วันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2564

อาชีพที่เป็นโทษแก่บุคคลอื่น จะได้ผลกรรมอย่างไร เช่น ตำรวจ ผู้พิพากษาฯ

ดังตฤณ : อาชีพแต่ละอาชีพของฆราวาสนี่นะ

พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า ฆราวาส เป็นทางมาแห่งธุลี

แปลว่า ง่ายที่จะมีอะไรมาแปดเปื้อน

ที่มีอะไรผิด ที่มีอะไร ที่ทำให้จิต อยู่กับอกุศลนะครับ

 

แม้กระทั่งว่า จริงๆ แล้ว อย่างเป็นตำรวจ

คือ อย่ามองแค่ว่า ต้องไปจับผู้ร้าย ต้องทำให้คนมาติดคุก

คือ ผลจากการที่มีผลกระทบด้านไม่ดีต่อคนบางคน 

แต่เป็นผลดีกับคนอีกมหาศาลนะครับ

ตอนยุคของเรา พอพูดถึง อาชีพต้องห้าม อาชีพที่เป็นมลทิน

อาชีพที่เป็นบาป .. ชอบไปหยิบยกเอา ตำรวจ หรือว่า ผู้พิพากษา ทนาย อะไรมานี่ 

 

เป็นการบั่นทอนกำลังใจกัน 

แล้วทำให้คนเหล่านั้นพอมารับรู้ ก็จะไม่อยากหันเข้ามาหาธรรมะ

เพราะว่า โอ้โห หันเข้ามาหาธรรมะ แล้วโดนว่า 

โดนบอกว่า นี่ เป็นบาป เดี๋ยวจะต้องไปรับผล อะไรอย่างโน้นอย่างนี้

 

จริงๆ อยากให้มองกันกว้างๆ เลยนะ

เพราะ ผมเคยทราบว่า มีบุคคลอันน่าเชื่อถือทางศาสนา

เป็นคนพูดเองบอกว่า อาชีพที่ไม่ควรทำ ทำแล้วเป็นบาป

อย่างเช่น ตำรวจ ทนายความ ผู้พิพากษา 

เพราะพวกนี้ ต้องทำให้คนอื่นเดือดร้อน 

คนบางคน ต้องติดคุก หรือว่า ถูกประหารอะไรแบบนี้


คือ ไปตั้งต้นมอง ผิดสามัญสำนึกของคนทั่วไป

อย่างตำรวจ ได้ชื่อว่าเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

เพราะอะไร .. คำว่า สันติราษฎร์ ก็คือ คนดีๆ คนทั่วไป 

ที่มีจำนวนมากมายมหาศาล เป็นแสนเป็นล้าน นะครับ

ได้ถูกพิทักษ์ ได้ถูกปกป้อง ได้ถูกอารักขานะ

 

หรือว่า เอาคนเข้าคุกเพื่ออะไร

เพื่อที่จะให้เขา ไม่ต้องมาทำกรรมทำเวรต่อนะครับ

ไม่ต้องทำบาปให้กับตัวเขาเองเพิ่ม

 

อย่างนี้ ก็เป็นเรื่องดี

ไม่ใช่อยู่ๆ นี่ เอาคนธรรมดาทั่วไป ไปยัดคุก

แบบนั้น เป็นตำรวจเลว .. เราไม่ได้พูดถึงนะ 

 

พูดถึงตำรวจดีๆ ที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ 

ด้วยหัวใจ ด้วยจิตวิญญาณ ความเป็นผู้พิทักษ์

ผู้อารักขาอภิบาลคนดีจริงๆ นี่ เขาทำดี


แล้วอาชีพเหล่านี้ อย่าไปเชื่อว่าทำแล้วจะตกนรก

หรือว่าทำแล้วไปอบาย

เวลาที่เรามีอาชีพแบบ ฆราวาส นี่ .. มี 2 ด้านทั้งนั้นแหละ 

ไปว่าทำไมว่า ตำรวจ หรือว่า ทนายความ ผู้พิพากษา 

เป็นอาชีพที่ต้องทำบาป เป็นอาชีพที่ไม่ดี .. นี่ ไม่ถูกเลยนะ

 

คือ พูดแบบนี้ ไม่ได้พูดถึงเจ้าของคำถามนะครับ

พูดถึงคนอื่นที่เคยได้ยินมา เป็นบุคคลอันน่าเชื่อถือด้วย

แล้วก็ไปโจมตี ราวกับว่าอาชีพเหล่านี้ เป็นคนบาป

ไม่ถูกต้องเลยนะครับ

 

ทีนี้ ตอบคำถามว่า ผลกรรม จะบรรเทาเบาบางอย่างไร

ดูที่เจตนา .. ถ้าเป็นตำรวจดี เป็นผู้พิพากษาดี

ก็ไม่ต่างจากอาชีพอื่น ที่มีสิทธิ์ทำบุญอยู่ตลอดเวลา

 

เหมือนหมออย่างนี้ บอกว่าหมอกับครู เป็นอาชีพที่

ได้รับความยอมรับนับถือ เป็นบุคคลอันควรเคารพ

เป็นปูชนียบุคคล เป็นแม่พิมพ์ของชาติ 

 

หรือว่าเป็นผู้รักษา ที่ให้คน ได้หายจากโรคภัยไข้เจ็บอะไรต่างๆ

 

แต่หมอ บางที ถ้าตัดสินใจผิด วินิจฉัยผิด

ก็ทำให้คน จากดีๆ กลายเป็นพิการได้เหมือนกันนะ

ก็มีพลาดมา 

 

แล้วก็ ถ้าเป็นหมอดีๆ ก็จะเจ็บปวดมาก ชั่วชีวิต

บางคนเลิกเป็นหมอ เพราะว่าทำให้เกิดภัยเกิดอันตรายกับคนไข้

แต่ถ้าหมอไม่ดีหน่อย นี่คือ บางที ตั้งใจเลยนะ 

เพื่อที่จะได้ค่ารักษาเยอะๆ ได้ Extra อะไรแบบนี้

 

.. อยู่ที่เจตนา ..

