ผู้ถาม : ศึกษาปฏิบัติมา ใจเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมสนิทใจว่า ที่เราเจอเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เวลาที่บางครั้งเจออารมณ์ที่ไม่ชอบจริงๆ แล้วใจสงสัยว่า ทำอะไรไว้นะ ถึงได้เจอเหตุการณ์นี้
หลังจากนั้นไม่นาน จะเห็นเป็นภาพเหตุการณ์ที่เราเคยทำ ขึ้นมาเลย แล้วพอใจเห็นแบบนั้นปุ๊บ ใจจะไม่โกรธคนที่ทำกับเรา หรือเหตุการณ์นั้นเลย
นั่นเห็นจริงหรือเปล่าครับ
ดังตฤณ : เห็นจริง
หรือไม่เห็นจริงไม่สำคัญเท่ากับที่ว่า ใจของเราหลุดออกจากตรงนั้นได้
ตรงนี้สำคัญกว่า
ทีนี้โดยหลัก คือ
กลไกธรรมชาติของจิต ถ้าเจริญสติ เห็นภาวะทางกาย เห็นภาวะทางใจมาถึงจุดหนึ่ง
จนจิตสงบได้ จะมีโอกาสสูงครับ ที่จะเห็น
คือจิตจะไปประมวลว่า
ภาวะทางกายแบบนี้ ภาวะทางใจแบบนี้ เป็นผลลัพธ์จากสาเหตุอะไร
เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะพิจารณาทุกข์อยู่
หรือพิจารณาอาการทางกายอยู่ แล้วเกิดนิมิตภาพขึ้นมาว่า เพราะอาการอย่างนี้
เคยไปทำกรรมไว้บนเส้นทางแบบนี้ ถึงได้ให้ผลลัพธ์อย่างนี้
ก็เป็นไปได้ครับที่จะถูกต้อง
แต่ที่เราจะรู้ได้เจ๋งๆ
รู้ได้ชัวร์ๆ ต้องถึงฌาน เพราะอะไร เพราะว่า พอถึงฌาน จิตจะมีความสามารถ
รับรู้ที่ขยายขอบเขตกว่านี้ จะเหมือน super power เหมือนขอบเขตความรับรู้ต่างไป
เหนือไปกว่าแก้วหูแก้วตา จะมีความจดจำในแบบที่เรารู้ชัดๆ เลยว่า นี่ ความจำแบบนี้
ไม่ใช่คิดไปเอง แต่จำได้จริงๆ ว่า เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณจะได้รับคำยืนยัน
ถ้าหากว่า เคยเกิดขึ้น ในชีวิตนี้เองนะ จำได้อย่างชัดเจนว่า นี่
เราลืมไปแล้วว่าเราเคยทำมา แต่มันผุดขึ้นมาอีกครั้ง .. อ๋อ
ที่เคยไปทำเขาไว้อย่างนี้เอง กลายเป็น ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม
คือให้ผลกรรมในชาติปัจจุบัน
ฉะนั้น
เรารู้จากตรงนั้นเลย เราระลึกได้แน่ๆ ว่าเราเคยทำอย่างนั้นแน่ๆ แล้วก็ผูกโยงกัน
มาเชื่อมโยงกัน เล็งตรงกันกับผลลัพธ์ที่ปรากฎอยู่ในปัจจุบันนี้
แต่ถ้าเรามีสมาธิที่ลึกซึ้งไปกว่านั้น
หรือเคยมีทุนเก่า เป็นประเภทที่เคยระลึกชาติอะไรแบบนี้ไว้ก่อน
บางทีมาเป็นภาพในอดีตเลย ซึ่งก็เป็นไปได้
แต่ถ้าคุณไม่มีฌาน จิตยังไม่ถึงฌาน
ก็จะไม่มีเครื่องยืนยัน จะไม่มีจิตแบบที่ระลึกชาติได้แบบเจ๋งๆ แบบย้อนทีละลำดับ
