วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

15 ต้องสวดมนต์ด้วยจำนวนรอบตามกำลังของแต่ละวันไหม

ผู้ถาม : ขอสอบถามเกี่ยวกับการสวดมนต์ บางบทสวดจะมีเป็นตามกำลังวัน จำเป็นไหมคะ และจะให้ผลอย่างไร แล้วเวลาเราสวดไปด้วย บางวันจะยาวมากค่ะ แล้วก็นับเลขไปด้วยได้ไหมคะ ควรสวดแบบไหนที่ดีที่สุด

 

ดังตฤณ : ช่วยเจาะจงได้ไหม เช่น วันจันทร์สวดอย่างไร วันอังคารสวดอย่างไร

 

ผู้ถาม : คือสวดมหาจักรพรรดิค่ะ ก็จะมีหลายๆ วันสวดตามวัน เช่นอังคารสวดกี่ครั้ง เป็นเลขน่ะค่ะ

 

ดังตฤณ : อันนี้เป็นสูตรสำเร็จตายตัวที่คุณอาจได้รับคำแนะนำมาจากไหนก็ตามนี่นะ แต่บอกตรงนี้ว่า ไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัวแบบนั้นอยู่ในพุทธศาสนานะครับ

 

ในพระไตรปิฎกก็ตาม หรือสิ่งที่พระพุทธเจ้าเคยตรัสก็ตาม หรือครูบาอาจารย์พระป่าที่ท่านสำเร็จธรรมก็ตาม ไม่มีนะ ประเภทที่ว่า ต้องสวดบทนั้นบทนี้ ตามวัน แล้วก็จะต้องกี่จบอะไรต่างๆ เป็นความคิด เป็นความเชื่อ ของแต่ละสำนัก หรือว่าของแต่ละบุคคลนะครับ ที่เราจะสืบหาที่มาที่ไปไม่เจอ ว่าทำไมถึงต้องเป็นแบบนั้น

 

อย่างบางคน อาจไปเจอเคล็ดลับ เช่น ยกตัวอย่างนะ บางคนอาจเป็นนักสวด แล้วก็มาค้นพบด้วยตัวของเขาเอง หรือของท่านเอง ว่า ถ้าสวดบทนี้ในวันนี้ แล้วรู้สึกว่า โอ้โห โชคลาภวาสนา หรืออุปสรรคอะไรหายไปอะไรอย่างนี้ โชคลาภทะลักทลายเข้ามา แล้วก็เลยจดจำไว้ มาบอกต่อว่า สวดบทนี้ที่วันนี้ จะดี ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วอาจดีเฉพาะกับคนนั้น ดีจริงๆ แต่เฉพาะคนนั้น

 

เสร็จแล้ว มาพบสูตรสำเร็จของตัวเอง หรือคิดเอาเองว่า ถ้าวันต่อมา สวดบทอื่น สวดกี่ครั้ง กี่รอบ แล้วจะให้ผลเป็นโชคลาภวาสนา หรือว่าความเจริญรุ่งเรืองในทางโลกทางธรรมแบบไหน ก็จดจำมาบอกต่อ แล้วกลายเป็นที่เล่าขาน หรือว่ากลายเป็นสูตรสำเร็จตายตัวที่คนยึดถือ แล้วก็เชื่อกัน

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่า ถ้าหากเป็นเกจิที่มีความเข้ม มีความขลัง มีหลักฐานเป็นรูปธรรมว่า สามารถจะดลบันดาลอะไรได้ หรือทำให้ใครเจริญรุ่งเรืองได้ ประเภทนี้พูดอะไรเกี่ยวกับรหัส เกี่ยวกับเคล็ดลับว่า สวดวันไหนดี สวดกี่ครั้ง อะไรต่างๆ คนจะเชื่อทันทีโดยไม่คิด ไม่ต้องไตร่ตรองอะไรทั้งสิ้น จะเชื่อจากว่า คนนี้ท่านเจ๋งจริง และท่านเอามาบอก

 

แต่ก็มีหลายครั้งหลายหน ที่เราสืบหาที่มาที่ไปไม่ได้เลยว่า คนคิดนี่ คิดออกมาจากความหยั่งรู้ หรือคิดเอาเองแบบเดา

