ดังตฤณ : ที่เราได้ยินเสียงชัดกว่าปกติ หรือว่าพอกินข้าว กินขนม แล้วลิ้มรสได้ชัดกว่าเคย ไม่ใช่เรื่องบังเอิญนะ ต้องมีเหตุปัจจัย และเหตุปัจจัยนั้นคือว่า ใจของเรา จิตของเราไม่มีเครื่องรบกวน ไม่มีคลื่นอะไรที่มาปั่นป่วน
ปกติจิตของเราเต็มไปด้วยความฟุ้งซ่าน
เต็มไปด้วยความปั่นป่วน เวลาไปเห็นอะไร ได้ยินอะไร จะได้ยินแค่ครึ่งเดียว
หรือได้เห็นแค่ครึ่งเดียว หรือลิ้มรสแค่ครึ่งเดียว
ความฟุ้งซ่านแย่งพื้นที่จิตใจไปกินหมด
แต่พอจิตใจของเราเริ่มปลอดโปร่ง
แล้วกระตุ้นให้ภาวะทางกายเกิดความตื่นตัว มีความพร้อมขึ้นมา
ประสาทสัมผัสจะไวขึ้นเป็นสองเท่านะ
ฉะนั้นพอได้ยินเสียง ก็จะได้ยินแบบเคลียร์
คมกริบ แบบที่เรียกว่า คริสตัลเคลียร์ หรือลิ้มรสอะไร จะมีรสเผ็ดหวานมันเค็ม
แจ่มชัดอยู่ในปาก จากปากขึ้นไปถึงสมอง รับเต็มๆ รสอย่างไร ปรากฏอยู่
ไม่มีความฟุ้งซ่านมารบกวน นี่คือความสัมพันธ์ระหว่าง สภาวะทางกาย กับสภาวะทางจิต
ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน อะไรๆ ไหลมาจากใจก็เพราะอย่างนี้
ถ้าใจฟุ้งซ่าน อะไรๆ ก็ดูคลุมเครือ
โลกทั้งใบจะดูคลุมเครือไปหมด แต่ถ้าใจปลอดโปร่ง มีความใส มีความสบาย
โลกทั้งใบก็พลอยใส พลอยกระจ่างตามไปด้วย
________________
ทำให้หายใจได้สะดวกขึ้นค่ะ
แต่ได้ยินเสียงรอบตัวชัดเจนมากกว่าปกติค่ะ
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน ร่วมนั่งสมาธิ
วันที่ 15 พฤษภาคม 2564
ถอดคำ : เอ้
รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=CL_gvp6_q54
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น