รู้ได้ว่าเคยชื่ออะไร นามสกุลอะไร หรือว่ามีอายุอยู่กี่ปี
เคยไปทำอะไรใครเขาไว้ด้วยอาการแบบไหน
ถ้าจำไม่ได้ถึงขนาดนั้น
ก็จะได้แต่สงสัยอยู่ร่ำไปว่า นี่เราอุปาทานหรือเปล่า
แต่บอกไว้ว่า มันครึ่งๆ
เวลาที่เกิดภาพอะไรขึ้นมา แล้วรู้สึกว่าปล่อยวางได้ เราชดใช้กรรม
เราชดใช้บาปเก่าไป อันนี้ แค่ตรงนี้แหละ ดีแล้ว ดีพอแล้ว ไม่ต้องไปเป๊ะว่า
นั่นจริงหรือไม่จริงนะ
ผู้ถาม : ได้คำตอบชัดเลยครับ พอผมวางใจว่าใช้หนี้ไป
หลายๆ ครั้งที่เจอช่วงหลัง คือพอได้รับอารมณ์แบบนี้ปุ๊บ
แล้วพอสงสัยว่าเราทำอะไรมาหนอ เพราะเราทำดีแล้ว ภาพในชีวิตนี้จะขึ้นมาเลยว่า
เพราะเราเคยพูดแบบนั้นกับคนนี้ อารมณ์ที่เขาเจอตอนนั้นก็คงเหมือนเราเจอ
แล้วจะตัดอารมณ์ตอนนั้นเลย จะมองเป็นการใช้หนี้ไป แล้วเกิดความระวังว่า
ไม่กล้าผิดศีลห้าเลยครับ
ดังตฤณ : อันนี้เยี่ยมยอดมาก
ดีกว่าการระลึกชาติอีก เพราะการระลึกชาติได้
บางคนระลึกได้แต่ไม่เชื่อเรื่องกรรมก็มี
เพราะโยงได้แค่บางจุดที่เป็นแค่ความทรงจำว่า เคยไปเป็นนั่นเป็นนี่มา
แต่ยังไม่เข้าใจ ยังไม่เคลียร์ว่า ที่ต้องมาเกิดเป็นรูปร่างหน้าตาแบบนี้
มีชะตาชีวิตแบบนี้ เพราะเคยสั่งสมกรรมแบบไหนมา บางทียังโยงกันไม่ถูก
แต่ทีนี้
ถ้าคุณมีความศรัทธาในผลแห่งกรรม แล้วก็มาพิจารณากายใจตามจริง ว่า
นี่แหละคือผลลัพธ์ ในแต่ละขณะ จะรู้สึกอย่างไรก็ตาม นั่นคือผลลัพธ์ เสร็จแล้วการทำไว้ในใจอย่างเป็นสัมมาทิฏฐิแบบนี้
ในที่สุด จะไปปรุงแต่ง ให้เกิดความระลึกได้ขึ้นมา เชื่อมโยงติดขึ้นมาว่า
เพราะเราเคยทำอย่างนั้น ถึงได้อยู่บนเส้นทางที่จะได้รับผลแบบนี้
ใจก็จะคลายได้
คลายจากอาการยึด แล้วก็มีสติที่จะสังวร ระวังในการสร้างบุญสร้างบาปในขั้นต่อๆ ไป
อันนี้มีประโยชน์ที่สุด
นี่คือเส้นทางแบบพุทธ ที่เราต้องการกันจริงๆ นะ
_________________________
เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมสนิทใจ พอเจอเหตุการณ์เข้ามากระทบ
จะเห็นภาพที่เราเองเคยทำกับคนอื่นเอาไว้ทำให้หายโกรธ อันนั้นเป็นภาพจริงใช่ไหม?
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน
ตอน ถามตอบเกี่ยวกับการเจริญสติ
วันที่ 8 พฤษภาคม 2564
ถอดคำ : เอ้
รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=Zk1aM_QpEZ4
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น