 

ฉะนั้น ถ้าทำไว้ในใจแบบพุทธจริงๆ ก็คือว่า การสวดมนต์ สวดเพื่อที่จะให้เราได้ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ถ้าหากว่าใจเราสำเร็จแล้ว ซึ่งการระลึกถึงคุณวิเศษ คุณงามความดีของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์มาประดิษฐานอยู่ในใจเราแล้ว ราวกับว่า มีพลังพุทธคุณมาช่วยโอบอุ้ม คุ้มครองให้จิตของเราอยู่ในกุศลธรรม แล้วก็มีความคิดดีๆ มีสติดีๆ ที่จะมาเจริญรู้ให้กลายเป็นสมาธิ ให้กลายเป็นการเจริญสติยิ่งๆ ขึ้นไป

 

อย่างนี้ ให้ถือว่าเราได้สวดมนต์แบบพุทธแล้ว ไม่ต้องไปกังวลเรื่องรหัส เรื่องเคล็ด เรื่องว่าจะต้องทำตามวันนั้นวันนี้

 

ทุกวัน เป็นวันที่เราจะสวดมนต์ แล้วดึงพลังพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เข้ามาประดิษฐานในชีวิตได้เสมอ จะสวดกี่รอบก็ตาม ยิ่งสวดมากรอบ ถ้าหากว่าเป็นการสวดด้วยสมาธิ ด้วยการมีสติ ด้วยการมีกุศลธรรมตั้งมั่น ยิ่งมีความเพิ่มเติมของรัศมีธรรมให้ยิ่งๆ ขึ้นไป

 

แต่ถ้าหากว่า เราสวดแบบไม่เข้าใจ สวดตามสูตรสำเร็จ สวดบทนั้นบทนี้ กังวลอยู่ว่าจะต้องสวดจักรพรรดิวันจันทร์ หรือวันอะไรแบบนี้ เสร็จแล้วสติของเราไปอยู่กับแค่ เคล็ดลาง ไม่ได้มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่ในใจจริงๆ เลย

 

ไม่ได้คิดสรรเสริญ ไม่ได้มีใจมอบให้ ถวายให้แก่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไม่ได้ตั้งจิตว่าจะถวายแก้วเสียงเป็นพุทธบูชา

ไม่ได้ตั้งจิตว่าจะขอระลึกถึงความจริง เกี่ยวกับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ดังนี้

ไม่ได้มีความรู้สึกว่า เรากำลังนึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 

มีความนึกอย่างเดียวว่า เราจะสวดตามวัน สวดตามรหัส สวดตามเคล็ดลาง แบบนี้ไม่เข้าข่ายพุทธ ไม่เข้าข่ายถูกต้องตามแบบที่พระพุทธเจ้าต้องการให้เกิดขึ้นในจิตของเรา

 

สิ่งที่พระพุทธเจ้าต้องการให้เกิดขึ้น พระพุทธองค์อุตส่าห์เหน็ดเหนื่อย ก่อตั้งพุทธศาสนาขึ้นมา เพื่อให้เรามีสติ แล้วก็รู้เข้ามาในกายในใจนี้ตามจริงว่ามันไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน

 

แต่ถ้าเรายังติดอยู่แค่ว่า สวดมนต์ตามวัน แล้วก็จะต้องสวดให้เป๊ะ สวดให้ได้ว่ากี่รอบอะไรต่างๆ แล้วจิตไม่ได้เป็นสมาธิเลย ไม่ได้เกิดสติเข้ามารู้เห็นเรื่องของความไม่เที่ยงในกายใจเลย ไม่ได้ระลึกถึงคุณงามความดี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เลย อันนี้ก็ยังใช้ไม่ได้นะ

________________

การสวดมนต์ต้องสวดหลายรอบตามกำลังของแต่ละวันไหมคะ?

รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน ถามตอบเกี่ยวกับการเจริญสติ

วันที่ 8 พฤษภาคม 2564

ถอดคำ : เอ้

รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=OXB-mx3dJz4

** IG ** 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น