วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2564

มีครอบครัว ต้องดูแลลูก ทำอย่างไรให้สามารถปฏิบัติธรรมได้เหมือนก่อน?

 ผู้ร่วมรายการ : ผมเริ่มจากไม่เชื่อเลย ปัจจุบันผมเป็นอินเวสเตอร์ เป็นนักลงทุน มีพี่ๆในวงการนักลงทุนด้วยกันหลายท่านเก่งมาก แล้วก็ผมสงสัยว่าหลักการที่ผมไม่เข้าใจโลจิกตรงนี้มันเป็นของจริงได้ยังไง พี่ๆก็แนะนำว่าลองดูก่อนวันละ ๕ นาที ๑๐ นาที มันเป็นจุดเริ่มต้นเลย

 

ดังตฤณที่ผ่านมามีประสบการณ์ทางธรรมอะไรอยากจะแชร์ให้เห็นว่าตรงนี้แหละเป็นจุดที่เรารู้สึกถึงแก่นธรรมจริงๆในกายในใจนี้ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับ

 

ผู้ร่วมรายการ : ผมมีโอกาสได้ไปปฏิบัตินอกสถานที่เป็นเวลา ๘ วัน ๗ คืน แล้วได้มีประสบการณ์บางอย่างที่ทำให้เราเชื่อและศรัทธา จากที่เมื่อก่อนมีคำถามเยอะมาก ตอนหลังก็ศรัทธาเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เลย

 

ในช่วงที่ผ่านมาช่วงที่พีคๆเลยก็ปฏิบัติมาวันละ ๑ ชั่วโมง เคยนั่งสมาธิยาวๆวันละประมาณหนึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่งสองชั่วโมง มันจะมีเวทนาหนักมาที่ท่อนขา ความเมื่อยล้า แต่พอบางขณะที่รู้สึกเหมือนลอยขึ้นไป เวทนาตัวนั้นมันก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง หรือตอนที่ลืมตาขึ้นมาปุ๊บมันก็เหมือนกับหายไปเลย ก็เลยรู้สึกว่าของพวกนี้เป็นของที่ไม่แน่นอน เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอดเวลา

 

คำถามคือ ผมอยากจะพัฒนาตัวเอง อยากจะขอคำแนะนำอยากให้อินทรีย์ทั้ง ๕ มันสมบูรณ์ขึ้น แต่ช่วงปีที่ผ่านมาเพิ่งมีลูก เลยให้เวลากับครอบครับให้เวลากับลูกมาก ทำให้เวลาในการปฏิบัติหายไปเยอะ จากที่เคยปฏิบัติได้ ๑ ชั่วโมงในตอนเช้า ก็เหลือเพียง ๑๕ นาที รู้สึกว่าประสิทธิภาพมันลดลง เลยอยากได้คำแนะนำครับ

 

ดังตฤณโอเค ก่อนอื่นเลยเราตั้งมุมมองไว้แบบคุณพ่อนะครับ ที่จะต้องมีภาระเลี้ยงลูกแล้วแน่ๆ อย่างน้อยๆก็ยี่สิบกว่าปี

 

ด้วยมุมมองแบบคุณพ่อเนี่ยนะครับ เราตัดคำว่าปฏิบัติวันละชั่วโมง ปฏิบัติวันละสองชั่วโมงทิ้งไป ให้กลายเป็นว่าปฏิบัติตลอด ๒๔ ชั่วโมง

 

การปฏิบัติแบบเข้มข้นหนึ่งชั่วโมงสองชั่วโมงช่วงที่ลูกยังแบเบาะอยู่ทำไม่ได้ แต่การปฏิบัติแบบ ๒๔ ชั่วโมงทีละนิดทีละหน่อย แบบค่อยเป็นค่อยไป แบบที่หยอดกระปุก ไม่ใช่แบบอัดที่เดียวตุ้มทีเดียวทุบทีเดียวเหมือนกับสมัยที่เรายังไม่มีลูก

 