 

แม้แต่อาชีพที่ถูกสังคมยกย่องว่า 

เป็นอาชีพที่เรียกว่า ประดุจนักบุญ

ก็ทำบาปได้ ก็ประมาทได้

ก็ได้รับผลจากความผิดพลาด 

เป็นความรู้สึกผิดติดตัวไปตลอดชีวิตได้เหมือนกันนะครับ


ทีนี้ ถ้าเป็นผู้พิพากษา เป็นตำรวจ

ด้วยความตั้งใจ ด้วยเจตนาว่า

เรา ไม่ใช่มาเก็บต๋ง ไม่ได้มาเพื่อที่จะมากินตามน้ำ 

ไม่ได้มา เพื่อที่จะทำบาปทำกรรมอะไรจากอาชีพนี้

 

แต่มาเพื่อพิทักษ์สันติราษฎร์ หรือว่าอภิบาลคนดี

แล้วทำให้คนเลวๆ ไม่ต้องมาอยู่ในวาระ

อยู่ในโอกาส ที่เขาจะทำเลวได้ต่อ เป็นการจำกัดบาปเขา 

เอาเขาไปกันไว้อยู่อีกที่หนึ่ง ที่เขาไม่ต้องมาทำเลว กับคนดีๆ คนบริสุทธิ์

ด้วยความคิดแบบนี้ ด้วยเจตนาแบบนี้ 

เวลารับผลของกรรมก็ต้องได้รับผลของเจตนาดีนี้ก่อน

 

ผล คืออะไร คือ ได้รับการรักษา

ได้รับการปกป้อง ได้รับการปกปักให้อยู่รอดปลอดภัย

 

ส่วนที่ว่า จะเป็นทั้งใน ทางโลก ทางธรรม ด้วยหรือเปล่า

ขึ้นอยู่กับว่าตอนที่เรามีอำนาจหน้าที่ เราใช้ไปในทางไหนบ้าง

 

อย่างบางคนเป็นตำรวจ มีบางคน ที่รู้จักเลยนะ

ไปดูแลสอดส่องวัดของครูบาอาจารย์ 

ไปดูว่า มีนักเลงหัวไม้ มาทำอันธพาลอะไร แถววัดไหม

 

อย่างนี้ ใช้อำนาจหน้าที่ของตัวเอง

ในการสร้างบุญสร้างกุศลอันประเสริฐ

แต่ถ้าไม่เป็นตำรวจ ก็ทำไม่ได้ ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย 

ที่จะไปปกป้อง หรือปกปักรักษา นะครับ

 

เห็นไหม เรื่องอาชีพนี่ ผมขอเลยนะ

อย่าไปพูดว่า อาชีพไหนเป็นบาป 

ยกเว้นแต่เป็นพวกโจร พวกทุจริต มิจฉาชีพ อะไรแบบนั้น

 

แต่ที่ยอมรับกันอยู่ในสังคมทั่วๆ ไป 

อย่าไปพยายามพูดบั่นทอนกำลังใจกันเลย

เพราะว่าคนพวกนั้น เขาอยากจะหนีจากศาสนาพุทธกันหมดนะ

บอกว่าไปด่าเขา บอกว่าพุทธศาสนา ว่าเขาเป็นคนบาป

แล้ววันหนึ่ง เขาก็จะต้องลงนรกนะ .. ใครจะอยากฟัง

 

ทั้งๆ ที่ตัวเขาเอง เขารู้ว่าเขาตั้งใจดีอยู่นะครับ

มีความตั้งใจดีๆ กับสังคมอย่างไรอยู่

 

ก็สรุปแล้ว คือ อาชีพ นี่ ไม่ต้องทำใจนะ

แต่ดูเข้ามาที่ใจตัวเอง ว่า หวังอะไร

คิดอะไร ตั้งใจอะไร เจตนาอะไร

นั่นแหละ คือ เส้นทางกรรมบนอาชีพนั้นๆ 

 

ถ้าหากว่า ตั้งใจดีต่อสังคม เป็นบุญ นะครับ

 

ถึงแม้ว่า จะมีมลทินอะไร แปดเปื้อนเข้ามาบ้าง

ตามความจำเป็นของอาชีพ

แต่โดยหลักแล้ว ก็อยู่ในเส้นทางของบุญนั่นแหละ

เพราะว่าเราอยู่ในทิศทางตั้งใจดีแก่สังคมนะครับ

_________________

คำถามเต็ม : มีอาชีพตามกฎหมายแล้วเป็นโทษแก่บุคคลอื่น จะได้รับผลกรรมจากการทำหน้าที่นั้นอย่างไร เช่น เป็นศาล เป็นตำรวจ เป็นคนที่ทำหน้าที่ยึดทรัพย์ และควรบรรเทาแก้ไขอย่างไรครับ

รายการปฎิบัติธรรมที่บ้าน คลับเฮ้าส์

วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๔

ถอดคำ : นกไดโนสคูล

ตรวจทาน : เอ้

รับชมคลิปhttps://www.youtube.com/watch?v=46dXOZXIWIc

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น