลับไปไม่ได้แล้ว

 

ดังตฤณ : แบบนี้เป็นการตั้งความเชื่อขึ้นมาล็อกตัวคุณเองแล้ว มันไม่จริงหรอก ไม่ว่าคุณจะเจริญสติหรือทำสมาธิแบบไหนมา จิตก็คือจิต

จิตโฟกัสอยู่กับอะไร แล้วก็มีความปักอยู่กับอะไร มีความแน่วอยู่กับอะไร นั่นก็คือเป็นสมาธิขึ้นมาได้ทั้งนั้น

 

ส่วนการเจริญสติ ไม่ว่าจะเห็นกายก็ดี หรือว่าเห็นจิต หรือเห็นภาวะทางอารมณ์ก็ดี เป็นส่วนของการที่เราเอาสติ เอาคุณภาพของจิตมาใช้งาน เอามาดู ที่เรียกว่าเป็นวิปัสสนาธุระ หรือว่างานทางวิปัสสนา

 

แต่งานทาง สมถะ นี่คุณจะไปทำสมาธิแบบไหนก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเชื่ออย่างไรด้วย เพราะคนเรา พอเชื่ออะไร แล้วด้วยจิตที่หนักแน่น ก็จะปรุงแต่งไปตามนั้นเลยนะ ปรุงแต่งไปตามความเชื่อ จะหาหลักฐานมาให้ว่านี่สิ่งที่ฉันเชื่ออยู่นี่ ถูกต้องอยู่แล้ว

 

เช่นถ้าคุณเชื่อว่า คุณไม่สามารถจะเปลี่ยนจากการเจริญสติ กลับไปทำสมาธินี่ จิตจะผลิตผลงานแบบนั้นออกมาให้ดูเลย พอตั้งใจจะกลับไปจดจ่อเป็นสมาธิอยู่กับอะไรอย่างกสิณสี อย่างนี้ ใจจะเบี่ยงเบนไปทันทีบอกว่านี่ หวั่นไหว ทำไม่ได้ แล้วจิตก็จะไปยึดกับการหวั่นไหวนั้น ยืนยันกับตัวเองมากครั้งขึ้นเรื่อยๆ บ่อยขึ้นเรื่อยๆ ว่าฉันทำไม่ได้

 

ตัวนี้คือการทำงานของจิตที่แท้จริง แต่ถ้าคุณตั้งมุมมองใหม่ ว่าจิตอยู่กับอะไร โฟกัสอยู่กับอะไรก็เป็นสมาธิอยู่กับสิ่งนั้น แล้วผลของสมาธิ คือคุณภาพจิต เราจะเอาไปใช้ทำอะไรอันนั้นเรื่องของเราแล้ว

ผู้ถาม : ตามที่อธิบายมาเลยครับ จิตวอกแวกแล้วก็สร้างภาพลวงตาขึ้นมาจริงๆ ขอบคุณมากครับ

 

__________________

เคยฝึกกสิณสีแล้วเลิกไป ร่องจิตตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ควรย้อนกลับไปฝึกกสิณสีเหมือนเดิมไหมครับ?

รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน ร่วมนั่งสมาธิ

วันที่ 15 พฤษภาคม 2564

ถอดคำ : เอ้

รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=DmCGHk6L_9c

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น