พอเปลี่ยนมุมมองแบบนี้เราจะสบายใจขึ้นมาได้อย่างคือ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ปฏิบัติเข้มข้น เปลี่ยนมาเป็นปฏิบัติแบบเบาบาง แต่เวลามันเยอะกว่าอีก เวลามันเยอะกว่าตอนปฏิบัติแบบเข้มข้นที่เรากักไว้แค่ชั่วโมง สองชั่วโมง เรามาปฏิบัติตลอด ๒๔ ชั่วโมงแบบเบาบาง จริงๆอาจจะได้มากกว่าก็ได้

 

วิธีที่จะปฏิบัติแบบนิดๆหน่อยๆ ทีละนิดทีละหน่อยแบบหยอดกระปุกก็คือว่า อย่าคาดหวังว่าเราจะปฏิบัติไปเพื่อให้เกิดสมาธิ หรือเพื่อให้เกิดการเห็นอะไรดีๆอย่างที่เคยเกิดประสบการณ์ มีเบา  มีอะไรเป็นนุ่น แต่คาดหวังว่าใจของเราจะมีสติอยู่เรื่อยๆเข้ามาในขอบเขตของกายใจนี้ ในขอบเขตของความเป็นคุณพ่อที่จะต้องเลี้ยงลูกอ่อนนะครับ

 

เลี้ยงลูกอ่อนเนี่ยนะ คือมันจุกจิก มันเต็มไปด้วยการต้องทำตามการเรียกร้องของลูก ซึ่งยังไม่รู้ประสีประสาราวกับเป็นข้าทาส หรือว่าเป็นลูกหนี้ที่ติดหนี้มาแต่ปางไหนนะครับ ก็สามารถดูได้เรื่อยๆตอนลูกร้อง พอเสียงลูกร้องเนี่ย มันกระทบหู มันเกิดความรู้สึกยังไง เออ ภาวะจำยอมแบบคุณพ่อที่ต้องไปประคบประหงมลูก หรือว่าภาวะเต็มใจ เสียงร้องคือเสียงเตือนว่าต้องทำงานแล้วนะ มือไม้มันขยับทันที หรือว่าเสียงลูกร้องตอนกลางดึก โอ้ยง่วงมันไม่อยากตื่น เนี่ยมันมีความรู้สึกว่าจิตของเรามันมีความต่อต้าน หรือว่ามีความขี้เกียจ หรือว่ามีความรู้สึกที่เป็นกุศลหรือเป็นอกุศลนะครับ ยอมรับไปตามจริงในแต่ละครั้งที่เราเจอแรงกระทบ หรือว่าสิ่งที่มาจากความเป็นลูกนะครับ จะอึฉี่หรืออะไรก็แล้วแต่เนี่ยนะครับ

 

พอเราตั้งเป้าไว้ว่า อุปกรณ์การฝึกของเราไม่ใช่การมาอยู่ในห้องพระ การอยู่ในห้องพระแล้วก็นั่งสมาธิ ในห้องพระของเราเนี่ย อันนั้นคือแบบเข้มข้น

 

แต่ปฏิบัติแบบที่มันจะเบาบางก็คือดูทีละครั้งดูทีละหนนะครับว่า ปฏิกิริยาทางใจของเราเนี่ยเป็นทุกข์หรือเป็นสุข แล้วเทียบเท่ากับลมหายใจนะว่า แต่ละครั้งเนี่ยลมหายใจสั้น หรือลมหายใจยาว เทียบไปอย่างนี้เรื่อยๆเนี่ย มันจะได้พื้นที่การปฏิบัติกลับคืนมา แล้วไม่ใช่แค่ชั่วโมงสองชั่วโมง แต่เป็นตลอด ๒๔ ชั่วโมงเลยทีเดียวนะครับ

-----------------------------------------------------

๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
Clubhouse รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน  

คำถาม : มีครอบครัว ต้องดูแลลูก ทำอย่างไรให้สามารถปฏิบัติธรรมได้เหมือนก่อน?

ระยะเวลาคลิป   ๘.๑๗ นาที
รับชมทางยูทูบ   https://www.youtube.com/watch?v=jLMugPE-C9E&list=PLmDLNhxScsWO7ZAuqr-FC25dor6ETZhM-&index=28&t=14s

ผู้ถอดคำ  แพร์รีส แพร์รีส


** IG **

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น